โค้งสุดท้าย! คัดกองทุนรวม RMF เก็บเข้าพอร์ต ลดหย่อนภาษีปี 68

ASPS แนะนำกองทุนรวม RMF ครอบคลุมทุกระดับความเสี่ยง ช่วยวางแผนเกษียณ พร้อมสิทธิ์ลดหย่อนภาษี ให้การออมระยะยาวง่ายขึ้นและตรงใจคุณ


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การลงทุนเพื่อการออมระยะยาวผ่านกองทุน RMF เป็นหนึ่งในเครื่องมือสำคัญสำหรับวางแผนการเงินและลดหย่อนภาษี สำหรับนักลงทุนที่ยังไม่แน่ใจว่าควรเลือกกองทุนใด บริษัทหลักทรัพย์ เอเซีย พลัส จำกัด (ASPS) ระบุว่า ขอแนะนำ 4 กองทุน RMF ที่เหมาะกับกลุ่มนักลงทุนที่มีระดับความเสี่ยงและเป้าหมายการลงทุนแตกต่างกัน

1.กองทุนเปิดเค โกลบอล อิควิตี้ พาสซีฟ เพื่อการเลี้ยงชีพ (K-WORLDXRMF) เป็นกองทุนหุ้นทั่วโลกแบบ Passive ที่มีค่าธรรมเนียมต่ำ ผลตอบแทนเคลื่อนไหวตามตลาดหุ้นโลกโดยตรง เหมาะสำหรับนักลงทุนระยะยาวที่ต้องการลงทุนในหุ้นทั่วโลกโดยไม่ต้องคัดเลือกหุ้นด้วยตนเอง

2.กองทุนเปิดบัวหลวงหุ้นเอเชียเพื่อการเลี้ยงชีพ (B-ASIARMF) เป็นกองทุนหุ้นเอเชียแบบ Active ที่มีผลการดำเนินงานสม่ำเสมอ มุ่งเน้นจับโอกาสจากตลาดหุ้นเอเชียที่มีศักยภาพเติบโตสูง เหมาะสำหรับนักลงทุนที่สนใจหุ้นเอเชีย แต่ควรพิจารณากระจายการลงทุนไปยังหุ้นตลาดโลกบางส่วนเพื่อลดความเสี่ยง สำหรับผู้ที่ต้องการผลตอบแทนสูงกว่าตราสารหนี้แต่ไม่ต้องการเผชิญความเสี่ยงสูง

3.กองทุนเปิด ทิสโก้ โกลบอล สมาร์ท แอลโลเคชั่น เพื่อการเลี้ยงชีพ ชนิดผู้ลงทุนทั่วไป (TGSMARTRMF-A) ซึ่งเป็นกองทุนผสมทั่วโลก มุ่งเน้นผลตอบแทนสม่ำเสมอ ลงทุนในสินทรัพย์หลากหลายและใช้อนุพันธ์ทางการเงินเพื่อควบคุมความเสี่ยง จึงเป็นทางเลือกที่เหมาะสม ในขณะเดียวกัน นักลงทุนที่เน้นความมั่นคงและต้องการลดความเสี่ยง

4.กองทุนเปิดกรุงศรีแอคทีฟตราสารหนี้เพื่อการเลี้ยงชีพ (KFAFIXRMF) ซึ่งเป็นกองทุนตราสารหนี้อายุเฉลี่ย 1–3 ปี มีความเสี่ยงต่ำ ช่วยกระจายพอร์ตและป้องกันผลกระทบจากเงินเฟ้อในระยะยาว การผสมผสานการลงทุนในกองทุนหุ้นทั่วโลก หุ้นเอเชีย กองทุนผสม และตราสารหนี้จึงช่วยสร้างพอร์ตการลงทุนที่สมดุล ตอบสนองเป้าหมายการออมเพื่อการเกษียณและการบริหารความเสี่ยงในระยะยาวได้อย่างเหมาะสม

ทั้งนี้ บริษัทหลักทรัพย์ เอเซีย พลัส ได้คัดเลือกกองทุนรวมประเภท RMF เป็นรายตัว เพื่อให้นักลงทุนมีตัวเลือกที่หลากหลายสำหรับโค้งสุดท้ายของปี 2568 โดยสามารถเลือกลงทุนกองทุนลดหย่อนภาษีตามกลุ่มและตามความสนใจของนักลงทุนแต่ละราย ทั้งนี้เพื่อสนับสนุนการวางแผนการลงทุนที่เหมาะสมกับเป้าหมายทางการเงินและสิทธิประโยชน์ทางภาษีอย่างมีประสิทธิภาพ ดังนี้

  1. กองทุนกลุ่ม World & Emerging & Asia

กองทุนในกลุ่มนี้มุ่งเน้นการลงทุนในตราสารทุนทั่วโลก ครอบคลุมทั้งตลาดที่พัฒนาแล้ว (Developed Markets), ตลาดเกิดใหม่ (Emerging Markets) และตลาดในภูมิภาคเอเชีย เพื่อสร้างโอกาสการเติบโตจากเศรษฐกิจในภูมิภาคต่างๆ

กองทุนเปิดเค โกลบอล อิควิตี้ พาสซีฟ เพื่อการเลี้ยงชีพ (K-WORLDXRMF) ออกโดยบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนกสิกรไทย เป็นกองทุนในหมวด Global Equity ที่เน้นการกระจายการลงทุนในหุ้นทั่วโลก ผ่านโครงสร้างแบบ Feeder Fund โดยลงทุนในกองทุนต่างประเทศเพียงกองทุนเดียว คือ iShares MSCI ACWI ETF ซึ่งติดตามดัชนี MSCI ACWI (USD) ครอบคลุมหุ้นทั้งจากประเทศพัฒนาแล้วและตลาดเกิดใหม่ทั่วโลก กองทุนมีระดับความเสี่ยง 6 (กองทุนรวมตราสารทุน)

กองทุนหลักมีนโยบายลงทุนตามดัชนี MSCI ACWI ทำให้พอร์ตการลงทุนมีความหลากหลายทั้งในด้านภูมิภาค กลุ่มอุตสาหกรรม และขนาดหุ้นตั้งแต่ใหญ่จนถึงกลาง กองทุนคิดค่าบริหารจัดการ 0.60% ต่อปี (ข้อมูล ณ วันที่ 30 กันยายน 2566) และไม่มีนโยบายจ่ายปันผล โดยเน้นนำผลตอบแทนกลับมาลงทุนต่อเพื่อสร้างโอกาสการเติบโตในระยะยาว

กองทุนเปิดอีสท์สปริง Global Equity เพื่อการเลี้ยงชีพ (ES-GLOBALEQRMF) ออกโดย Eastspring Investments เป็นกองทุนอยู่ในหมวด Global Equity มีระดับความเสี่ยงอยู่ที่ 6 (กองทุนรวมตราสารทุน) และเป็นกองทุนแบบ Feeder Fund ที่กระจายการลงทุนไปยังหลายกองทุนต่างประเทศ โดยสัดส่วนการลงทุนหลักประกอบด้วย Eastspring Investments – Global Dynamic Growth Equity Fund – C 46.68%, Wellington Global Quality Growth 45.06%, และ กองทุนอื่น ๆ 7.95%

กองทุนมีนโยบายลงทุนในหน่วยลงทุนของกองทุนตราสารทุนหรือกองทุนรวม ETF ต่างประเทศตั้งแต่สองกองทุนขึ้นไป ครอบคลุมภูมิภาคต่าง ๆ ทั่วโลก เพื่อสร้างความหลากหลายของพอร์ตการลงทุน คิดค่าบริหารจัดการ 1.78% ต่อปี (ข้อมูล ณ วันที่ 30 ก.ย. 2568) และ ไม่มีนโยบายจ่ายปันผล โดยเน้นการสะสมผลตอบแทนในระยะยาว

กองทุนเปิดอีสท์สปริง Emerging Active Equity เพื่อการเลี้ยงชีพ ออกโดย Eastspring Investments เป็นกองทุนอยู่ในหมวด Emerging Market โดยมีระดับความเสี่ยงอยู่ที่ 6 (กองทุนรวมตราสารทุน) และเป็นกองทุนลักษณะ Feeder Fund ที่นำเงินไปลงทุนในกองทุนหลัก Baillie Gifford Worldwide Emerging Markets Leading Companies Fund ซึ่งมุ่งเน้นการลงทุนในตราสารทุนของบริษัทที่ดำเนินธุรกิจภายในกลุ่มประเทศตลาดเกิดใหม่ (Emerging Markets)

โดยกองทุนหลักบริหารจัดการโดย Baillie Gifford Investment Management (Europe) Limited โครงสร้างการลงทุนตั้งอยู่บนการคัดเลือกบริษัทผู้นำในแต่ละอุตสาหกรรมที่มีศักยภาพการเติบโตสูงในภูมิภาคดังกล่าว กองทุนมีค่าใช้จ่ายในการบริหารจัดการ 1.78% ต่อปี (ข้อมูล ณ วันที่ 30 ก.ย. 2568) และ ไม่มีนโยบายจ่ายปันผล โดยเน้นสะสมมูลค่าการลงทุนเพื่อการเติบโตในระยะยาว.

กองทุนเปิดบัวหลวงหุ้นเอเชียเพื่อการเลี้ยงชีพ (B-ASIARMF) ออกโดย บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนรวม บัวหลวง จำกัด  เป็นกองทุนอยู่ในหมวด Asia Pacific Ex Japan โดยมีระดับความเสี่ยงอยู่ที่ 6 (กองทุนรวมตราสารทุน) และลงทุนในรูปแบบ Feeder Fund ผ่านกองทุนหลัก Invesco Funds – Invesco Asian Equity Fund กองทุนมีนโยบายลงทุนในตราสารทุนของบริษัทที่ดำเนินธุรกิจในภูมิภาคเอเชีย

โดยไม่รวมญี่ปุ่น ออสเตรเลีย และนิวซีแลนด์ การบริหารจัดการกองทุนหลักดำเนินการโดย Invesco Management SA ซึ่งเน้นคัดเลือกหุ้นที่มีศักยภาพการเติบโตและความสามารถในการแข่งขันในภูมิภาคเอเชีย กองทุนคิดค่าบริหารจัดการ 1.60% ต่อปี (ข้อมูล ณ วันที่ 30 ก.ย. 2568) และ ไม่มีนโยบายจ่ายปันผล โดยเน้นการสะสมมูลค่าการลงทุนระยะยาว.

  1. กองทุนกลุ่ม Technology

กองทุนกลุ่มเทคโนโลยีมุ่งเน้นการลงทุนในบริษัทที่เกี่ยวข้องกับนวัตกรรมและเทคโนโลยีทั่วโลก ซึ่งเป็นภาคส่วนที่มีศักยภาพการเติบโตสูง ครอบคลุมตั้งแต่บริษัทเทคโนโลยีขนาดใหญ่ไปจนถึงบริษัทที่เกี่ยวข้องกับสินทรัพย์ดิจิทัล

กองทุนเปิดเคเคพี EXPANDED TECH เพื่อการเลี้ยงชีพ – HEDGED (KKP TECH RMF-H) ออกโดย บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน เกียรตินาคินภัทร จำกัด เป็นกองทุนอยู่ในหมวด Technology Equity โดยมีระดับความเสี่ยงที่ 7 (กองทุนรวมหมวดอุตสาหกรรม) และเป็นกองทุนลักษณะ Feeder Fund ที่ลงทุนในหน่วยการลงทุนของกองทุนต่างประเทศเพียงกองทุนเดียว คือ iShares Expanded Tech Sector ETF ซึ่งเป็นกองทุนหลักที่มีนโยบายลงทุนในหุ้นที่เป็นส่วนประกอบของดัชนี S&P North American Expanded Technology Sector Index ครอบคลุมหุ้นเทคโนโลยีชั้นนำในอเมริกาเหนือ ทั้งกลุ่มซอฟต์แวร์ ฮาร์ดแวร์ อินเทอร์เน็ต และธุรกิจเทคโนโลยีแบบขยาย (Expanded Tech) กองทุนมีค่าใช้จ่ายในการบริหารจัดการ 0.53% ต่อปี (ข้อมูล ณ วันที่ 30 ก.ย. 2568) และ ไม่มีนโยบายจ่ายปันผล โดยเน้นการสะสมผลตอบแทนเพื่อการเติบโตในระยะยาว

กองทุนเปิดบัวหลวงโกลบอลอินโนเวชั่นและเทคโนโลยีเพื่อการเลี้ยงชีพ (B-INNOTECHRMF) ออกโดย บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนรวม บัวหลวง จำกัด เป็นกองทุนจัดอยู่ในหมวด Technology Equity โดยมีระดับความเสี่ยงอยู่ที่ 7 (กองทุนรวมหมวดอุตสาหกรรม) และเป็นกองทุนแบบ Feeder Fund ที่ลงทุนผ่านกองทุนหลัก Fidelity Funds – Global Technology Fund กองทุนมีนโยบายลงทุนในตราสารทุนของบริษัททั่วโลกที่มีความก้าวหน้าในด้านผลิตภัณฑ์ กระบวนการ หรือบริการทางเทคโนโลยี

โดยกองทุนหลักบริหารจัดการโดย FIL Investment Management (Luxembourg) S.A. ซึ่งคัดเลือกบริษัทเทคโนโลยีที่มีศักยภาพการเติบโตและนวัตกรรมโดดเด่น เพื่อสร้างโอกาสรับผลตอบแทนในระยะยาว กองทุนคิดค่าบริหารจัดการ 1.36% ต่อปี (ข้อมูล ณ วันที่ 30 ก.ย. 2568) และ ไม่มีนโยบายจ่ายปันผล โดยเน้นการสะสมมูลค่าเป็นหลัก

กองทุนเปิด แอสเซทพลัส ดิจิทัล บล็อกเชน เพื่อการเลี้ยงชีพ (ASP-DIGIBLOCRMF) ออกโดย บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน แอสเซท พลัส จำกัด เป็นกองทุนจัดอยู่ในหมวด Technology Equity โดยมีระดับความเสี่ยงอยู่ที่ 6 (กองทุนรวมตราสารทุน) และเป็นกองทุนแบบ Feeder Fund (Direct Investment) ที่ลงทุนในตราสารทุนของบริษัทที่ดำเนินธุรกิจเกี่ยวกับ สินทรัพย์ดิจิทัล (Digital Assets Companies) และ/หรือบริษัทที่ได้รับประโยชน์จากเทคโนโลยี บล็อกเชน รวมถึง ETF ที่เกี่ยวข้องกับตราสารทุนในกลุ่มดังกล่าว กองทุนมีค่าใช้จ่ายในการบริหารจัดการ 3.21% ต่อปี (ข้อมูล ณ วันที่ 30 ก.ย. 2568) และ ไม่มีนโยบายจ่ายปันผล โดยเน้นการสะสมมูลค่าเพื่อการเติบโตในระยะยาว

กองทุนเปิดบัวหลวงเอเชียเทคโนโลยีเพื่อการเลี้ยงชีพ (B-ASIATECHRMF) ออกโดย บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนรวม บัวหลวง จำกัด เป็นกองทุนจัดอยู่ในหมวด Technology Equity โดยมีระดับความเสี่ยงอยู่ที่ 6 (กองทุนรวมตราสารทุน) และเป็นกองทุนแบบ Feeder Fund ที่ลงทุนผ่านกองทุนหลัก Wellington Asia Technology Fund กองทุนมีนโยบายลงทุนในตราสารทุนของบริษัทที่ประกอบธุรกิจหรือเกี่ยวข้องกับด้านเทคโนโลยีในภูมิภาคเอเชีย โดยกองทุนหลักบริหารจัดการโดย Wellington Management Company LLP กองทุนคิดค่าบริหารจัดการ 1.35% ต่อปี (ข้อมูล ณ วันที่ 30 ก.ย. 2568) และ ไม่มีนโยบายจ่ายปันผล โดยเน้นการสะสมมูลค่าเพื่อการเติบโตในระยะยาว.

  1. กองทุนกลุ่ม Thematic ที่มีผลตอบแทนย้อนหลังดี

กองทุนในกลุ่มนี้ลงทุนตามธีมเฉพาะทางที่มีแนวโน้มเติบโตดีหรือให้ผลตอบแทนที่น่าสนใจในอดีต เช่น โครงสร้างพื้นฐาน สินค้าโภคภัณฑ์ (ทองคำ) และการลงทุนที่สร้างรายได้อย่างสม่ำเสมอ

กองทุนเปิดเค โกลบอล อินฟราสตรัคเจอร์ หุ้นทุนเพื่อการเลี้ยงชีพ (K-GIFRMF) ออกโดย บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนกสิกรไทย เป็นกองทุนจัดอยู่ในหมวด Global Equity – Infrastructure โดยมีระดับความเสี่ยงอยู่ที่ 6 (กองทุนรวมตราสารทุน) และเป็นกองทุนแบบ Feeder Fund ที่ลงทุนผ่านกองทุนหลัก Wellington Enduring Assets Fund, USD S Accumulating Unhedged

กองทุนมีนโยบายลงทุนในตราสารทุนของบริษัทที่เป็นเจ้าของสินทรัพย์คงทนถาวรทั่วโลก เช่น กลุ่มสาธารณูปโภค การขนส่ง พลังงาน อสังหาริมทรัพย์ และสินค้าอุตสาหกรรม เพื่อสร้างรายได้และการเติบโตในระยะยาว กองทุนหลักบริหารจัดการโดย Wellington Luxembourg กองทุนคิดค่าบริหารจัดการ 1.77% ต่อปี (ข้อมูล ณ วันที่ 31 ต.ค. 2568) และ ไม่มีนโยบายจ่ายปันผล โดยเน้นการสะสมมูลค่าเพื่อการเติบโตในระยะยาว

กองทุนเปิดอีสท์สปริง ทองคำแท่งเพื่อการเลี้ยงชีพ-UH (ES-GOLDRMF-UH) ออกโดย Eastspring Investments เป็นกองทุนในกลุ่ม Commodities – Precious Metals (ระดับความเสี่ยง 8: สินทรัพย์ทางเลือก) ลงทุนโดยตรง (Direct Investment) ในทองคำแท่ง (Physical Gold หรือ Gold Bullion) ในต่างประเทศเป็นหลัก โดยเลือกลงทุนในทองคำที่ได้มาตรฐานสากล และไม่ลงทุนในสัญญาซื้อขายล่วงหน้า (Futures) เพื่อป้องกันความเสี่ยงด้านอัตราแลกเปลี่ยน กองทุนมีค่าใช้จ่ายในการบริหารจัดการ 1.10% ต่อปี ณ วันที่ 30 กันยายน 2568 และไม่มีนโยบายจ่ายปันผล

กองทุนเปิดอีสท์สปริง Global Multi Asset Income เพื่อการเลี้ยงชีพ (ES-GAINCOMERMF) ออกโดย Eastspring Investments เป็นกองทุนในกลุ่ม Foreign Investment Allocation (ระดับความเสี่ยง 5: กองทุนรวมผสม) ลงทุนแบบ Feeder Fund ผ่านกองทุนหลัก Amundi Funds – Pioneer Income Opportunities โดยมุ่งเน้นการลงทุนอย่างยืดหยุ่นในหลักทรัพย์ต่างประเทศที่สร้างรายได้อย่างสม่ำเสมอ รวมถึงการลงทุนในตลาดประเทศกำลังพัฒนา กองทุนหลักบริหารจัดการโดย Amundi Luxembourg S.A. กองทุนมีค่าใช้จ่ายในการบริหารจัดการ 0.99% ต่อปี ณ วันที่ 30 กันยายน 2568 และไม่มีนโยบายจ่ายปันผล

กองทุนเปิดเค โกลบอล แอลโลเคชั่น เพื่อการเลี้ยงชีพ (K-GARMF) ออกโดย บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนกสิกรไทยเป็นกองทุนในกลุ่ม Foreign Investment Allocation (ระดับความเสี่ยง 5: กองทุนรวมผสม) ลงทุนแบบ Feeder Fund ผ่านกองทุนหลัก BGF Global Allocation Fund A2 USD โดยมุ่งเน้นการลงทุนในตราสารทุน ตราสารหนี้ และตราสารระยะสั้นทั่วโลก ทั้งภาครัฐและเอกชน กองทุนหลักบริหารจัดการโดย BlackRock (Luxembourg) S.A. กองทุนมีค่าใช้จ่ายในการบริหารจัดการ 1.25% ต่อปี ณ วันที่ 30 กันยายน 2568 และไม่มีนโยบายจ่ายปันผล

สำหรับ US Stock มีดังนี้

1.กองทุนเปิดไทยพาณิชย์หุ้นยูเอส เพื่อการเลี้ยงชีพ (SCBRMS&P500) ออกโดย บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนไทยพาณิชย์ จำกัด จัดอยู่ในกลุ่มกองทุนรวมประเภท US Equity (ระดับความเสี่ยง 6: กองทุนรวมตราสารทุน) และเป็นกองทุนแบบ Feeder Fund โดยมีนโยบายลงทุนในหน่วยการลงทุนของกองทุนรวมต่างประเทศเพียงกองทุนเดียว คือกองทุนหลัก iShares Core S&P 500 ETF ซึ่งมีนโยบายลงทุนในหุ้นที่เป็นส่วนประกอบของดัชนี S&P 500

กองทุนมีอัตราค่าใช้จ่ายในการบริหารจัดการอยู่ที่ 0.86% ต่อปี (ข้อมูล ณ วันที่ 30 กันยายน 2568) และมีนโยบายไม่จ่ายเงินปันผล

2.กองทุนเปิดไทยพาณิชย์ หุ้นยูเอส เอ็นดีคิว เพื่อการเลี้ยงชีพ (ชนิดสะสมมูลค่า) SCBRMNDQ (A) ออกโดย บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนไทยพาณิชย์ จำกัด จัดอยู่ในกลุ่มกองทุนรวมประเภท US Equity (ระดับความเสี่ยง 6: กองทุนรวมตราสารทุน) และเป็นกองทุนแบบ Feeder Fund โดยกองทุนมีนโยบายลงทุนในหน่วยการลงทุนของกองทุนรวมต่างประเทศเพียงกองทุนเดียว คือกองทุนหลัก Invesco NASDAQ 100 ETF ซึ่งมีนโยบายลงทุนในหุ้นที่เป็นส่วนประกอบของดัชนี NASDAQ 100

กองทุนมีอัตราค่าใช้จ่ายในการบริหารจัดการอยู่ที่ 0.86% ต่อปี (ข้อมูล ณ วันที่ 30 กันยายน 2568) และมีนโยบายไม่จ่ายเงินปันผล

3.กองทุนเปิดบัวหลวงยูเอสอัลฟ่าเพื่อการเลี้ยงชีพ (B-USALPHARMF) ออกโดย บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนรวม บัวหลวง จำกัด จัดอยู่ในกลุ่มกองทุนรวมประเภท US Equity (ระดับความเสี่ยง 6: กองทุนรวมตราสารทุน) และเป็นกองทุนแบบ Feeder Fund โดยมีนโยบายลงทุนในกองทุนหลัก JPMorgan Funds – US Growth Fund, Class JPM US Growth I (acc) – USD

กองทุนมีนโยบายลงทุนในหุ้นที่มีลักษณะการเติบโต (Growth Style) ของบริษัทที่จัดตั้งหรือดำเนินธุรกิจในสหรัฐอเมริกา โดยกองทุนหลักบริหารจัดการโดย JPMorgan Asset Management ทั้งนี้ กองทุนมีอัตราค่าใช้จ่ายในการบริหารจัดการอยู่ที่ 1.52% ต่อปี (ข้อมูล ณ วันที่ 30 กันยายน 2568) และมีนโยบายไม่จ่ายเงินปันผล

4.กองทุนเปิดเคแทม ยูเอส โกรท อิควิตี้ เพื่อการเลี้ยงชีพ (KT-US RMF) ออกโดย บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน กรุงไทย จำกัด (มหาชน) จัดอยู่ในกลุ่มกองทุนรวมประเภท US Equity (ระดับความเสี่ยง 6: กองทุนรวมตราสารทุน) และเป็นกองทุนแบบ Feeder Fund โดยมีนโยบายลงทุนในกองทุนหลัก AB American Growth Portfolio Class I (USD)

กองทุนดังกล่าวมีนโยบายลงทุนในหุ้นของบริษัทที่ดำเนินธุรกิจส่วนใหญ่อยู่ในสหรัฐอเมริกา โดยเน้นคัดเลือกบริษัทที่มีคุณภาพสูงและมีศักยภาพในการเติบโตระยะยาว ทั้งนี้กองทุนหลักบริหารจัดการโดย Alliance Bernstein กองทุนมีอัตราค่าใช้จ่ายในการบริหารจัดการอยู่ที่ 1.15% ต่อปี (ข้อมูล ณ วันที่ 30 กันยายน 2568) และมีนโยบายไม่จ่ายเงินปันผล

กองทุนพักเงิน มีดังนี้

1.กองทุนเปิดเคเคพี ตลาดเงินเพื่อการเลี้ยงชีพ (KKP MMRMF) ออกโดย บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน เกียรตินาคินภัทร จำกัด จัดอยู่ในกลุ่มกองทุนรวมประเภท Money Market Government (ระดับความเสี่ยง 1: กองทุนรวมตลาดเงินที่ลงทุนในประเทศ) โดยเป็นกองทุนแบบลงทุนโดยตรง (Direct Investment)

กองทุนมีนโยบายลงทุนในตราสารหนี้ภาครัฐไทย เงินฝาก มาตรเงินฝากของสถาบันการเงิน รวมถึงทรัพย์สินที่มีความเสี่ยงต่ำหรือมีระดับความเสี่ยงเทียบเคียงตราสารภาครัฐไทย โดยกองทุนกำหนดให้อายุเฉลี่ยของตราสารที่ลงทุนอยู่ต่ำกว่า 92 วัน ทั้งนี้ กองทุนมีอัตราค่าใช้จ่ายในการบริหารจัดการ 0.21% ต่อปี (ข้อมูล ณ วันที่ 30 กันยายน 2568) และมีนโยบายไม่จ่ายเงินปันผล

2.กองทุนเปิดเค ตราสารหนี้ระยะสั้นเพื่อการเลี้ยงชีพ (K-SFRMF) ออกโดย บริษัท หลักทรัพย์จัดการกองทุน กสิกรไทย จำกัด จัดอยู่ในกลุ่มกองทุนรวมประเภท Short Term General Bond (ระดับความเสี่ยง 4: กองทุนรวมตราสารหนี้) โดยเป็นกองทุนที่ลงทุนโดยตรงในประเทศ กองทุนมีนโยบายลงทุนในตราสารหนี้ภาครัฐ ตราสารหนี้ภาคเอกชน และเงินฝากในประเทศ โดยกำหนดให้คงอายุเฉลี่ยของตราสาร (Portfolio Duration) ไม่เกิน 1 ปี

กองทุนมีอัตราค่าใช้จ่ายในการบริหารจัดการ 0.54% ต่อปี (ข้อมูล ณ วันที่ 30 กันยายน 2568) และมีนโยบายไม่จ่ายเงินปันผล

3.กองทุนเปิดกรุงศรีแอคทีฟตราสารหนี้เพื่อการเลี้ยงชีพ (KFAFIXRMF) ออกโดย บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน กรุงศรี จำกัด จัดอยู่ในกลุ่มกองทุนรวมประเภท Mid Term General Bond (ระดับความเสี่ยง 4: กองทุนรวมตราสารหนี้) โดยเป็นกองทุนที่ลงทุนโดยตรง ทั้งในประเทศและต่างประเทศ ในตราสารหนี้ รวมถึงเงินฝากหรือตราสารเทียบเท่าเงินฝากที่ออก รับรอง รับอาวัล หรือค้ำประกันการจ่ายเงินโดยภาครัฐบาล รัฐวิสาหกิจ สถาบันการเงิน และภาคเอกชน

กองทุนมีอัตราค่าใช้จ่ายในการบริหารจัดการ 0.42% ต่อปี (ข้อมูล ณ วันที่ 30 กันยายน 2568) และมีนโยบายไม่จ่ายเงินปันผล

4.กองทุนเปิด ยูไนเต็ด โกลบอล อินคัม สตราทีจิค บอนด์ ฟันด์ เพื่อการเลี้ยงชีพ (UGISRMF) ออกโดย บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนกรุงศรี โดยจัดอยู่ในกลุ่มกองทุนรวมประเภท Global Bond Discretionary F/X Hedge or Unhedged ซึ่งมีระดับความเสี่ยงอยู่ที่ระดับ 5 และเป็นกองทุนรวมผสมในตราสารหนี้จากต่างประเทศ ภายใต้รูปแบบการลงทุนแบบ Feeder Fund โดยกองทุนมีนโยบายลงทุนในกองทุนหลัก PIMCO GIS Income Fund เป็นหลัก ทั้งนี้ กองทุนหลักมีนโยบายเน้นลงทุนในตราสารหนี้คุณภาพสูงจากทั่วโลก และใช้กลยุทธ์การบริหารเชิงรุก (Active Management) โดยมี PIMCO Global Advisors (Ireland) Limited ทำหน้าที่บริหารจัดการกองทุนหลัก

กองทุน UGISRMF มีค่าใช้จ่ายในการบริหารจัดการ 1.00% ต่อปี (ณ วันที่ 30 กันยายน 2568) และมีนโยบายไม่จ่ายเงินปันผล

Back to top button