MASTER ส่งซิกไตรมาส 4 ลุยต่อ รัดเข็มขัดคุมต้นทุน ตั้งเป้ารายได้ต่างชาติ 40% ปีหน้า

MASTER ส่งสัญญาณทิศทางไตรมาส 4 เดินหน้าขยายบริการและเสริมทีมผู้บริหารใหม่ พร้อมตั้งเป้ารายได้ต่างประเทศปี 2569 แตะ 40% รับมือการแข่งขันครึ่งปีแรกด้วยแผนปรับโครงสร้าง เสริมความแข็งแกร่งระบบภายใน บริหารต้นทุนอย่างมีประสิทธิภาพ และเพิ่มบริการเฉพาะทางมาร์จิ้นสูง


นายแพทย์ระวีวัฒน์ มาศฉมาดล ประธานกรรมการบริหาร บริษัท มาสเตอร์ สไตล์ จำกัด (มหาชน) หรือ MASTER เปิดเผยว่า ประเมินทิศทางธุรกิจไตรมาส 4/2568 มีแนวโน้มทรงตัว โดยได้รับแรง สนับสนุนจากความต้องการด้านศัลยกรรม และบริการด้านความงาม ในประเทศที่ทยอยปรับดีขึ้น สำหรับกลุ่ม ลูกค้าต่างชาติยังคงเป็นแรงขับเคลื่อนสำคัญของธุรกิจในช่วงครึ่งปีหลัง โดยเฉพาะในบริการศัลยกรรมเฉพาะทาง ซึ่งมีอัตราค่าใช้จ่ายเฉลี่ยต่อเคสจูงกว่าลูกค้าในประเทศอย่างมีนัยสำคัญ ซึ่งผลดีต่ออัตรากำไรขั้นต้นของ บริษัทฯ แม้ว่าลูกค้ากัมพูชาจะชะลอลงจากสถานการณ์ชายแดน แต่ภาพรวมรายได้จากตลาดต่างประเทศยังเติบโตแข็งแกร่ง

“เราคาดว่าไตรมาส 4/2568 จะเห็นการฟื้นตัวจากไตรมาส 3/2568 โดยเฉพาะกลุ่มเศสต่างชาติ และลูกค้าไทยที่ทยอยกลับมาใช้บริการ จากกำลังซื้อที่เริ่มฟื้นตัว ขณะที่บริษัทฯ ยังคงเน้นการบริหารต้นทุนและแพทย์ให้มีประสิทธิภาพ พร้อมทั้งเดินหน้าสร้างการเติบโตจากกลุ่มบริการที่มี margin สูง” นายแพทย์ ระวีวัฒน์ กล่าว

นอกจากนี้ บริษัทฯ ได้มีการแต่งตั้งนางสาวประภาวรินท์ ลองงาม เป็นรองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร เพื่อเข้ามาเสริมทัพในองค์กร ทั้งในส่วนของระบบหน้าบ้านและหลังบ้าน รวมถึงการวางระบบบริหาร จัดการและการพัฒนาศักยภาพทีมการตลาด รวมถึงการบริหารจัดการตารางแพทย์ให้มีประสิทธิภาพสูงสุด สำหรับการแต่งตั้งครั้งนี้เพื่อส่งเสริมและขยายกำลังทัพให้มีความพร้อมในการเติบโตอย่างมั่นคงและยังยืนใน ระยะยาว

นางสาวลภัสรดา เลิศภานุโรจ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กล่าวถึงแนวโน้มธุรกิจครึ่งปีแรกของ 2569 และกลยุทธ์รับมือการแข่งขันว่าบริษัทฯ ประเมินว่าในปี 2569 อุตสาหกรรมศัลยกรรมและเสริมความงาม ของไทยจะยังเติบโตในอัตราที่ชะลอลง ตามประมาณการของศูนย์วิจัยกสิกรไทยที่คาดวา ตลาดจะเติบโตเพียง 1.0% เทียบกับ 1.6% ในปี 2568 แม้จํานวนผู้ใช้บริการและอัตราค่าบริการจะมีแนวโน้มเพิ่มขึ้น แต่ภาวะเศรฐกิจและการแข่งขันที่เข้มข้นยังคงเป็นแรงกดดันหลักต่อกำลังซื้อ และการขยายฐานลูกค้าใหม่

ทั้งนี้ MASTER เตรียมปรับแผนธุรกิจเชิงรุก โดยเน้น 3 แกนกลยุทธ์สำคัญ ได้แก่

  1. การบริหารต้นทุนและโครงสร้างราคาที่เหมาะสม เพื่อรักษาอัตรากำไรขั้นต้นให้อยู่ใน ระดับที่แข็งแรง แม้ภายใต้ภาวะการแข่งขัน
  2. การขยายฐานลูกค้าต่างชาติอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะในกลุ่มประเทศที่มีศักยภาพสูง และ ต้องการศัลยกรรมเฉพาะทาง เช่น อินโดนีเซีย เมียนมา และลาว พร้อมตั้งเป้ารายได้ต่างชาติแตะระดับ 40% ของรายได้รวมภายใน 2 ปี
  3. การพัฒนา Product Mix และเพิ่มสัดส่วนบริการเฉพาะทางที่มีมาร์จิ้นสูง รวมถึงการ ร่วมมือกับพันธมิตรในธุรกิจโรงพยาบาลศัลยกรรม และธุรกิจเสริมอาหารเพื่อความงาม
  4. การป้องกันระบบภายในให้แข็งแกร่ง โดยเฉพาะการป้องกันการประกอบธุรกิจ ค้าแข่ง

นางสาวลภัสรดา กล่าวอีกว่า แม้อุตสาหกรรมในภาพรวมอาจเผชิญแรงกดดันจากภาวะเศรษฐกิจหรือพฤติกรรมผู้บริโภคที่เปลี่ยนไป เพื่อรับมือกับสถานการณ์ บริษัทได้ปรับโครงสร้างภายใน เพิ่มความยืดหยุ่น และลงทุนร่วมกับพันธมิตร พร้อมเสริมความแข็งแกร่งด้านกลยุทธ์การตลาด โดยเฉพาะการสร้างความน่าเชื่อถือของแพทย์และการใช้ช่องทางโซเชียลมีเดียเป็นตัวขับเคลื่อนรายได้หลัก ซึ่งปัจจุบันประมาณ 98% ของลูกค้าเข้ามาจากโซเชียลมีเดีย

สำหรับทิศทางปี 2569  MASTER ตั้งเป้าหมายให้รายได้ต่างประเทศเป็น 40% ของรายได้รวม โดยประเทศหลัก ได้แก่ อินโดนีเซีย ลาว และกลุ่มยุโรป พร้อมจับมือกับเอเจนซี่ต่างประเทศเพื่อเชื่อมต่อกลับมายังประเทศไทย ขณะที่รายได้ในประเทศไทยยังคงรักษาสัดส่วน 60% ของรายได้รวม

บริษัทคาดการณ์อัตราการเติบโตปีหน้าประมาณ 1 หลัก (single digit) ในประเทศไทย ส่วนต่างประเทศจะเป็นตัวขับเคลื่อนหลัก โดยปัจจัยสนับสนุนสำคัญ ได้แก่ ความน่าเชื่อถือของแพทย์ การใช้คอนเทนต์เพื่อการตลาด และการบริหารจัดการต้นทุนและค่าคอมมิชชั่นอย่างมีประสิทธิภาพ

“ยืนยันว่า หลังการปรับปรุงระบบและกลยุทธ์องค์กรเสร็จสิ้น บริษัทตั้งเป้าจะกลับมาสู่การเติบโตและทำกำไรอย่างต่อเนื่องในปีหน้า” นางสาวลภัสรดา กล่าวทิ้งท้าย

Back to top button