“กัณฑรา” มอง SET พักฐาน หลัง DELTA กดดัชนีหลุด 1,300 จุด แนะจังหวะเก็บ 5 หุ้นเด่น

“กัณฑรา ลดาวัลย์ ณ อยุธยา” มอง DELTA เข้าสู่จุดสิ้นรอบ กดดันดัชนีหลุด 1,300 จุด แต่เชื่อเป็นจังหวะพักฐานเปิดทาง “หุ้นใหญ่แถว 1.5” โดยเฉพาะกลุ่มไฟฟ้า-ธนาคาร รับอานิสงส์ดอกเบี้ยขาลงและมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจระยะยาวของรัฐบาล


นายกัณฑรา ลดาวัลย์ ณ อยุธยา กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์ ฟินันเซีย ไซรัส จำกัด (มหาชน) เปิดเผยในรายการ “ข่าวหุ้นเจาะตลาด” เมื่อวันที่ 10 ตุลาคม 2568 ว่า การที่หุ้นบริษัท เดลต้า อีเลคโทรนิคส์ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) หรือ DELTA ถูกตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) จับเข้ามาตรการกำกับการซื้อขาย (Cash Balance) ถือเป็นสัญญาณว่าเข้าสู่จุดสิ้นสุดรอบการเก็งกำไรของหุ้นดังกล่าวในระยะนี้

ทั้งนี้ จากประสบการณ์ในอดีต DELTA มักถูกจับเข้ามาตรการในช่วงเดือนตุลาคมถึงพฤศจิกายนของทุกปี โดยครั้งนี้เกิดขึ้นเร็วกว่าปกติ ซึ่งอาจส่งผลให้ดัชนีตลาดหุ้นไทย (SET Index) ปรับตัวลงมาที่บริเวณ 1,300 จุด หรือต่ำกว่านี้เล็กน้อย อย่างไรก็ตาม มองว่าเป็น “การพักฐานที่ดี” หลังตลาดถูกขับเคลื่อนโดย DELTA เพียงตัวเดียวมาระยะหนึ่ง

“การปรับฐานครั้งนี้ไม่ได้เป็นเรื่องน่ากังวล เพราะเมื่อ DELTA จบเกม ก็จะเปิดโอกาสให้หุ้นขนาดใหญ่ตัวอื่น ๆ รับไม้ต่อได้ โดยเฉพาะหุ้นที่ยังมีปัจจัยพื้นฐานแข็งแกร่ง และได้อานิสงส์จากทิศทางดอกเบี้ยขาลงและมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาล” นายกัณฑรา กล่าว

ทั้งนี้ มองว่าหุ้น “แถว 1.5” ซึ่งหมายถึงกลุ่มหุ้นใหญ่ที่มีพื้นฐานดีและราคายังต่ำกว่ามูลค่าที่เหมาะสม จะเป็นตัวขับเคลื่อนตลาดในรอบถัดไป โดยเฉพาะกลุ่มไฟฟ้าที่ได้แรงหนุนจากความต้องการพลังงานสูงของศูนย์ข้อมูล (Data Center) เช่น GULF และ BGRIM รวมถึงกลุ่มธนาคารที่มีเสถียรภาพสูงอย่างธนาคารกรุงไทย (KTB) ซึ่งยังมีปัจจัยบวกจากการจ่ายปันผลและการเติบโตของสินเชื่อ

สำหรับทิศทางนโยบายการเงินมองว่าธนาคารแห่งประเทศไทยยังคงอัตราดอกเบี้ยไว้เพื่อรอจังหวะการปรับลดในรอบถัดไป ขณะที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) อยู่ในช่วงเริ่มรอบลดดอกเบี้ยอย่างค่อยเป็นค่อยไป ซึ่งเป็นปัจจัยบวกต่อกระแสเงินทุนเคลื่อนเข้าสู่ตลาดหุ้นเกิดใหม่รวมถึงไทย

นายกัณฑรา กล่าวเพิ่มเติมว่า รัฐบาลปัจจุบันอยู่ในช่วงเดินหน้านโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจต่อเนื่อง ทั้งมาตรการลดภาษี การกระตุ้นการบริโภค และการเตรียมเข้าสู่โหมดเลือกตั้ง ซึ่งจะส่งผลให้เม็ดเงินหมุนเวียนในระบบเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทำให้เศรษฐกิจไทยยังมีแนวโน้มฟื้นตัวในระยะถัดไป

สำหรับหุ้นเด่นเดือนตุลาคม บล.ฟินันเซียฯ แนะนำ CPALL, ICHI, KTB, MTC และ SYNEX ซึ่งเป็นกลุ่มที่อิงปัจจัยบริโภคในประเทศและได้รับผลดีจากแนวโน้มดอกเบี้ยขาลง โดยมองว่าในภาวะตลาดปรับฐาน นักลงทุนสามารถทยอยสะสมหุ้นพื้นฐานดีเพื่อรอการฟื้นตัวในรอบใหม่

Back to top button