“หุ้นเอเชีย” เปิดลบ นักลงทุนกังวล “ชัตดาวน์สหรัฐ” ยืดเยื้อ กระทบความเชื่อมั่น

ตลาดหุ้นเอเชียเปิดลบตามทิศทางวอลล์สตรีท หลังนักลงทุนการชัตดาวน์รัฐบาลกลางที่ยืดเยื้อเข้าสู่วันที่ 9 ขณะการเจรจาระหว่างพรรครีพับลิกันและเดโมแครตยังไร้ข้อสรุป กระทบความเชื่อมั่นและบรรยากาศการลงทุนทั่วภูมิภาค


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ (10 ต.ค.68) ตลาดหุ้นเอเชียเปิดลบในวันนี้ (10 ต.ค.) ตามทิศทางตลาดหุ้นนิวยอร์กที่ปรับตัวลงในวันพฤหัสบดี (9 ต.ค.) ขณะที่นักลงทุนประเมินแนวโน้มเศรษฐกิจสหรัฐฯ หลังจากการปิดหน่วยงานของรัฐบาลล่วงเข้าสู่วันที่ 9 และแทบไม่มีสัญญาณบ่งชี้ว่าพรรครีพับลิกันและเดโมแครตจะสามารถตกลงกันได้เกี่ยวกับการผ่านร่างกฎหมายจัดสรรงบประมาณชั่วคราว ส่งผลให้นักลงทุนขาดแคลนข้อมูลเศรษฐกิจที่จำเป็น

ดัชนีนิกเกอิตลาดหุ้นญี่ปุ่นเปิดที่ระดับ 48,510.72 จุด ลดลง 69.72 จุด หรือ -0.14% ดัชนีฮั่งเส็งตลาดหุ้นฮ่องกงเปิดที่ระดับ 26,523.89 จุด ลดลง 228.70 จุด หรือ -0.85% และดัชนีเซี่ยงไฮ้คอมโพสิตตลาดหุ้นจีนเปิดที่ระดับ 3,915.48 จุด ลดลง 18.49 จุด หรือ -0.47%

ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้ปรับตัวขึ้น 0.66% ส่วนดัชนี ASX/S&P 200 ตลาดหุ้นออสเตรเลียลดลง 0.26%

ตลาดหุ้นจีนเปิดอ่อนแรงลงในวันนี้ หลังปิดตลาดพุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบกว่า 10 ปีเมื่อวานนี้ โดยได้แรงหนุนจากหุ้นกลุ่มเหมืองแร่ที่พุ่งขึ้นตามทิศทางราคาโลหะ หลังจากรัฐบาลจีนประกาศมาตรการควบคุมการส่งออกเทคโนโลยีที่ใช้ในการผลิตแร่หายาก โดยมีเป้าหมายเพื่อรักษาความมีอำนาจเหนือกว่าในอุตสาหกรรมแร่หายาก ท่ามกลางการแข่งขันด้านการค้าและเทคโนโลยีที่รุนแรงขึ้นกับสหรัฐอเมริกา

วุฒิสภาสหรัฐฯ ได้ลงมติผลักดันร่างกฎหมายงบประมาณชั่วคราวครั้งที่ 6 เมื่อวันพุธที่ผ่านมา (8 ต.ค.) ด้วยคะแนนเสียง 54 ต่อ 45 แต่คะแนนสนับสนุนไม่ถึง 60 คะแนนซึ่งเป็นเกณฑ์สำคัญในการผ่านร่างกฎหมายเพื่อให้หน่วยงานของรัฐบาลมีงบประมาณไปจนถึงวันที่ 21 พ.ย. ส่งผลให้การชัตดาวน์ยังคงดำเนินต่อไป ขณะที่สำนักงานงบประมาณของสภาคองเกรส (CBO) ประมาณการว่า พนักงานของรัฐบาลกลางประมาณ 750,000 คนจะถูกสั่งพักงานโดยไม่ได้รับค่าจ้างในช่วงการชัตดาวน์

สำนักข้อมูลเศรษฐกิจในเอเชียที่มีการเปิดเผยในช่วงเช้าวันนี้ ธนาคารกลางเกาหลีใต้ (BOK) เปิดเผยว่า ทุนสำรองเงินตราต่างประเทศของเกาหลีใต้ ณ สิ้นเดือน ก.ย. อยู่ที่ระดับ 4.2202 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ เพิ่มขึ้น 5.73 พันล้านดอลลาร์จากเดือนก่อนหน้า โดยได้รับปัจจัยหนุนหลักจากการเพิ่มขึ้นของยอดเงินฝากในสกุลเงินต่างประเทศที่ถือครองโดยสถาบันการเงินต่าง ๆ

ตัวเลขดังกล่าวนับเป็นการขยายตัวต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 4 นับตั้งแต่ทุนสำรองฯ ร่วงลงแตะระดับต่ำสุดในรอบ 5 ปีที่ 4.046 แสนล้านดอลลาร์เมื่อเดือน พ.ค.

Back to top button