
อธิบดีศุลกากร สั่งยกเลิกเงินรางวัลนำจับ “อธิบดี-ซี8”-ลุยเก็บภาษีออนไลน์ 1,500 บ.
“พันธ์ทอง ลอยกุลนันท์” ปฏิรูปศุลกากร สั่งยกเลิกเงินรางวัลนำจับระดับอธิบดี–ซี8 เริ่ม พ.ย.68 พร้อมเล็งจัดเก็บภาษีสินค้าออนไลน์ ตั้งแต่ 1-1,500 บาท เริ่มต้นปีหน้า
นายพันธ์ทอง ลอยกุลนันท์ อธิบดีกรมศุลกากร แถลงนโยบาย “Customs Quick Big Win” มุ่งขับเคลื่อนเศรษฐกิจควบคู่การปกป้องสังคมและจัดเก็บรายได้อย่างเป็นธรรม สร้างผลลัพธ์ภายใน 4 เดือน กล่าวว่า ในช่วง 4 เดือนนี้ ตนเองจะไม่ได้เรียนหนังสือเพิ่มและจะไม่ไปต่างประเทศในระยะ 6 เดือนนี้ เพื่อเร่งดำเนินงานทุกอย่างของกรมศุลกากร
โดยภายในเดือน พ.ย.นี้ จะใช้อำนาจอธิบดีเซ็นยกเลิกเงินรางวัลนำจับ ตั้งแต่ระดับอธิบดีและผู้บริหารระดับซี 8 ขึ้นไป ส่วนการยกเลิกระบบเงินรางวัลนำจับทั้งหมด ต้องไปแก้ไขพ.ร.บ.กรมศุลกากร ซึ่งต้องใช้เวลา โดยประเมินว่าหากมีการยกเลิกระบบเงินรางวัลนำจับต่อปีมูลค่าสูงถึง 100 ล้านบาท เนื่องจากข้อตกลงเขตการค้าเสรี (FTA) กับประเทศต่างๆ โดยเฉพาะกับสหรัฐ ประเทศไทยยังถูกมองเป็นประเทศที่เกี่ยวข้องกับสินค้าละเมิดลิขสิทธิ์ทั้งที่ไมได้เป็นผู้ผลิต ซึ่งมีส่วนเชื่อมโยงไปถึงเรื่องระบบเงินรางวัลนำจับของกรมศุลกากร จึงมีแนวคิดยกเลิกระบบดังกล่าว
“จริงๆ ระดับที่ได้ประโยชน์คือ อธิบดีและผู้บริหารระดับสูงซี 8 แต่ที่ผ่านมาไม่มีใครกล้ายกเลิกประโยชน์ของตนเอง เด็กกรมศุลกากรไม่มีปัญหาหรอก เพราะระดับเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานทำงานดีก็ได้ตามนั้นอยู่แล้ว เมื่อยกเลิกมันจะตัดปัญหาความไม่โปร่งใสต่างๆ ในทันที”
ส่วนเรื่องการเจรจาภาษีการค้าไทย-สหรัฐ กรมศุลกากรเป็นผู้จัดเก็บภาษีนำเข้าประเทศไทย แต่ไม่ได้เป็นผู้จัดเก็บภาษีส่งออกไปสหรัฐ ซึ่งมีพิกัดอัตราภาษีกว่า 1 หมื่นรายการ หากต้องลดภาษีเหลือ 0% และมีการนำเข้าสินค้าไม่มากกว่าเดิม ไทยจะศูนย์เสียประโยชน์ประมาณ 8 พันล้านบาท แต่ถ้ามูลค่าสินค้านำเข้าเพิ่มขึ้น ภาษีนำเข้าก็จะขยายตัวไปด้วย
นอกจากนี้ จะเร่งคืนเงินภาษีและอื่นๆ ที่ค้างกว่า 1,000 รายการ ซึ่งอยู่ในกระบวนการอุทธรณ์ เร่งจัดประชุมเพิ่มขึ้นหรือสามารถใช้เวลาช่วงเย็นจัดประชุมเพิ่ม เพื่อให้สามารถคืนเงินภาษีและอื่นๆ ได้เร็ว รวมทั้งดูเรื่องข้อหารือกับสำนักงานกฤษฎีกาเกี่ยวกับอุทธรณ์ให้เกิดความคล่องตัวเพิ่มขึ้น รวมทั้งส่งเสริมทางรถไฟรางคู่ที่ลาดกระบังเพื่อคลังสินค้าทัณฑ์บน
อธิบดีกรมศุลกากร ยังกล่าวว่า วันศุกร์ที่ 7 พ.ย.2568 นี้ นัดหารือผู้ประกอบการแพลตฟอร์มออนไลน์ เนื่องจากมีแผนจัดเก็บภาษีศุลกากรนำเข้าจากแฟลตฟอร์มออนไลน์ที่มีมูลค่าต่ำกว่า 1,500 บาทผ่าน e-commerce ซึ่งจะต้องหารือให้เสร็จ และให้เริ่มมีผลบังคับใช้ 1 ม.ค.2569 โดยจะเก็บภาษีตามพิกัดอัตราศุลกากรจริง เช่น พลาสติกจะเก็บที่ 20% ขณะที่ระยะยาวจะเก็บแบบเหมาจ่าย 20% หรือ 30% สำหรับสินค้าที่มาในรูปแบบกล่องขนาดเล็ก
ทั้งนี้ในปี 2567 ที่ผ่านมา มีสินค้าที่ต่ำกว่า 1,500 บาท จำนวนเกือบ 200 ล้านชิ้น มีมูลค่าประมาณ 3 หมื่นล้านบาท โดยจัดเก็บภาษีมูลค่าเพิ่มที่ 2 พันล้านบาท ซึ่งสินค้าส่วนใหญ่มีอัตราภาษีที่ 10-30% ดังนั้นหากเริ่มจัดเก็บภาษีศุลกากรนำเข้าโดยคำนวณอัตราภาษีเฉลี่ยที่ 10% คาดว่าจะสร้างรายได้เข้ารัฐเพิ่มขึ้น 3 พันล้านบาท
“โดยก่อนหน้านี้ได้ยกเว้นภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT) และอากรนำเข้าสินค้าที่มีมูลค่าต่ำกว่า 1,500 บาท และล่าสุดได้เริ่มเก็บ VAT แล้ว ทำให้ต้องเริ่มเก็บภาษีศุลกากรนำเข้า ซึ่งตั้งเป้าหมายว่าจะเริ่มเก็บ 1 ม.ค.2569 โดยใช้อำนาจอธิบดีกรมศุลกากร โดยความเห็นชอบของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง โดย Shopee กับ Lazada รับทราบเรื่องนี้แล้ว แต่จะไปรอ Platform ให้ครบทุกแห่งจะทำงานได้ช้า เพราะต้องออกแบบระบบให้ทัน ซึ่งแก้ปัญหาสินค้าทะลักเข้ามาจำนวนมากแต่มีจำนวนน้อยชิ้น”