
วอลล์สตรีทเสียงแตก! หุ้นแบงก์ดัน “ดาวโจนส์” บวกแรง สวนเทคดิ่งเหว-จับตาท่าที “พาวเวลล์”
ดัชนีดาวโจนส์ ปิดบวกขานรับงบการเงินไตรมาส 3/68 ธนาคารใหญ่ดีเกินคาด ขณะนักลงทุนจับตาท่าทีประธานเฟด หลังส่งสัญญาณใกล้ยุติการลดขนาดงบดุล ท่ามกลางความกังวลสงครามการค้าสหรัฐฯ–จีน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปิดบวกสลับลบเมื่อคืนที่ผ่านมา (15 ต.ค.68) โดย ดัชนีดาวโจนส์ ปิดบวก หลังได้รับแรงหนุนจากผลประกอบการในไตรมาส 3 /68 ของธนาคารรายใหญ่ที่ออกมาดีกว่านักวิเคราะห์คาดการณ์ ขณะที่ ดัชนี S&P 500 และ Nasdaq ปรับตัวลงจากแรงขายหุ้นเทคโนโลยี ท่ามกลางความวิตกเกี่ยวกับความตึงเครียดทางการค้าระหว่างสหรัฐฯ–จีน และการจับตาถ้อยแถลงล่าสุดของประธานธนาคารกลางสหรัฐฯ
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ (.DJI) ปิดที่ 46,270.46 จุด เพิ่มขึ้น 202.88 จุด หรือ +0.44% ขณะที่ ดัชนี S&P 500 (.SPX) ปิดที่ 6,644.31 จุด ลดลง 10.41 จุด หรือ 0.16% และ ดัชนี Nasdaq Composite (.IXIC) ปิดที่ 22,521.70 จุด ลดลง 172.91 จุด หรือ 0.76%
นายเจอโรม พาวเวลล์ ประธานธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ได้กล่าวสุนทรพจน์ต่อที่ประชุมสมาคมเศรษฐศาสตร์ธุรกิจแห่งชาติสหรัฐฯ (NABE) ที่เมืองฟิลาเดลเฟีย โดยระบุว่า เฟดอาจใกล้ถึงจุดที่จะยุติการลดขนาดงบดุล หรือการถือครองพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ แต่ยังไม่ส่งสัญญาณชัดเจนเกี่ยวกับ ทิศทางอัตราดอกเบี้ยในระยะยาว
นอกจากนี้ พาวเวลล์ ยังกล่าวถึงตลาดแรงงานว่า แม้อัตราว่างงานยังอยู่ในระดับต่ำจนถึงเดือนสิงหาคม 2568 แต่การจ้างงานใหม่ชะลอตัวลงอย่างมีนัยสำคัญ ส่วนหนึ่งมาจากการลดลงของแรงงานอพยพและการมีส่วนร่วมในตลาดแรงงานที่ลดลง ซึ่งสะท้อนถึงภาวะการเติบโตที่เริ่มชะลอตัวในบางภาคส่วนของเศรษฐกิจ