
“ดาวโจนส์” ปิดลบ 226 จุด แรงขายกลุ่ม “เฮลธ์แคร์” กดดัน หลังกังวลทิศทางดอกเบี้ยเฟด
ดัชนีดาวโจนส์ปิดลบเกือบ 0.5% จากแรงขายหุ้นในกลุ่มเฮลธ์แคร์ ท่ามกลางความไม่แน่นอนเกี่ยวกับทิศทางดอกเบี้ยนโยบายของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ขณะที่หุ้นเทคโนโลยีรายใหญ่ Amazon และ Nvidia ยังหนุนแนสแด็กปิดบวกต่อเนื่อง
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปิดผสมในวันจันทร์ (3 พ.ย. 2568) โดยแรงขายในหุ้นกลุ่มเฮลธ์แคร์กดดันดัชนีดาวโจนส์ให้ปิดลบ ท่ามกลางความกังวลว่าเฟดอาจคงอัตราดอกเบี้ยในระดับสูงต่อไป ขณะที่แรงซื้อหุ้นเทคโนโลยีรายใหญ่หนุนดัชนี S&P 500 และ Nasdaq ปิดในแดนบวก
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ (.DJI) ปิดที่ 47,336.68 จุด ลดลง 226.19 จุด หรือ -0.48%
ดัชนี S&P 500 (.SPX) ปิดที่ 6,851.97 จุด เพิ่มขึ้น 11.77 จุด หรือ +0.17%
ดัชนี Nasdaq Composite (.IXIC) ปิดที่ 23,834.72 จุด เพิ่มขึ้น 109.77 จุด หรือ +0.46%
ราคาหุ้นบริษัท Amazon.com, Inc. (AMZN) พุ่งขึ้นกว่า 4% หลังบริษัทประกาศข้อตกลงมูลค่า 38 พันล้านดอลลาร์สหรัฐกับ OpenAI ผ่านบริการคลาวด์ของ Amazon Web Services (AWS) ซึ่งรวมถึงการใช้ชิปของ Nvidia Corporation นับแสนตัว ขณะที่หุ้น Nvidia ปรับขึ้นกว่า 2% หลังได้รับแรงหนุนจากข่าวดีลดังกล่าวและการปรับเพิ่มคำแนะนำลงทุนโดยนักวิเคราะห์ โดยมีรายงานว่า Nvidia จะมีบทบาทสำคัญในห่วงโซ่การประมวลผล AI ทั้งในด้านชิปและโครงสร้างพื้นฐาน ซึ่งช่วยสร้างความเชื่อมั่นให้กับนักลงทุน
ด้านหุ้น Kimberly-Clark ร่วงลง 14.6% หลังประกาศเข้าซื้อกิจการบริษัท Kenvue Inc. ผู้ผลิตยา Tylenol มูลค่ากว่า 4 หมื่นล้านดอลลาร์ ขณะที่หุ้น Kenvue พุ่งขึ้น 12.3% จากข่าวการซื้อกิจการดังกล่าว
นักลงทุนยังจับตาสถานการณ์ในกรุงวอชิงตันอย่างใกล้ชิด หลังการปิดหน่วยงานของรัฐบาลสหรัฐฯ (government shutdown) ยังคงส่งผลให้การเผยแพร่ข้อมูลเศรษฐกิจสำคัญล่าช้า รวมถึงรายงานการจ้างงานที่เดิมมีกำหนดประกาศในสัปดาห์นี้
ทั้งนี้ กลุ่มเฮลธ์แคร์นำการปรับตัวลงในตลาด ท่ามกลางแรงขายทำกำไรหลังผลประกอบการไม่สดใส
				