เริ่มแล้ววันนี้! ค่าโดยสาร BTS “ส่วนต่อขยาย” ปรับขึ้นตามระยะทาง 17–45 บาท

กทม. เริ่มเก็บค่าโดยสารรถไฟฟ้าสายสีเขียวส่วนต่อขยาย 3 ช่วง ตามโครงสร้างใหม่ “ค่าโดยสารตามระยะทาง” จากเดิม 15 บาทตลอดสาย เป็นเริ่มต้น 17 บาท สูงสุด 45 บาท “ชัชชาติ” แจงสะท้อนต้นทุนจริง หลังขาดทุนปีละกว่า 6 พันล้านบาท ด้าน “สภาผู้บริโภค” ร้องทบทวน หวั่นกระทบผู้มีรายได้น้อย


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ (1 พ.ย.68) เป็นวันแรกที่กรุงเทพมหานคร (กทม.) ปรับโครงสร้างอัตราค่าโดยสารรถไฟฟ้าสายสีเขียว ส่วนต่อขยาย ทั้งสามช่วง ได้แก่ หมอชิต–คูคต, บางจาก–สมุทรปราการ และโพธิ์นิมิตร–บางหว้า จากอัตราเดิม 15 บาทตลอดสาย มาเป็นโครงสร้าง “ค่าโดยสารตามระยะทาง” (Distance Fare)

อัตราใหม่เริ่มต้นที่ 17 บาท และเพิ่มขึ้นตามระยะทางไม่เกิน 45 บาท โดยมีส่วนลดพิเศษสำหรับเด็กและนักศึกษา (อายุไม่เกิน 23 ปี) 30% และผู้สูงอายุ (60 ปีขึ้นไป) 50%

นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เปิดเผยว่า การบริหารงานรถไฟฟ้าสายสีเขียวในช่วงที่ผ่านมา ภายใต้นโยบายค่าโดยสาร 15 บาทตลอดสาย ส่งผลให้ กทม. ต้องจ่ายค่าจ้างเดินรถปีละราว 8,000 ล้านบาท แต่สามารถจัดเก็บรายได้เพียงประมาณ 2,000 ล้านบาท ทำให้ขาดทุนปีละกว่า 6,000 ล้านบาท

ทั้งนี้ แม้อัตราค่าโดยสารใหม่ไม่เกี่ยวข้องกับภาระหนี้ที่ กทม.คงค้างอยู่กับเอกชนคู่สัญญา แต่จำเป็นต้องใช้งบประมาณส่วนอื่นมาชดเชย ซึ่งไม่เป็นธรรมกับประชาชนที่ไม่ได้ใช้บริการ เนื่องจากเป็นเงินภาษีของประชาชนทั้งหมด ดังนั้น กทม.จึงจำเป็นต้องปรับโครงสร้างค่าโดยสารให้สะท้อนต้นทุนที่แท้จริง โดยบางเส้นทางระยะสั้นภายในเมืองอาจมีค่าโดยสารถูกลง ส่วนผู้โดยสารที่เดินทางระยะไกลจะมีค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้นตามระยะทาง

ขณะที่เมื่อวันที่ 31 ตุลาคม 2568 สภาองค์กรของผู้บริโภค พร้อมเครือข่ายผู้บริโภค เข้ายื่นหนังสือถึงนายวิพุธ ศรีวะอุไร ประธานสภากรุงเทพมหานคร เพื่อเสนอให้พิจารณาทบทวนประกาศการปรับราคาค่าโดยสารรถไฟฟ้าสายสีเขียวส่วนต่อขยาย 1 และ 2 ที่จะเริ่มเรียกเก็บอัตราใหม่ 17–45 บาท และสูงสุด 65 บาทเมื่อเดินทางเชื่อมต่อกับสายหลัก โดยมีนายเนติภูมิ มิ่งรุจิราลัย รองประธานสภากรุงเทพมหานคร เป็นผู้รับหนังสือแทน

พร้อมมีข้อเสนอแนะเพื่อแก้ไขปัญหาดังกล่าว 4 ข้อ ดังนี้

  1. ขอให้สภากรุงเทพมหานคร เรียกประชุมด่วนเพื่อทบทวนและชะลอมาตรการปรับราคา จนกว่าจะเปิดเผยข้อมูลต้นทุนและสัญญาที่เกี่ยวข้องต่อสาธารณะ พร้อมเปิดรับฟังความเห็นจากประชาชนอย่างโปร่งใส
  2. สนับสนุนให้ กทม. ขอรับงบอุดหนุนรายปีจากรัฐบาล เพื่อแบ่งเบาภาระค่าใช้จ่ายและรักษาอัตราค่าโดยสารที่เป็นธรรม
  3. เสนอให้ปรับโครงสร้างสัญญาจ้างเดินรถและหนี้สินกับเอกชน เพื่อไม่ให้ภาระตกกับผู้บริโภค และกำหนดให้มีการประเมินผลกระทบทางสังคมก่อนปรับราคา
  4. สนับสนุนแนวทางเจรจาพักชำระหนี้กับกระทรวงการคลัง หรือโอนภาระหนี้ค่าก่อสร้างส่วนต่อขยายให้การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) เพื่อไม่ให้กระทบงบประมาณ กทม. ในระยะยาว

ทั้งนี้ การปรับอัตราค่าโดยสารดังกล่าว กทม. ระบุว่าเป็นส่วนหนึ่งของแนวทางบริหารต้นทุนให้ยั่งยืน ขณะที่ภาคประชาชนยังคงจับตาผลกระทบต่อค่าครองชีพในระยะต่อไป

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง :

ดีเดย์ 1 พ.ย.นี้ BTS สายสีเขียวส่วนต่อขยาย ขึ้นค่าโดยสาร 17–45 บาท สะท้อนต้นทุนจริง

Back to top button