OR ฟื้น ‘บัดเจ็ทโฮเทล’.!?

ธุรกิจโรงแรมราคาประหยัด หรือ บัดเจ็ทโฮเทล (Budget Hotel) เป็นหนึ่งในกลุ่มธุรกิจ Lifestyle ของ OR ในกลุ่มปตท.ที่พูดแล้วหาย พูดแล้วหายมาหลายรอบแล้ว


ธุรกิจโรงแรมราคาประหยัด หรือ บัดเจ็ทโฮเทล (Budget Hotel) เป็นหนึ่งในกลุ่มธุรกิจ Lifestyle ของบริษัท ปตท. น้ำมันและการค้าปลีก จำกัด (มหาชน) หรือ OR ในกลุ่มปตท.ที่พูดแล้วหาย พูดแล้วหายมาหลายรอบแล้ว…หมุนเวียนเปลี่ยนซีอีโอไปไม่รู้กี่คน แต่บัดเจ็ทโฮเทลของ OR ก็ยังไม่เกิดซะที..!?

ถ้าจำกันได้ช่วงปลายปี 2565 ในยุคที่ “ดิษทัต ปันยารชุน” นั่งซีอีโอ ประกาศชัดเตรียมลุยบัดเจ็ทโฮเทล ราคาห้อง พักไม่เกิน 1,000 บาท ตอนนั้นถึงขั้นตั้งคณะกรรมการศึกษาอย่างจริงจัง เพื่อหาข้อสรุปรูปแบบการให้บริการ จะเป็นโรงแรมแคปซูน (Capsule Hotel) หรือบริการห้องพักทั่วไป ซึ่งคาดจะเห็นความชัดเจนภายใน 3-4 เดือน 

แต่สุดท้ายเรื่องก็เงียบหายเข้ากลีบเมฆ พร้อม ๆ กับนอนออยล์บางธุรกิจที่ถูกตัดทอนไป…

กระทั่งล่าสุดในยุคที่มีซีอีโอชื่อ หม่อมหลวงปีกทอง ทองใหญ่” มีการรื้อแฟ้มบัดเจ็ทโฮเทลขึ้นมาปัดฝุ่นอีกครั้ง..!? โดยคาดจะสามารถประกาศความร่วมมือกับพันธมิตรภายในสิ้นปี 2568 นี้ และเริ่มก่อสร้างในช่วงครึ่งหลังของปี 2569

รอบนี้ไม่ได้หลอกกันอีกแน่นะวิ..??

ก็น่าสนใจ ถ้า OR ตกลงปลงใจจะทำบัดเจ็ทโฮเทลจริง ๆ…ซึ่งดูแล้ว OR น่าจะได้เปรียบคู่แข่งหลาย ๆ ด้าน 1) ในด้านภาพลักษณ์ มีภาพลักษณ์ที่ดี แบรนด์เป็นที่รู้จักแพร่หลาย จะช่วยสร้างความเชื่อมั่นให้กับกลุ่มลูกค้า 

2) ด้านกายภาพ เนื่องจากโรงแรมตั้งอยู่ในปั๊มน้ำมัน พีทีที สเตชั่น เป็นพื้นที่เซฟโซน ทำให้มั่นใจในเรื่องของความปลอดภัย

และ 3) มีสิ่งอำนวยความสะดวกในปั๊มครบครัน…ด้วยโมเดลบัดเจ็ทโฮเทล เป็นโรงแรมราคาประหยัดที่คิดค่าห้อง พักเริ่มต้นที่ 350 บาท สูงสุดไม่เกิน 1,000 บาท โดยจะเน้นสิ่งอำนวยความสะดวกขั้นพื้นฐาน เช่น ที่นอน เครื่องปรับอากาศ เครื่องทำน้ำอุ่น ตู้เย็นขนาดเล็ก โต๊ะอเนกประสงค์ และบริการ Wi-Fi ฟรี แต่จะไม่มีแผนกบริการอาหารและเครื่องดื่ม หรือไม่มีบริการอาหารเช้า

ขณะที่ในพื้นที่ปั๊มมีทั้งร้านอาหาร ร้านกาแฟ ร้านซักรีด และร้านสะดวกซื้อ สามารถปิดช่องโหว่ของบัดเจ็ทโฮเทลด้วยอีโคซิสเต็มของ OR 

แต่เนื่องจาก OR คลุกคลีตีโมงอยู่กับธุรกิจปั๊มน้ำมัน และร้านกาแฟ ทำให้ไม่มีโนว์ฮาวในการบริหารธุรกิจโรงแรม หากจะเรียนรู้ด้วยตัวเองก็ต้องใช้เวลา ซึ่งไม่ทันกิน จึงต้องอาศัยตัวช่วยหรือหาพันธมิตรที่มีความเชี่ยวชาญเข้ามาเป็นกองหนุน…เอ๊ะ ว่าแต่พันธมิตรคนนั้นเป็นใครกันนะ..อยากรู้จัง ..??

ถ้าย้อนไปดูข่าวสารเก่า ๆ หนึ่งในชื่อที่ถูกคาดหมายจะมาเป็นพันธมิตรของ OR น่าจะเป็นบริษัท ดิ เอราวัณ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ ERW ของ “กลุ่มน้ำตาลมิตรผล” ซึ่งถือเป็นตัวพ่อบัดเจ็ทโฮเทลก็ว่าได้…เนื่องจากเป็นเจ้าของแบรนด์ ฮ็อป อินน์” (Hop Inn) ที่มีสาขามากกว่า 70 แห่ง จำนวนห้องพักกว่า 7,000 ห้อง ครอบคลุมใน 3 ประเทศ ได้แก่ ประเทศไทย ฟิลิปปินส์ และญี่ปุ่น 

แหม๊..นี่ถ้าพันธมิตรที่ว่า เป็น ERW จริง ก็น่าจะเวิร์กนะ…เห็นด้วยป๊ะล่ะ..??

ส่วนถามว่าธุรกิจบัดเจ็ทโฮเทลน่าสนใจแค่ไหน..??

ถ้าดูจากข้อมูล Business Research ของวิจัยธุรกิจธนาคารแลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ ซึ่งระบุว่า ในปี 2566 โรงแรมราคาประหยัดได้ปัจจัยหนุนสำคัญจากนักท่องเที่ยวชาวไทยที่เติบโตดีต่อเนื่อง สะท้อนจากจำนวนผู้เยี่ยมเยือนชาวไทยในปี 2566 มีจำนวนทั้งสิ้น 249.1 ล้านคน-ครั้ง เพิ่มขึ้น 22.7% จากปีก่อน และฟื้นตัวไปอยู่ในระดับที่สูงกว่าช่วงก่อนโควิด-19 โดยตลาดท่องเที่ยวหลักจะเป็นการท่องเที่ยวระยะใกล้ที่สามารถเดินทางได้ด้วยรถยนต์ โดยเฉพาะกลุ่มนักท่องเที่ยวที่เดินทางเป็นครอบครัว 

ขณะที่แนวโน้มธุรกิจโรงแรมราคาประหยัดในระยะ 1 ปีข้างหน้า คาดจะเติบโตดีต่อเนื่อง ได้แรงหนุนจากการเดินทางท่องเที่ยวของนักท่องเที่ยวชาวไทยที่ยังเติบโตดี สาเหตุหลักจากพฤติกรรมของนักท่องเที่ยวบางส่วนที่เน้นความประหยัดและความคุ้มค่า โดยเฉพาะในเมืองท่องเที่ยวหลักที่ราคาห้องพักปรับสูงขึ้น ประกอบกับโรงแรมราคาประหยัดในพื้นที่เมืองรองยังได้แรงหนุนจากมาตรการส่งเสริมการท่องเที่ยวเมืองรองของภาครัฐ ซึ่งมีการจัดกิจกรรมด้านการท่องเที่ยวในแต่ละภูมิภาคตลอดทั้งปี

ก็ไม่แปลกหาก OR จะขอท้าชิงลงมาเล่นในธุรกิจนี้ด้วย…

ว่าแต่ครั้งนี้จริงจังแค่ไหนเนี่ย..?? ไม่ใช่แค่ดีแต่พูด…แต่ช่วยทำให้เห็นเป็นรูปธรรมสักทีเถอะ..!!

นักลงทุนเค้ารออยู่…เผื่อจะได้กู้วิกฤตศรัทธาหุ้น OR ได้บ้าง หลังราคาลงไปลึกสุดใจ เกรงว่าหากไม่มีสตอรี่เชิงบวกมาค้ำยันไว้ มีหวังได้เห็น OR เป็นหุ้นต่ำสิบแหง ๆ… 

…อิ อิ อิ…

Back to top button