เปิดผู้ถือหุ้น KTB หลังขึ้น XD “สารัชถ์ รัตนาวะดี“ ผงาดขึ้นอันดับแปด รุกถือ 130 ล้านหุ้น
"สารัชถ์ รัตนาวะดี" บุกซื้อ KTB จำนวน 130 ล้านหุ้น ขึ้นแท่นหุ้นใหญ่อันดับ 8 จับตาซื้อปุ๊บรับปันผลทันที 56 ล้านบาท
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากกรณีที่ก่อนหน้านี้ ธนาคารธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) หรือ KTB มีมติอนุมัติการจ่ายเงินปันผลระหว่างกาลจากผลประกอบการงวดครึ่งปีแรกของปี 2568 ให้แก่ผู้ถือหุ้นบุริมสิทธิและผู้ถือหุ้นสามัญในอัตราหุ้นละ 0.43 บาท โดยกำหนดวันที่ไม่ได้รับสิทธิปันผล (XD) วันที่ 11 พ.ย.68 และกำหนดจ่ายปันผลวันที่ 27 พ.ย.68
ล่าสุดจากการตรวจสอบรายชื่อผู้ถือหุ้น ภายหลังขึ้นเครื่องหมาย XD พบว่า โครงสร้างผู้ถือหุ้นมีการเปลี่ยนแปลง ดังนี้
โดยปรากฏชื่อ นายสารัชถ์ รัตนาวะดี ผู้ถือหุ้นใหญ่และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท กัลฟ์ ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) หรือ GULF เข้ามาเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่รายใหม่ของ KTB ที่จำนวน 130 ล้านหุ้น คิดเป็นสัดส่วน 0.9% ของหุ้นที่ออกและจำหน่ายทั้งหมด ซึ่งขณะนี้ นาย สารัชถ์ เป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ลำดับที่ 8 ของธนาคารกรุงไทย
สำหรับรายชื่อผู้ถือหุ้นที่ถือครองเกินกว่า 0.5% ของทุนจดทะเบียน มีการเปลี่ยนแปลงจากโครงสร้างผู้ถือหุ้นเดิม ณ วันที่ 17 เมษายน 2568 ดังรายละเอียดต่อไปนี้
ผู้ถือหุ้นใหญ่รายใหม่ที่เข้ามาได้แก่ ผู้ถือหุ้นอันดับ 7. BBHISL NOMINEE LIMITED ถือหุ้นจำนวน 169.6 ล้านหุ้น คิดเป็นสัดส่วน 1.2% และผู้ถือหุ้นอันดับ 8. นายสารัชถ์ รัตนาวะดี ถือหุ้นจำนวน 130 ล้านบาท คิดเป็นสัดส่วน 0.9%
ส่วนผู้ถือหุ้นใหญ่เดิมที่มีการลดสัดส่วนการถือหุ้นลงมา ได้แก่ ผู้ถือหุ้นอันดับ 11. THE BANK OF NEWYORK MELLON ถือหุ้นจำนวน 100.7 ล้านหุ้น คิดเป็นสัดส่วน 0.7% ลดลงจากเดิมถือ 123.9 ล้านหุ้น, ผู้ถือหุ้นอันดับ 10. ธนาคารออมสิน ถือหุ้นจำนวน 110.2 ล้านหุ้น คิดเป็นสัดส่วน 0.8% ลดลงจากเดิมถือ 118.3 ล้านหุ้น
ขณะที่ ผู้ถือหุ้นอันดับ 9. NORTRUST NOMINEES LIMITED-NTC-CLIENTS ACCOUNT ถือหุ้นจำนวน 114.2 ล้านหุ้น คิดเป็นสัดส่วน 0.8% เพิ่มขึ้นจากเดิมถือหุ้น 71.2 ล้านหุ้น
นอกจากนี้ จากการตรวจสอบพบว่า เมื่อวันที่ 14 ตุลาคม 2568 บริษัท GULF ได้ดำเนินการซื้อหุ้นของ ธนาคารกสิกรไทย จำกัด (มหาชน) หรือ KBANK ในตลาดหลักทรัพย์ จำนวน 5,399,600 หุ้น คิดเป็นสัดส่วน 0.2278% ของทุนชำระแล้ว ส่งผลให้ปัจจุบันบริษัทมีหุ้นรวมทั้งหมด 119,149,900 หุ้น หรือคิดเป็น 5.0288% ของทุนชำระแล้ว ทั้งนี้ การซื้อหุ้นดังกล่าวมีวัตถุประสงค์เพื่อการลงทุนระยะยาวและสร้างผลตอบแทนที่เหมาะสมให้แก่ผู้ถือหุ้น