TPCH ร่วงติดฟลอร์! หลังงบ Q3 ขาดทุนอ่วม 326 ล้านบาท รับรู้ด้อยค่าสินทรัพย์ IWP

TPCH ร่วงติดฟลอร์ 30% หลังประกาศผลประกอบการไตรมาส 3/68 ขาดทุนสุทธิ 325.83 ล้านบาท เนื่องจากรับรู้ผลด้อยค่าสินทรัพย์โครงการ IWP ส่งผลกดดันงวด 9 เดือนแรกขาดทุนสุทธิ 229.09 ล้านบาท


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ (17 พ.ย. 68) ราคาหุ้น บริษัท ทีพีซี เพาเวอร์โฮลดิ้ง จำกัด (มหาชน)หรือ TPCH ณ เวลา 11:30 น. อยู่ที่ระดับ 1.33 บาท ลบ 0.57 บาท หรือ 30.00% สูงสุดที่ระดับ 1.71 บาท ต่ำสุดที่ระดับ 1.33 บาท ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 13.55 ล้านบาท

บริษัทรายงานผลการดำเนินงานไตรมาส 3 ปี 2568 พลิกขาดทุนสุทธิ 325.83 ล้านบาท เมื่อเทียบกับงวดเดียวของปีก่อนมีกำไรสุทธิ 67.27 ล้านบาท เนื่องมาจาก บริษัทฯ รับรู้ผลขาดทุนจากการด้อยค่าสินทรัพย์ไม่หมุนเวียนที่ถือไว้เพื่อขายหมุนเวียน ของโครงการ IWP เป็นจํานวน 325.77 ล้านบาท

นอกจากนี้มีผลการดําเนินงานของบริษัทย่อยมาเกี่ยวข้องด้วย 1) กลุ่มโรงไฟฟ้าชีวมวล (PTG CRB, TSG, PGP, SGP, MWE) มีผลการดําเนินงานโดยรวมค่อนข้างคงที่ โดยมีกําไรสุทธิส่วนที่เป็นของบริษัท(ตามสัดส่วนการถือหุ้น) เท่ากับ 48.50 ล้านบาท ลดลงจากไตรมาสก่อนเนื่องจาก

โครงการ PGP เกิดปัญหา Generator Trip และซ่อมแล้วเสร็จกลับมาเดินเครื่องตามปกติในวันที่ 26 กรกฎาคม 2568 ต่อมาเกิดเหตุสุดวิสัยจําเป็นต้องหยุดซ่อมเพิ่มเติมเป็นเวลา 14 วัน ส่งผลกระทบต่อรายได้และทําให้ผลประกอบขาดทุนในไตรมาสนี้ ทั้งนี้ โครงการ PGP ได้ดําเนินการเรียกร้องค่าสินไหมทดแทนจากบริษัทประกันภัย เนื่องจากการหยุดชะงักของเครื่องจักร และได้รับเงินชดเชยจํานวน 26.89 ล้านบาทซึ่งช่วยบรรเทาผลกระทบทางการเงินจากเหตุการณ์ดังกล่าว

โครงการ PTG เกิดปัญหาเครื่องจักร Turbine ตั้งแต่วันที่ 10 มิถุนายน 2568 – 21 กรกฎาคม 2568

และกลับมาเดินเครื่องตามปกติในวันที่ 23 กรกฎาคม 2568 ส่งผลให้ผลการดําเนินงานลดลงจากไตรมาสก่อนจํานวน 21.39 ล้านบาท ทั้งนี้ โครงการ PTG อยู่ระหว่างการพิจารณาเรียกร้องค่าสินไหมทดแทนจากบริษัทประกันภัย เพื่อชดเชยความเสียหายที่เกิดขึ้นจากการหยุดเดินเครื่องดังกล่าว

โครงการ SGP หยุดซ่อมเครื่องจักรประจําปี จํานวน 11 วัน 14 ชม.โดยในไตรมาสที่ 3/2568 โครงการ CRB TSG MWE มีอัตราการเดินเครื่องผลิตไฟฟ้าเฉลี่ยมากกว่า 95% ขณะที่โครงการ SGP มีอัตราการเดินเครื่องเฉลี่ย 85% โครงการ PGP มีอัตราการเดินเครื่องเฉลี่ย 57% และโครงการ PTG มีอัตราการเดินเครื่องเฉลี่ย 81% เนื่องจากได้รับผลกระทบจากการหยุดเดินเครื่องประจําปีและปัญหาทางเทคนิคดังกล่าวข้างต้น

2) กลุ่มกิจการร่วมค้า โรงไฟฟ้าชีวมวล (MGP) ในไตรมาส 3/2568 มีอัตราการเดินเครื่องผลิตไฟฟ้าเฉลี่ย 92% โดยสามารถบริหารจัดการลดต้นทุนเชื้อเพลิงได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้นเมื่อเทียบกับไตรมาสก่อน ส่งผลให้มีกําไรจากการดําเนินงาน เพิ่มขึ้นจากไตรมาสก่อนจํานวน 5.98 ล้านบาท

3) กลุ่มกิจการร่วมค้า โรงไฟฟ้าขยะชุมชน (SPNT) ในไตรมาส 3/2568 โครงการสยาม พาวเวอร์นนทบุรี มีอัตราการเดินเครื่องผลิตไฟฟ้าเฉลี่ย 10% เนื่องจากมีการหยุดเดินเครื่องจํานวน 79 วัน 3 ชม.ทําให้ผลประกอบการยังไม่มีกําไร เนื่องจากมีค่าใช้จ่ายในการซ่อมแซมเครื่องจักร และในการบริหารต่างๆรวมถึงต้นทุนทางการเงินที่เกี่ยวข้องกับการพัฒนาโครงการโรงไฟฟ้าขยะชุมชนโครงการอื่นๆ

  • กลุ่มโครงการต่างประเทศ (MKP , IWP) บริษัทฯ ถือหุ้นในสัดส่วนร้อยละ 40 ของทั้งสองโครงการ โดยในไตรมาส 3/2568 มีค่าใช้จ่ายในการดําเนินงานที่เกี่ยวข้องกับการก่อสร้าง จึงทําให้ผลการดําเนินงานขาดทุน ส่วนโครงการ IWP อยู่ระหว่างหาผู้ร่วมทุน

ส่วนผลการดำเนินงานงวด 9 เดือนแรกของปี สิ้นสุดวันที่ 30 กันยายน 2568 บริษัทขาดทุนสุทธิ 229.09 ล้านบาท เมื่อเทียบกับงวดเดียวของปีก่อนมีกำไรสุทธิ 254.15 ล้านบาท

Back to top button