
จับตา ครม. ถกแพ็กเกจพลังงาน “Quick Big Win” – “พิพัฒน์” นั่งหัวโต๊ะแทน “อนุทิน”
ครม. นัด 28 ต.ค. “พิพัฒน์” ทำหน้าที่ประธานแทน “อนุทิน” ที่เดินทางร่วมประชุมอาเซียน–เอเปค ลุ้นกระทรวงพลังงานเสนอแพ็กเกจ “Quick Big Win” ขณะ “กสทช.” เตรียมชงโครงการ “เน็ตคนละครึ่ง” หนุนผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐกว่า 14 ล้านราย เข้าถึงอินเทอร์เน็ตราคาพิเศษ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ (28 ต.ค.68) เวลา 10.00 น. นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม จะเป็นประธานการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) แทนนายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ซึ่งมีกำหนดเข้าร่วมการประชุมสุดยอดอาเซียน ครั้งที่ 47 ณ ประเทศมาเลเซีย ก่อนจะเดินทางต่อไปยังสาธารณรัฐเกาหลี เพื่อเข้าร่วมการประชุมผู้นำเขตเศรษฐกิจเอเปค สมัยที่ 32 ในช่วงเย็นวันเดียวกัน
ทั้งนี้ เป็นที่จับตาว่า ที่ประชุม ครม. วันนี้ กระทรวงพลังงานจะสามารถเสนอแผน “Quick Big Win” ชุดมาตรการลดค่าครองชีพและสร้างรายได้ให้ชุมชน เข้าสู่การพิจารณาทันหรือไม่ เนื่องจากรายงานล่าสุดระบุว่า ยังไม่มีการบรรจุเรื่องดังกล่าวไว้ในระเบียบวาระ หากจะเสนอทันในวันนี้ ต้องเพิ่มเข้าวาระจร
สำหรับมาตรการ “Quick Big Win” ของกระทรวงพลังงาน ประกอบด้วย 5 โครงการหลัก ได้แก่
1. โครงการโซลาร์ฟาร์มชุมชน
2. โครงการโซลาร์สูบน้ำเพื่อการเกษตร
3. โครงการส่งเสริมการติดตั้ง Solar Rooftop ในบ้านเรือน
4. โครงการโซลาร์ลอยน้ำในเขื่อน (Floating PV) ของการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.)
5. โครงการส่งเสริมการติดตั้งระบบผลิตไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์สำหรับหน่วยงานของรัฐ
“อรรถพล” เผย กพช. เห็นชอบกรอบ “โซลาร์ฟาร์มชุมชน” – หนุนไฟฟ้าราคาถูกลงทั่วประเทศ
เมื่อวันที่ 27 ตุลาคม 2568 นายอรรถพล ฤกษ์พิบูลย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ (กพช.) ซึ่งมีนายพิพัฒน์ รัชกิจประการ เป็นประธานแทนนายกรัฐมนตรี ได้เห็นชอบกรอบหลักการเบื้องต้นของการดำเนิน “โครงการโซลาร์ฟาร์มชุมชน” (Community-based Solar Power Generation Project) ซึ่งเป็นหนึ่งในนโยบาย Quick Big Win ของกระทรวงพลังงาน
โครงการดังกล่าวมีเป้าหมายเพื่อผลักดันและขับเคลื่อนพลังงานชุมชน สร้างความมั่นคงทางพลังงานระดับท้องถิ่น และลดภาระค่าไฟของประชาชน โดยจะเป็นโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ติดตั้งบนพื้นดิน ขนาดไม่เกิน 10 เมกะวัตต์ต่อแห่ง รวมกำลังการผลิตไม่เกิน 1,500 เมกะวัตต์
รูปแบบการขายไฟจะอยู่ในระบบ Feed-in Tariff (FiT) อัตราไม่เกิน 2.25 บาทต่อหน่วย ระยะเวลา 25 ปี แบบ Non-Firm Contract โดยการไฟฟ้าฝ่ายจำหน่ายจะรับซื้อไฟฟ้าและจำหน่ายต่อให้ผู้ใช้ไฟในชุมชนเป้าหมาย ทั้งนี้ การคัดเลือกเอกชนร่วมดำเนินโครงการจะพิจารณาจากความพร้อมด้านคุณสมบัติและเทคนิค เพื่อให้มั่นใจว่าสามารถดำเนินการได้ตามแผนตลอดอายุสัญญา
ในส่วนของ Renewable Energy Certificate (REC) หรือ Carbon Credit ที่เกิดจากโครงการ จะเป็นกรรมสิทธิ์ของภาครัฐ และจะระบุไว้ในสัญญาซื้อขายไฟฟ้าอย่างชัดเจน โดยที่ประชุม กพช. มอบหมายให้กระทรวงพลังงาน กระทรวงมหาดไทย และการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (กฟภ.) ร่วมกันกำหนดพื้นที่เป้าหมายและหลักเกณฑ์การเข้าร่วมโครงการให้แล้วเสร็จภายในเดือนพฤศจิกายนนี้ คาดว่าชุมชนจะสามารถใช้ไฟฟ้าราคาถูกลง 40–80 สตางค์ต่อหน่วยตลอดอายุสัญญา
กสทช. ชง “เน็ตคนละครึ่ง” – หนุนบัตรสวัสดิการเข้าถึงอินเทอร์เน็ตราคาพิเศษ
นอกจากนี้ ที่ประชุม ครม. ยังมีวาระสำคัญจากหน่วยงานอื่น ๆ อาทิ สำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) เตรียมเสนอ “โครงการเน็ตคนละครึ่ง” โดย นายไตรรัตน์ วิริยะศิริกุล รองเลขาธิการ และรักษาการเลขาธิการ กสทช. ระบุว่า โครงการดังกล่าวมีเป้าหมายยกระดับการเข้าถึงอินเทอร์เน็ตของผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐกว่า 14 ล้านราย เพื่อลดความเหลื่อมล้ำทางดิจิทัลและเพิ่มโอกาสด้านการศึกษา โดยใช้งบจากกองทุนวิจัยและพัฒนากิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมเพื่อประโยชน์สาธารณะ (กทปส.) สนับสนุนค่าบริการอินเทอร์เน็ตในอัตรา 160 บาทต่อเดือน (รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม) จากเดิมที่ผู้ให้บริการเอกชนเสนอราคา 199 บาท (ไม่รวมภาษี) ผู้ได้รับสิทธิ์จะได้รับอินเทอร์เน็ตจำนวน 40 GB ต่อเดือน ใช้สิทธิ์ได้ 3 รอบบิล ทั้งนี้ กสทช. จะเสนอผ่านกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอี) ก่อนเข้าสู่การพิจารณาของ ครม.
กระทรวงยุติธรรม เสนอขออนุมัติก่อหนี้ผูกพันข้ามปีงบประมาณ เพื่อเช่าที่ดินจากการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) บริเวณย่านจตุจักร กรุงเทพมหานคร สำหรับใช้เป็นที่ตั้งที่ทำการศาลเยาวชนและครอบครัวกลาง

