“ทีเอสเอ็ม กรุ๊ป” คว้ามาตรฐาน “VIVE Programme” รายแรกเอเชีย หนุนศักยภาพแข่งขัน

ทีเอสเอ็ม กรุ๊ป คว้ามาตรฐาน VIVE Programme รายแรกในเอเชีย สำหรับผลิตภัณฑ์ Ethanol และ Bio- CO₂ ในเวลาเพียง 2 ปี สร้างความได้เปรียบทางการแข่งขัน ทั้งในและต่างประเทศ


ทีเอสเอ็ม กรุ๊ป เปิดเผยว่ากลุ่มบริษัทฯ มุ่งมั่นดำเนินธุรกิจอ้อยและน้ำตาลอย่างรับผิดชอบต่อสิ่งแวดล้อมและสังคม ภายใต้มาตรฐานความยั่งยืนระดับสากล VIVE Programme โดยความร่วมมือกับเกษตรกรผู้ปลูกอ้อยที่ใส่ใจวิถีเกษตรยั่งยืน อ้อยที่เก็บเกี่ยวแล้วถูกนำเข้าสู่กระบวนการผลิตอย่างครบวงจร เริ่มต้นจาก การเพาะปลูกอ้อย ซึ่งดูดซับคาร์บอนไดออกไซด์จากอากาศตามธรรมชาติ

ทั้งนี้ เมื่อนำอ้อยเข้าสู่กระบวนการผลิตในโรงงานน้ำตาล จะได้ น้ำอ้อยใส สำหรับผลิตเป็นน้ำตาลทรายและผลพลอยได้จากกระบวนการผลิต ที่สามารถนำกลับมาใช้ประโยชน์อย่างคุ้มค่า เช่น ชานอ้อย ที่เหลือจากการหีบอ้อย นำไปใช้ผลิตพลังงานไฟฟ้าชีวมวล เพื่อป้อนกลับเข้าสู่โรงงานและจำหน่ายเป็นพลังงานสีเขียว น้ำอ้อยที่ผ่านการตกตะกอน จะมีกากตะกอน

โดยเรานำกลับไปใช้เป็นปุ๋ยอินทรีย์ในไร่อ้อย เพื่อบำรุงดินและสร้างคุณค่าการเพาะปลูกอย่างยั่งยืน น้ำอ้อยใส ถูกแปรรูปเป็นน้ำตาลทรายคุณภาพสูง สำหรับอุปโภคบริโภคและอุตสาหกรรมต่างๆ ขณะเดียวกันยังได้ผลพลอยได้คือ กากน้ำตาล (โมลาส) ซึ่งเป็นผลพลอยได้จากการผลิตน้ำตาล นำไปใช้ผลิต เอทานอลสำหรับเป็นเชื้อเพลิงชีวภาพ

ดร.กนกวรรณ ว่องวัฒนะสิน ประธานเจ้าหน้าที่บริหารสายงานกำกับองค์กร บริษัท น้ำตาลไทยอุดรธานี จำกัด (ในเครือทีเอสเอ็ม กรุ๊ป) ผู้ประกอบธุรกิจโรงงานผลิตน้ำตาล เอทานอล และพลังงานไฟฟ้า​ชีวมวล​และก๊าซชีวภาพ เปิดเผยว่า บริษัทได้รับมาตรฐาน VIVE ระดับ Claim Level ในธุรกิจเอทานอลจากอ้อย และคาร์บอนไดออกไซด์ชีวภาพ (Bio- CO₂) จากการพัฒนาระบบดักจับก๊าซในการผลิตเอทานอล ซึ่งนับเป็นผู้ผลิตรายแรกในเอเชียที่ได้รับการรับรองในทั้งสองผลิตภัณฑ์

ทั้งนี้ โปรแกรม VIVE Programme เป็นมาตรฐานความยั่งยืนในห่วงโซ่อุปทานระดับนานาชาติที่พัฒนาขึ้นโดยความร่วมมือระหว่าง Czarnikow Group Limited (CGL) บริษัทที่ปรึกษาด้านการบริหารจัดการห่วงโซ่อุปทานซึ่งมีประสบการณ์กว่า 160 ปี ในอุตสาหกรรมอาหาร เครื่องดื่ม และพลังงาน ร่วมกับ Intellync เพื่อยกระดับห่วงโซ่ธุรกิจทั่วโลกให้บรรลุเป้าหมายด้านสิ่งแวดล้อม สังคม และธรรมาภิบาล (ESG) โดยครอบคลุมตั้งแต่เกษตรกร ผู้ผลิต ไปจนถึงผู้ใช้งานปลายทางในอุตสาหกรรมต่างๆ

เพื่อต่อยอดทรัพยากรอย่างคุ้มค่า ทีเอสเอ็ม กรุ๊ป ได้ลงทุนพัฒนาโครงการ Carbon Capture Usage / CO₂ Purification นำก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์จากกระบวนการผลิตมาแปรรูปเป็น Bio- CO₂ ที่มีคาร์บอนฟุตพริ้นท์ต่ำ ตอบโจทย์ความต้องการในอุตสาหกรรมพลังงาน อาหาร เครื่องดื่ม และเภสัชกรรม

ขณะเดียวกัน การที่ ทีเอสเอ็ม กรุ๊ปได้รับการรับรองมาตรฐาน VIVE ถือเป็นการตอกย้ำจุดยืนในการบริหารจัดการห่วงโซ่อุปทานอย่างเป็นระบบ โดยให้ความสำคัญกับการใช้ทรัพยากรอย่างคุ้มค่า พร้อมยกระดับมาตรฐานการดำเนินธุรกิจที่คำนึงถึงสิ่งแวดล้อม สังคม และธรรมาภิบาล (ESG) ตลอดจนส่งเสริมคุณภาพชีวิตที่ดีของเกษตรกรและชุมชนโดยรอบตามเจตนารมณ์ของบริษัท

ความสำเร็จครั้งนี้ไม่เพียงยืนยันว่าเราพร้อมเติบโตไปพร้อมกับการรักษาสมดุลระหว่างเศรษฐกิจ สิ่งแวดล้อม และสังคม แต่ยังช่วยสร้างคุณค่าแก่ผู้มีส่วนได้ส่วนเสียทุกภาคส่วน อีกทั้งมาตรฐาน VIVE ยังเป็นแต้มต่อสำคัญที่ช่วยเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันทั้งในประเทศและต่างประเทศ ตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภคและคู่ค้าที่ให้ความสำคัญกับธุรกิจที่ใช้ทรัพยากรอย่างมีประสิทธิภาพและยั่งยืน ดร.กนกวรรณ กล่าว

Back to top button