น้ำมันดิบปิดลบหลังแท่นขุดเจาะในสหรัฐฯเพิ่มขึ้น

สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ปิดปรับตัวลงเมื่อคืนนี้ (18 มี.ค.) หลังมีรายงานว่าจำนวนแท่นขุดเจาะน้ำมันที่ใช้งานในสหรัฐเพิ่มขึ้น


สำนักข่าวอินโฟเควสท์รายงานว่า สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนเม.ย.ปิด (18 มี.ค.)  ปรับตัวลง 76 เซนต์ หรือ 1.89% แตะระดับที่ 39.44 ดอลลาร์/บาร์เรล ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนพ.ค.ที่ตลาดลอนดอน ปิดลดลง 34 เซนต์ หรือ 0.82% แตะระดับที่ 41.2 ดอลลาร์/บาร์เรล

เบเกอร์ ฮิวจ์ ซึ่งเป็นบริษัทผู้ให้บริการแก่อุตสาหกรรมน้ำมัน เปิดเผยว่า จำนวนแท่นขุดเจาะน้ำมันที่ใช้งานในสหรัฐเพิ่มขึ้น 1 แท่น สู่ระดับ 387 แท่น ซึ่งเป็นการเพิ่มขึ้นครั้งแรกในรอบ 13 สัปดาห์ ขณะที่ธนาคารกลางรัสเซียออกแถลงการณ์หลังการประชุมนโยบายการเงินว่า ภาวะตลาดน้ำมันในขณะนี้ยังคงมีปริมาณน้ำมันล้นตลาด ท่ามกลางภาวะชะลอตัวของเศรษฐกิจจีน

ขณะที่อิหร่านเตรียมเพิ่มการส่งออกน้ำมัน และการแข่งขันชิงส่วนแบ่งในตลาดก็เป็นไปอย่างดุเดือด “สิ่งเหล่านี้ทำให้การฟื้นตัวของราคาน้ำมันที่เราเห็นในช่วงหลายสัปดาห์ที่ผ่านมาไม่มีความยั่งยืน ทางธนาคารกลางจึงได้คาดการณ์ราคาน้ำมันเฉลี่ยในปีนี้ ที่ระดับ 30 ดอลลาร์/บาร์เรล และจะเพิ่มขึ้นอย่างค่อยเป็นค่อยไปสู่ระดับ 40 ดอลลาร์/บาร์เรลในปี 2018”

Back to top button