เงินเฟ้อ พ.ย. หด 0.49% ตามพลังงานลดลง คาดปี 69 ฟื้นตัวกรอบ 0-1%

เงินเฟ้อ พ.ย. ลดต่อจากราคาพลังงาน แม้อัตราหดตัวชะลอ ขณะที่พาณิชย์คาดปี 69 อยู่ในกรอบ 0–1% หนุนจากสินค้าเกษตรและท่องเที่ยวฟื้นตัว ท่ามกลางแรงกดดันจากน้ำมันโลกลดลงและเศรษฐกิจขยายตัวต่ำ


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ (3 ธ.ค.68) นายนันทพงษ์ จิระเลิศพงษ์ ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและยุทธศาสตร์การค้า และโฆษกกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า ดัชนีราคาผู้บริโภคทั่วไปของไทย เดือนพฤศจิกายน 2568 อยู่ที่ 100.15 เทียบกับ 100.64 ในช่วงเดียวกันของปีก่อน ส่งผลให้อัตราเงินเฟ้อทั่วไปลดลง 0.49% โดยเป็นการหดตัวที่ชะลอลง เมื่อเทียบกับเดือนตุลาคม ซึ่งลดลง 0.76%

ปัจจัยหลักที่ยังดึงเงินเฟ้อลง มาจากราคาสินค้าในกลุ่มพลังงาน ทั้งค่ากระแสไฟฟ้าครัวเรือนและน้ำมันเชื้อเพลิงที่ลดลงตามทิศทางพลังงานโลก และมาตรการลดภาระค่าครองชีพของภาครัฐ ขณะที่กลุ่มอาหารและเครื่องดื่มไม่มีแอลกอฮอล์กลับมาปรับสูงขึ้น หลังลดลงต่อเนื่อง 3 เดือน จากราคาผักสด อาหารสำเร็จรูป และเครื่องดื่มไม่มีแอลกอฮอล์ที่เพิ่มขึ้น

อัตราเงินเฟ้อของไทยเมื่อเทียบกับต่างประเทศ (ข้อมูลเดือนตุลาคม 2568) พบว่า ยังคงต่ำเป็นอันดับ 3 จาก 132 เขตเศรษฐกิจที่ประกาศตัวเลข และต่ำที่สุดในอาเซียน 9 ประเทศที่ประกาศข้อมูล (บรูไน ติมอร์-เลสเต สิงคโปร์ มาเลเซีย ฟิลิปปินส์ อินโดนีเซีย เวียดนาม สปป.ลาว)

สำหรับดัชนีราคาผู้บริโภคทั่วไปเฉลี่ย 11 เดือน (มกราคม–พฤศจิกายน) ปี 2568 ลดลง 0.12% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน

กระทรวงพาณิชย์ ประเมินว่า เงินเฟ้อทั่วไปปี 2569 จะอยู่ในกรอบ 0.0–1.0% ค่ากลาง 0.5% โดยมีแรงหนุนจากราคาสินค้าเกษตรที่มีแนวโน้มปรับตัวดีขึ้น ตามนโยบายรักษาเสถียรภาพ และแนวโน้มลดการเพาะปลูกสินค้าราคาต่ำ ซึ่งทำให้ผลผลิตเข้าตลาดน้อยลง ส่งผลให้ราคาอาจปรับเพิ่ม รวมถึงทิศทางการท่องเที่ยวที่คาดว่าปี 2569 จะมีนักท่องเที่ยวราว 34.9 ล้านคน สร้างรายได้ 2.79 ล้านล้านบาท อาจดันราคาสินค้าและบริการที่เกี่ยวข้องปรับสูงขึ้น

ด้านปัจจัยกดดัน ยังมาจากราคาน้ำมันดิบโลกที่ลดลงต่อเนื่องเป็นปีที่ 4 ทำให้ราคาขายปลีกในประเทศลดลง โดยเฉพาะดีเซลที่มีแนวโน้มต่ำกว่าค่าเฉลี่ยปี 2568 ขณะเดียวกันภาครัฐยังเดินหน้ามาตรการลดค่าครองชีพ ทั้งลดค่าไฟฟ้าครัวเรือน ค่าโดยสารสาธารณะ และตรึงราคาก๊าซ LPG

เศรษฐกิจไทยปี 2569 ยังคาดว่าจะขยายตัวเพียง 1.7% ต่ำกว่าปี 2568 ซึ่งอยู่ที่ 2.0% และต่ำกว่า 3% ต่อเนื่องเป็นปีที่ 8 ทำให้อุปสงค์ในประเทศอ่อนแรง อีกทั้งเงินเฟ้อนำเข้ามีแนวโน้มต่ำ เพราะหลายประเทศเศรษฐกิจชะลอ การผลิตและส่งออกสินค้าราคาลดลง ขณะที่เงินบาทแข็งค่ายังช่วยให้ไทยนำเข้าสินค้าราคาถูกลง โดยเฉพาะเสื้อผ้า เครื่องใช้ไฟฟ้า และอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์

Back to top button