
BYD เดินหน้าดัน AUM แตะ 2 หมื่นล้านปี 69 พร้อมรุก Wealth-ขยายผลิตภัณฑ์เต็มสูบ
BYD พร้อมเดินหน้าดัน AUM สู่ 2 หมื่นล้านในปี 69 มุ่งขยายผลิตภัณฑ์–เสริมทัพที่ปรึกษาการลงทุน และรุกตลาดตราสารหนี้–ต่างประเทศ หลังอีบิทด้าได้พลิกเป็นบวกแล้ว ถือเป็นปัจจัยสนับสนุนด้านสภาพคล่อง
นายจักรกริช เจริญเมธาชัย ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร (สายงานที่ปรึกษาการลงทุนและความมั่งคั่งคั่ง) บริษัทหลักทรัพย์ บียอนด์ จำกัด (มหาชน) หรือ BYD เปิดเผยข้อมูลภาพรวมธุรกิจของบริษัทผ่านงาน Opportunity Day จัดโดยตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) ในวันที่ 27 พ.ย.68 ว่า ผลการดำเนินงานในไตรมาส 3/68 มีกำไรสุทธิอยู่ที่ 157.31 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 32.95% เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อนมีกำไรสุทธิ 118.33 ล้านบาท ขณะที่รายได้รวมอยู่ที่ 433.36 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 53.66% เป็นผลมาจากรายได้ค่าธรรมเนียมและบริการเพิ่มขึ้น
สำหรับทิศทางธุรกิจ Wealth Management บริษัทตั้งเป้าสินทรัพย์ภายใต้การจัดการ (AUM) ไว้ที่ 20,000 ล้านบาทภายในปี 2569 จากปัจจุบันราว 16,000 ล้านบาท โดยมีกลยุทธ์หลัก 3 ประการ ได้แก่
1.การสร้างความรู้และการมีส่วนร่วมผ่านการจัดสัมมนาและกิจกรรมฝึกอบรมอย่างต่อเนื่อง เพื่อกระตุ้นความมั่นใจในการลงทุนของลูกค้า
2.การพัฒนาบุคลากรและขยายผลิตภัณฑ์การลงทุน โดยยกระดับบทบาทผู้แนะนำการลงทุนให้เป็น One-Stop Service สามารถนำเสนอผลิตภัณฑ์ได้ครอบคลุมทั้งหุ้นกู้ ตราสารหนี้ หุ้นไทย หุ้นต่างประเทศ และ DR
3.การใช้นวัตกรรมด้านการลงทุน ด้วยการนำแพลตฟอร์ม TradingView มาให้บริการเพื่อเสริมประสิทธิภาพและเพิ่มเครื่องมือให้ลูกค้าใช้ประกอบการตัดสินใจ
โดยในปี 2569 BYD เตรียมรุกตลาดตราสารหนี้ในกลุ่มลูกค้ารายย่อยและ Private Banking มากขึ้น ควบคู่กับการผลักดันการลงทุนในสินทรัพย์ต่างประเทศผ่าน DR เพื่อช่วยกระจายความเสี่ยงและเพิ่มโอกาสสร้างผลตอบแทนให้กับลูกค้า
ทั้งนี้ กระแสเงินสดจากการดำเนินงาน (EBITDA) ได้พลิกเป็นบวกแล้ว ถือเป็นปัจจัยสนับสนุนด้านสภาพคล่อง และช่วยเสริมความแข็งแกร่งทางการเงินของบริษัทในระยะต่อไป
ด้านธุรกิจรถโดยสารของ Thai Smile Bus ยังคงขยายตัวอย่างต่อเนื่อง โดยจำนวนรถที่ให้บริการเฉลี่ยต่อวันเพิ่มขึ้นจาก 1,300 คัน เป็น 1,600 คัน ส่งผลให้ปริมาณผู้โดยสารทำสถิติสูงสุดใหม่ที่ 10.4 ล้านเที่ยวในเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา
