
88TH-DOD กอคอวิ่งคึก! เก็งยอดขายทะลักรับอานิสงส์ ‘เจนนี่ฟีเวอร์’
88TH-DOD กอคอวิ่งคึก! คาดนักลงทุนเก็งกำไร 88TH รับกระแส “เจนนี่ ฟีเวอร์” หนุนยอดขาย ต.ค.พุ่ง ทำสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์ตั้งแต่ก่อตั้งบริษัทมา เผยไลฟ์ 2 วัน 20 นาที กวาดยอดขาย 30 ล้านบาท มั่นใจดันไตรมาส 4/68 ทำเรคคอร์ดไฮ ฟาก DOD รับอานิสงส์ด้วย คาดยอดสั่งผลิตออเดอร์ซ้ำ ต.ค.พุ่งกระฉูด 20-30% หลัง 3 อินฟลูฯ ดังสร้างยอดขายทะลัก
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้(16ต.ค.68)ราคาหุ้นบริษัท 88(ไทยแลนด์) จำกัด (มหาชน) หรือ 88TH โดย ณ เวลา 10:07 น. อยู่ที่ระดับ 6.65 บาท บวก 0.15 บาท หรือ 2.31% ราคาต่ำสุด 6.60 บาท ราคาสูงสุด 6.65 บาท ด้วยมูลค่าซื้อขาย 9.41 ล้านบาท
ด้านบริษัท ดีโอดี ไบโอเทค จำกัด (มหาชน) หรือ DOD ณ เวลา 10:13 น. อยู่ที่ระดับ 2.08 บาท บวก 0.18 บาท หรือ 9.47% ราคาต่ำสุด 1.95 บาท ราคาสูงสุด 2.12 บาท ด้วยมูลค่าซื้อขาย 9.38 ล้านบาท
ด้านนางสาวนพรัตน์ มาลัยวงค์ ผู้ก่อตั้งและกรรมการ บริษัท 88(ไทยแลนด์) จำกัด (มหาชน) หรือ 88TH เปิดเผยว่า เดือนตุลาคม 2568 ถือเป็นเดือนที่ 88TH ประสบความสำเร็จอย่างมาก เพราะช่วงต้นเดือนที่ผ่านมา บริษัทได้เข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ (mai) หลังจากนั้นเกิดปรากฏการณ์กระแสไลฟ์สด “เจนนี่ ฟีเวอร์” ส่งผลให้บริษัทมียอดขายจากการนำผลิตภัณฑ์ภายใต้แบรนด์ LYO และแบรนด์ Hone ซึ่งเป็นแบรนด์ที่ “คุณหนุ่ม กรรชัย กำเนิดพลอย” เป็นพาร์ตเนอร์ทางธุรกิจกับแบรนด์ดังกล่าว เข้าร่วมไลฟ์สดพร้อมปักตะกร้าในไลฟ์ของ “เจนนี่” 2 วัน โดย 2 วันดังกล่าวใช้เวลาไลฟ์สดรวมกันเพียง 20 นาที สามารถสร้างยอดขายเกือบ 30 ล้านบาท
“ช่วงระหว่างการไลฟ์สดกับคุณเจนนี่ ทางบริษัทได้เปิดไลฟ์ Official ของบริษัทควบคู่ไปด้วย ส่งผลให้ 2 วันดังกล่าว บริษัทมียอดขายจากช่องทาง Official Account ของบริษัทเองด้วยที่ประมาณ 2.5 ล้านบาท ซึ่งเป็นการช่วยกระตุ้นยอดขายผลิตภัณฑ์ให้เพิ่มสูงขึ้น โดยคำสั่งซื้อที่เข้ามาทั้งหมดบริษัทจะดำเนินการจัดส่งทั้งหมดภายใน 48 ชั่วโมง” นางสาวนพรัตน์ กล่าว
นอกจากยอดขายสินค้าที่เพิ่มอย่างมีนัยสำคัญแล้ว ยังเป็นการสร้างปรากฏการณ์ใหม่ของเดือนตุลาคมที่มียอดขายเติบโตทำสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์ตั้งแต่ก่อตั้งบริษัทมา (Record High) ซึ่งจะส่งผลเชิงบวกต่อยอดขายโดยรวมในไตรมาส 4/2568 ที่จะสร้าง Record High ด้วย
สำหรับออเดอร์ดังกล่าว นอกจากจะมาจากกระแส “เจนนี่ ฟีเวอร์” แล้ว ยังมาจากช่องทางการขายอื่นด้วย ทั้งช่องทางโมเดิร์นเทรด ที่มีคำสั่งซื้อเข้ามาเพิ่มขึ้น ขณะที่ยอดขายในช่องทาง E-Commerce ของบริษัทมีอัตราการเติบโต 2-3 เท่า จากการเปิดอัลกอริทึมที่สร้างการรับรู้เป็นวงกว้างมากขึ้น ซึ่งถือว่าเป็นการช่วยกระตุ้นยอดขาย ควบคู่กับการสร้างการรับรู้แบรนด์ไปพร้อม ๆ กัน
นางสาวนพรัตน์ กล่าวอีกว่า จากยอดออเดอร์ที่เพิ่มขึ้นเป็นประวัติการณ์ในช่วงเดือนตุลาคม ส่งผลให้กลุ่มบริษัทต้องขยายไลน์การผลิตในกลุ่มเส้นผมและหนังศีรษะเพิ่มขึ้น 3 เท่าตัวจากปกติ ทั้งผลิตภัณฑ์ไลโอแฮร์โทนิค แชมพู และครีมนวดผม ซึ่งเป็นสินค้าหลักในเรื่องของลดผมร่วง เพื่อรองรับคำสั่งซื้อใหม่ที่จะเข้ามาเพิ่มขึ้น โดยไม่จำเป็นต้องลงทุนเครื่องจักรและอุปกรณ์เพิ่มเติม เพราะกำลังการผลิตเพียงพอ
โดยปัจจุบัน 88TH มีโรงงานผลิตเอง ซึ่งดำเนินการภายใต้บริษัท ดีโอเค สกิน จำกัด ที่บริษัทถือหุ้นในสัดส่วน 99.99% ดังนั้น การที่แบรนด์ LYO มียอดขายเพิ่มขึ้น ส่งผลให้ ดีโอเค สกิน มียอดผลิตเพิ่มขึ้นด้วย ภายใต้กำลังการผลิตที่เพิ่มขึ้น จะส่งผลให้ต้นทุนต่อหน่วยในการผลิตลดลง (Economy of Scale) ซึ่งจะสร้างผลประโยชน์ในเชิงโครงสร้างของการดำเนินธุรกิจให้กับทั้ง 2 บริษัทควบคู่กัน
ส่วนนายต่อลาภ ไชยเชาวน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ดีโอดี ไบโอเทค จำกัด (มหาชน) หรือ DOD เปิดเผยว่า จากปรากฏการณ์กระแสไลฟ์สด “เจนนี่ ฟีเวอร์” ในช่วงที่ผ่านมา หนุนให้ยอดผลิตคำสั่งซื้อ (ออเดอร์) ทั้งผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร และคอลลาเจน เฉพาะเดือนตุลาคมเพิ่มขึ้น 20-30% จากเดือนก่อนหน้านี้ โดยเป็นผลมาจาก 3 อินฟลูเอนเซอร์ (Influencer) ชื่อดัง ซึ่งผลิตออเดอร์สินค้ากับ DOD ได้เข้าร่วมไลฟ์สดกับ “เจนนี่” ส่งผลให้ยอดขายสินค้าของอินฟลูเอนเซอร์ 2 ใน 3 ราย มียอดขายแตะระดับ 10 ล้านบาทอย่างรวดเร็ว ซึ่งปรากฏการณ์ดังกล่าว ส่งผลให้มีคำสั่งผลิตออเดอร์ซ้ำเพิ่มขึ้นเฉลี่ย 3-6 ล้านบาทต่อราย และในเร็ว ๆ นี้ ยังมีอินฟลูเอนเซอร์ หรือผู้ประกอบการเจ้าของสินค้า ซึ่งเป็นกลุ่มลูกค้าของ DOD อยู่ในลิสต์รายชื่อที่เตรียมทยอยไลฟ์สดกับ “เจนนี่” อย่างต่อเนื่อง และจากปัจจัยดังกล่าว จะส่งผลเชิงบวกต่อบริษัทด้วย เนื่องจากจะหนุนให้รายได้จากยอดการผลิตในไตรมาส 4/2568 ปรับตัวเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ
“ปรากฏการณ์เจนนี่ ฟีเวอร์ ไลฟ์สดขายของ มีกลุ่มลูกค้าที่มาผลิตผลิตภัณฑ์กับ DOD เข้าร่วมกิจกรรม หลายราย และสามารถสร้างยอดขายจากการไลฟ์สดครั้งนี้ได้เป็นจำนวนมาก ส่งผลให้มียอดคำสั่งซื้อเข้ามาสูงกว่าปกติ บางรายจากปกติมีคำสั่งการผลิตเฉลี่ย 20,000 กล่องต่อเดือน แต่จากไลฟ์สดในช่วงข้ามคืนสินค้าที่มีอยู่ในสต๊อกไม่เพียงพอต่อยอดสั่งซื้อจากการไลฟ์สด ทำให้ต้องสั่งผลิตออเดอร์ซ้ำจาก DOD เข้ามาเพิ่ม 3-4 เท่าตัว ซึ่งจากอานิสงส์ดังกล่าวหนุนให้ยอดคำสั่งผลิตเดือนตุลาคมสูงขึ้น” นายต่อลาภ กล่าว
ทั้งนี้ แม้ยอดออเดอร์การผลิตที่เพิ่มสูงขึ้นมากกว่าปกติ แต่ด้วยมาตรฐานการผลิตสินค้าที่มีคุณภาพของ DOD สามารถซัพพอร์ตลูกค้าได้ เนื่องจากบริษัทมีนวัตกรรมไลน์การผลิตในโรงงานที่ทันสมัย มีประสิทธิภาพในทุกกระบวนการผลิตที่ครบทุกมิติ ทำให้สามารถตอบโจทย์ทุกความต้องการของเจ้าของแบรนด์ที่มีเข้ามาจำนวนมาก ซึ่งจะเป็นการเพิ่มโอกาสการต่อยอดทางธุรกิจระหว่าง DOD ในฐานะผู้ผลิตผลิตภัณฑ์ และผู้ประกอบการในฐานะเจ้าของแบรนด์สามารถเติบโตควบคู่ไปด้วยกันอย่างยั่งยืน
นายต่อลาภ กล่าวอีกว่า ด้วยจุดแข็งสำคัญของ DOD ที่สร้างความเชื่อมั่นให้ลูกค้ามาอย่างยาวนาน ไม่ว่าจะเป็นเรื่องนวัตกรรมที่ทันสมัย ที่สามารถผลิตผลิตภัณฑ์เสริมอาหารได้หลายรูปแบบตามความต้องการของลูกค้า ทีมงานด้านงานวิจัยและพัฒนา (R&D) มีผลงานด้านคิดค้นสูตรผลิตผลิตภัณฑ์เสริมอาหารที่มีประสิทธิภาพสูง โดยเฉพาะสารสกัดจากสมุนไพรไทย ส่งผลให้บริษัทได้รับความไว้วางใจจากกลุ่มลูกค้าที่มีชื่อเสียงและการยอมรับจากผู้บริโภค ส่งผลให้มีออเดอร์การผลิตผลิตภัณฑ์เสริมอาหารเข้ามาอย่างต่อเนื่อง
นอกจากนี้ ยังได้รับความไว้วางใจจากกลุ่มลูกค้ามาโดยตลอด เนื่องจากมีฐานการผลิต (Production Base) ที่มีมาตรฐานในระดับสูง ซึ่งถูกออกแบบเป็น Clean Room โดยได้รับการการันตีระดับมาตรฐานการผลิต GMP, GHPs, HACCP, ISO 22000, ISO 14001 และ ISO/IEC 17025 สู่การยกระดับบริษัทให้เป็น “Manufacturing Brand Company” ด้านผลิตภัณฑ์เสริมอาหารเพื่อสุขภาพและความงามในระดับสากล