จุดจบแก๊งเชือดหมู

วันก่อน “โมนิก้า” คิดจะพูดถึงเรื่องกระทรวงยุติธรรมสหรัฐฯ ประกาศยึดบิตคอยน์มูลค่า 15,000 ล้านดอลลาร์ หรือประมาณ 5 แสนล้านบาทจากกระเป๋าเงินดิจิทัลของนาย “เฉิน จื้อ”


เจาะกระดาน: โมนิก้าและทีมงาน

*วันก่อน “โมนิก้า” คิดจะพูดถึงเรื่องกระทรวงยุติธรรมสหรัฐฯ ประกาศยึดบิตคอยน์มูลค่า 15,000 ล้านดอลลาร์ หรือประมาณ 5 แสนล้านบาทจากกระเป๋าเงินดิจิทัลของนาย “เฉิน จื้อ” ซึ่งเป็นผู้ก่อตั้ง และเป็นประธานกลุ่มบริษัท Prince Holding Group ซึ่งเป็นกลุ่มธุรกิจข้ามชาติที่ตั้งอยู่ในเขมร และมีการเติบโตอย่างลับ ๆ จนกลายเป็นหนึ่งในองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติที่ใหญ่สุดในเอเชียนะจะบอกให้

*จุดที่น่าสนใจคือกลุ่มนี้ถูกขนานนามให้เป็น Pig Butcheringซึ่งเป็นแก๊งสแกมเมอร์ขนาดใหญ่ในประวัติศาสตร์ โดยขบวนการดังกล่าวใช้เงินจากการหลอกลวงไปซื้อสินค้าฟุ่มเฟื่อยไม่ว่าจะเป็นคฤหาสน์หรู เครื่องบินเจ็ต เรือยอชต์ และนาฬิกา ซึ่งประเด็นดังกล่าวทำให้มีการผูกโยงไปถึงเครือญาติตระกูลฮุนเซนอาจมีส่วนเกี่ยวข้องไม่มากก็น้อย ซึ่งเป็นเรื่องที่ทำให้สังคมตื่นตัวขึ้นมาอีกครั้งพะยะค่ะ

*เนื่องจากก่อนหน้านี้สหรัฐฯ ได้ขึ้นบัญชีดำบริษัทเทคที่เป็นดาวงรุ่งอย่าง ฮุ่ยวัน (Huione) ตั้งแต่วันที่ 1 พ.ค. 68 พร้อมกับประจานให้ทั่วโลกได้รู้ว่า บริษัทนี้ไม่ใช่ฟินเทค! แต่เป็นระบบการทำธุรกรรมการเงินของมิจฉาชีพในเอเชีย และได้กลายเป็นระบบชำระเงินใต้ดินระดับโลกไปแล้ว เพราะทำหน้าที่ฟอกเงินให้กับแก๊งอาชญากรทั่วเอเชีย รวมถึงแฮกเกอร์เกาหลีเหนือที่อยู่เบื้องหลังคดีล้วงข้อมูล และอาชญากรรมไซเบอร์ระดับโลกนะซี

*ที่น่าสนใจคือมีการอ้างอิงข้อมูลจากกระทรวงการคลังสหรัฐฯ ว่า นับตั้งแต่ปี 64 “กลุ่มฮุ่ยวัน” ของกัมพูชาดำเนินการฟอกเงินไปแล้วกว่า 4 พันล้านดอลลาร์ หรือประมาณ 1.30 แสนล้านบาท แต่ถ้านับตั้งแต่เริ่มกิจการในปี 57 จนถึงปัจจุบันกลุ่มนี้มีการฟอกเงินไปแล้ว 9.80 หมื่นล้านดอลลาร์ หรือประมาณ 3.2 ล้านล้านบาท ซึ่งบริษัทนี้บริหารงานโดย “ฮุนโต” ซึ่งเป็นหลายชายของ “ฮุนเซน” และเป็นลูกพี่ลูกน้องกับ “ฮุนมาเนต” ไงล่ะคะ

*พร้อมกันนี้ยังมีการกล่าวว่า  Huione มีธุรกรรมการเงินที่เกี่ยวข้องกับ B.I.C Group. อย่างน่าสงสัย ประกอบกับนาย “ยิม เลียก” ที่นั่งเป็นประธานบริษัท ก็เป็นหนึ่งในพันธมิตรที่ดีของตระกูลฮุนเซน เพราะพี่สาวของเขาคือ “ยิม ไช ลิน” ได้เข้าพิธีแต่งงานกับลูกชายคนที่ 4 ของฮุนเซนที่ชื่อ “ฮุน มานี” ผนวกกับ B.I.C ก็เข้ามาถือหุ้น BCPG ก่อนจะมีเรื่องอื้อฉาวเกิดขึ้นแบบนี้ มันคิดเป็นเรื่องอื่นไม่ได้จริง ๆ นะตัวเอง

*ร้ายไปกว่านั้น!..มีการพูดกันว่า คนเดินหมากเกมการเงินทั้งหมดคือ “เบน สมิธ” ซึ่งเป็นคนที่หน่วยงานต่าง ๆ ต้องการตัวมากสุดในขณะนี้ เพราะเป็นเพียงคนเดียวที่น่าจะให้คำตอบเรื่องราวที่เกิดขึ้นได้ดีสุด แต่พ่อหนุ่มกลัดมันคนนี้ก็หายเข้ากลีบเมฆไปไหนก็ไม่รู้? จึงทำให้สังคมไทยไล่บี้คนที่เกี่ยวข้องทางตรง และทางอ้อมอย่างหนักหน่วง เพราะไม่สามารถปล่อยให้กลุ่มทุนสีเทาเข้ามายุ่มย่ามธุรกิจในประเทศไทยเจ้าค่ะ

*งานนี้บอกได้คำเดียวว่า กลุ่มคนที่เอ่ยชื่อมาทั้งหมดอยู่ยากอย่างแน่นอน เพราะข้อมูลใหม่ ๆ ที่พัวพันกับการฟอกเงินยังพรั่งพรูออกมาต่อเนื่อง “โมนิก้า” จึงขอเป็นอีกหนึ่งกระบอกเสียงในการรวบรวมข้อมูลแบบกระชับมาเล่าให้แฟนคลับฟัง เพราะเมื่อดูองค์ประกอบต่าง ๆ ที่เกิดขึ้น อีฉันก็เชื่อเหลือเกินว่า ใกล้ถึงจุดจบของแก๊งเชือดหมูเข้ามาทุกที แถมวันที่ 20 ต.ค. ฝั่งเขมรนำโดย “ฮุนเซน” จะเปิดโปงเว็บพนันที่อยู่ภายใต้ปีกนักการเมืองไทย หากไม่ยอมเปิดด่านแบบนี้..มันแน่ ๆ พะยะค่ะ

*สุดท้ายนี้ไม่ว่าเรื่องฉาวจะ “จบ” หรือ “ไม่จบ” ก็ทำให้อีฉันได้เห็นพฤติกรรมน่ารังเกียจของบุคคลต่าง ๆ ที่เข้ามาเกี่ยวข้องกับเรื่องสกปรก และยังทำให้เห็นการทำงานของหน่วยงานไทยช้าเป็นเต่ามันเป็นอย่างไร? และนี่เป็นเหตุผลที่ทำให้ “โมนิก้า” ต้องขอชื่นชมการทำงานพรรคส้มที่ทำงานแบบกัดไม่ปล่อย จนตัวละครลับถูกกระชากหน้ากากออกมาทีละคนแบบนี้..อีฉันชอบเหลือเกินจ้า!

Back to top button