
INET ชูศักยภาพ Sovereign Cloud ดันรายได้ Q3 โต รับดีมานด์องค์กรพุ่ง
INET รายได้ไตรมาส 3 โตแตะ 798 ล้านบาท เดินหน้าขยายฐานลูกค้าธุรกิจ-หน่วยงานรัฐ และกลุ่มที่ต้องการยกระดับ Cybersecurity พร้อมคาดรายได้ Q4 ฟื้นตัวหลังรอโครงการใหม่กว่า 300 ล้านบาท
นางมรกต กุลธรรมโยธิน กรรมการผู้จัดการ บริษัท อินเทอร์เน็ตประเทศไทย จำกัด (มหาชน) หรือ INET ผู้ให้บริการ Cloud Service และ Digital Platform Service เปิดเผยว่า ในไตรมาส 3 ปี 2568 เศรษฐกิจไทยยังเผชิญภาวะชะลอตัวจากกำลังซื้อภายในประเทศที่อ่อนลงและความไม่แน่นอนทางการเมือง ส่งผลให้การเบิกจ่ายงบประมาณและการลงทุนของหลายภาคส่วนล่าช้า อย่างไรก็ตาม บริษัทฯ ยังคงเติบโตท่ามกลางความผันผวน โดยมีจำนวนลูกค้าสะสม 6,286 ราย และมีจำนวน Virtual Machine Instances (VMI) สะสม 92,561 หน่วย แบ่งเป็น VMI ที่รับรู้รายได้แล้ว 85,372 หน่วย
ผลดังกล่าวส่งให้รายได้รวมจากการขายและให้บริการอยู่ที่ 798.32 ล้านบาท เติบโต 3% เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อน ขณะที่กำไรจากการดำเนินงาน (EBIT) อยู่ที่ 267.52 ล้านบาท ลดลง 9% เนื่องจากผลขาดทุนของเงินลงทุนในทางบัญชี ซึ่งไม่กระทบต่อกระแสเงินสดของบริษัทฯ โดยหากพิจารณากำไรจากการดำเนินงานโดยไม่รวมผลขาดทุนดังกล่าว INET ยังคงมีกำไรในระดับมั่นคง สะท้อนศักยภาพในการบริหารต้นทุนและความแข็งแกร่งของโมเดลธุรกิจ
INET เป็นผู้นำด้าน Local Sovereign Cloud และ Digital Platform Service สัญชาติไทยเต็มรูปแบบ โดยวางโครงสร้างพื้นฐานภายในประเทศทั้งหมด ทั้งศูนย์ข้อมูล ระบบเครือข่าย และมาตรฐานอธิปไตยทางข้อมูล เพื่อรองรับการใช้งาน Sovereign AI อย่างปลอดภัยสำหรับองค์กรไทย พร้อมเดินหน้าลงทุนด้านมาตรฐานระดับสากล การพัฒนาบุคลากร และการสร้าง Ecosystem ผ่านศูนย์ปฏิบัติการในต่างจังหวัด รวมถึงโปรแกรมฝึกอบรมด้าน Big Data, ปัญญาประดิษฐ์ และซอฟต์แวร์ขั้นสูง
สำหรับช่วงโค้งสุดท้ายของปี 2568 บริษัทฯ เตรียมขยายฐานลูกค้าธุรกิจและหน่วยงานรัฐ รวมถึงอุตสาหกรรมการผลิต โรงพยาบาล และธุรกิจในห่วงโซ่อุปทาน เช่น ร้านอาหารและธุรกิจบริการต่าง ๆ โดยเฉพาะกลุ่มที่ต้องการยกระดับความมั่นคงปลอดภัยทางไซเบอร์ ซึ่งมีความต้องการเพิ่มสูงขึ้นต่อเนื่องท่ามกลางภัยคุกคามที่ซับซ้อน ขณะเดียวกัน INET ยังให้ความสำคัญกับการพัฒนาบุคลากรเพื่อรองรับการเติบโตในอนาคต
ทั้งนี้ รายได้ไตรมาส 4 ปี 2568 เริ่มส่งสัญญาณฟื้นตัวจากการรอเซ็นสัญญาโครงการใหม่มูลค่าประมาณ 300 ล้านบาท ระยะเวลา 3 ปี ซึ่งจะช่วยเสริมความต่อเนื่องของรายได้และสนับสนุนผลประกอบการในระยะยาว
