EXIM BANK วางบทบาท “โคไพรอต” ดันเอสเอ็มอีรายย่อย หวังเพิ่มผู้ส่งออกเท่าตัวปี 69

EXIM BANK ประเมินส่งออกไทยปี 2569 โต 0-2% จากแรงกดดันรอบด้าน เดินหน้าปรับบทบาทเป็น “โคไพรอต” ดันผู้ส่งออกรายย่อย “SME-X” เพิ่มเท่าตัว ใช้ประกันการส่งออกนำ พร้อมเร่งขยายฐานตลาดใหม่


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ (17 ธ.ค.68) นายชลัช รัตนบุญนิธิ กรรมการผู้จัดการ ธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย (EXIM BANK) ประเมินแนวโน้มการส่งออกไทยปี 2569 ขยายตัวในกรอบ 0-2% ท่ามกลางแรงกดดันจากสงครามการค้า ความขัดแย้งชายแดน ความผันผวนของค่าเงิน และฐานที่สูงจากการเร่งส่งออกในปี 2568

ทั้งนี้ EXIM BANK ปรับบทบาทครั้งใหญ่ จากผู้ให้สินเชื่อเป็น “โคไพรอต” (Co-pilot) หรือผู้ร่วมขับเคลื่อนธุรกิจของผู้ส่งออก มุ่งเป็นพันธมิตรทางธุรกิจแบบครบวงจร โดยตั้งเป้าเพิ่มจำนวนผู้ส่งออก 100% หรือราว 2,000 ราย ภายในปี 2569 ผ่านการใช้ “ประกันการส่งออก” เป็นเครื่องมือนำ ควบคู่การช่วยหาตลาดและผู้ซื้อรายใหม่

ธนาคารมุ่งเป้าไปที่ผู้ส่งออกขนาดกลางและรายย่อย หรือกลุ่ม “SME-X” เพื่อแก้โจทย์สำคัญของภาคส่งออก 4 ด้าน ได้แก่ การลดการพึ่งพาตลาดสหรัฐและจีน การรับมือสังคมสูงวัย การพัฒนาควบคู่ AI เพื่อรักษาความสามารถแข่งขัน และการยกระดับมาตรฐาน ESG เพื่อลดความเสี่ยงด้านการกีดกันทางการค้า

นายชลัช ระบุว่า ปัจจุบันภาคส่งออกไทยเผชิญความไม่สมดุลระหว่างจำนวนผู้ส่งออกกับมูลค่าการส่งออก โดยพอร์ตสินเชื่อเพื่อการส่งออกของ EXIM BANK มีมูลค่า 1.8 แสนล้านบาท สินเชื่อ SME คิดเป็นสัดส่วนราว 20-30% ส่วนใหญ่เป็นสินเชื่อเงินทุนหมุนเวียน ซึ่งผันผวนตามคำสั่งซื้อ ขณะที่สินเชื่อกว่า 70% อยู่ในกลุ่มผู้ส่งออกรายใหญ่ซึ่งเติบโตจำกัด ทำให้ไม่ช่วยกระตุ้น GDP มากนัก

ธนาคารจึงปรับโฟกัสมาที่ SME-X มากขึ้น พร้อมตั้งเป้ากรมธรรม์ความเสี่ยงรวม 1 แสนล้านบาท คาดช่วยดันมูลค่าตลาดส่งออกโดยรวมเพิ่มขึ้นเกือบ 2 แสนล้านบาท โดยปัจจุบันมีลูกค้า SME-X ราว 2,200 ราย และตั้งเป้าเพิ่มเป็น 4,000 รายในระยะถัดไป

สำหรับค่าเงินบาทที่แข็งค่า ยอมรับว่าอาจกระทบผู้ส่งออกรายย่อย ทำให้กลุ่ม SME-X ต้องเร่งเรียนรู้เครื่องมือป้องกันความเสี่ยง ขณะที่ผู้ส่งออกรายใหญ่มีการบริหารความเสี่ยงด้านอัตราแลกเปลี่ยนค่อนข้างพร้อมแล้ว

นอกจากนี้ EXIM BANK อยู่ระหว่างพัฒนาระบบเอกสารการค้าดิจิทัล ร่วมกับสมาคมธนาคารไทย เพื่อสร้างมาตรฐาน Safe Document เป็นระบบ Digital Page เชื่อมโยงต่างประเทศ ใช้ตรวจสอบตัวตนและเอกสารการค้า คาดเริ่มใช้งานได้ในปีหน้า หลังผ่านกระบวนการด้านกฎเกณฑ์และระบบ

ส่วนกรณีอุทกภัยภาคใต้ ธนาคารออกมาตรการเฉพาะกิจวงเงิน 1,000 ล้านบาท สำหรับนิติบุคคลใน 10 จังหวัด โดยเน้นจังหวัดสงขลาซึ่งได้รับผลกระทบรุนแรง วงเงินสินเชื่อสูงสุดรายละ 1 ล้านบาท ดอกเบี้ย 0% ปีแรก ผ่อนชำระ 3 ปี ใช้การค้ำประกันจาก บสย. รองรับทั้งความเสียหายโดยตรงจากน้ำท่วม และความเสียหายทางอ้อมจากการหยุดชะงักของแรงงาน

ขณะที่สถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ส่งผลต่อลูกค้าบางส่วนที่ไปลงทุนในกัมพูชา โดยเฉพาะด้านกระแสเงินสด ปัจจุบันมีผู้ประกอบการราว 10 รายในกลุ่มโรงแรม ลีสซิ่ง และร้านอาหาร ซึ่งธนาคารได้ใช้มาตรการพักชำระหนี้และเจรจาดอกเบี้ยเป็นรายกรณี โดยยังไม่พบลูกค้ารายใดมีปัญหารุนแรง และยังติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด

Back to top button