สรุปภาวะตลาดต่างประเทศวานนี้

สรุปภาวะตลาดต่างประเทศประจำวันที่ 14 ก.ย.59


ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดลบ เมื่อคืนนี้ (14 ก.ย.) เนื่องจากความวิตกกังวลเกี่ยวกับราคาน้ำมันที่ร่วงลงอย่างต่อเนื่อง โดยเมื่อคืนนี้ราคาน้ำมัน WTI ดิ่งหลุดจากแนว 44 ดอลลาร์/บาร์เรล นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับแรงกดดันจากแนวโน้มอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ที่ยังคงไม่แน่นอน อย่างไรก็ตาม หุ้นกลุ่มเทคโนโลยีดีดตัวขึ้นสวนทางตลาด เพราะได้แรงหนุนจากการพุ่งขึ้นของหุ้นแอปเปิล หลังจากยอดจองไอโฟน 7 ที่เพิ่มขึ้นอย่างแข็งแกร่ง

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 18,034.77 จุด ลดลง 31.98 จุด หรือ -0.18% ดัชนี NASDAQ ปิดที่ 5,173.77 จุด เพิ่มขึ้น 18.52 จุด หรือ +0.36% ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,125.77 จุด ลดลง 1.25 จุด หรือ -0.06%

 

ตลาดหุ้นยุโรปปิดลบ เมื่อคืนนี้ (14 ก.ย.) เนื่องจากนักลงทุนเทขายหุ้นกลุ่มสินค้าแบรนด์เนมชื่อดัง หลังจาก Cie. Financiere Richemont ซึ่งเป็นบริษัทแม่ของคาร์เทียร์ ได้ปรับลดคาดการณ์ผลประกอบการในช่วงครึ่งปีหลัง

ดัชนี Stoxx Europe 600 ปรับตัวลง 0.1% ปิดที่ 338.42 จุด ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่วันที่ 4 ส.ค.ปีนี้

ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 4,370.26 จุด ลดลง 16.92 จุด หรือ -0.39% ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดที่ 10,378.40 จุด ลดลง 8.20 จุด หรือ -0.08% ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 6,673.31 จุด เพิ่มขึ้น 7.68 จุด หรือ +0.12%

 

ตลาดหุ้นลอนดอนปรับตัวเพิ่มขึ้น เมื่อคืนนี้ (14 ก.ย.) เพราะได้รับปัจจัยหนุนจากการดีดตัวขึ้นของหุ้นกลุ่มเหมืองแร่ หลังจากราคาสินค้าโภคภัณฑ์ปรับตัวเพิ่มขึ้น

ดัชนี FTSE 100 ปิดปรับตัวขึ้น 7.68 จุด หรือ 0.12% แตะที่ 6,673.31 จุด

 

สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดร่วงลง เกือบ 3% เมื่อคืนนี้ (14 ก.ย.) เนื่องจากนักลงทุนยังคงวิตกกังวลต่อรายงานของสำนักงานพลังงานสากล (IEA) ซึ่งระบุว่า อุปสงค์น้ำมันในตลาดโลกมีการขยายตัวในอัตราที่ต่ำกว่าการคาดการณ์ และการผลิตน้ำมันของกลุ่มโอเปกยังคงปรับตัวสูงขึ้น

สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนต.ค.ร่วงลง 1.32 ดอลลาร์ หรือ 2.9% ปิดที่ 43.58 ดอลลาร์/บาร์เรล

สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ส่งมอบเดือนพ.ย.ดิ่งลง 1.25 ดอลลาร์ หรือ 2.7% ปิดที่ 45.85 ดอลลาร์/บาร์เรล

 

สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดดีดตัวขึ้น เมื่อคืนนี้ (14 ก.ย.) ซึ่งเป็นการปรับตัวขึ้นวันแรกในรอบ 6 วันทำการ เพราะได้แรงหนุนจากสกุลเงินดอลลาร์ที่อ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆ อันเนื่องมาจากความไม่แน่นอนเกี่ยวกับแนวโน้มอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) 

สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนธ.ค.เพิ่มขึ้น 2.4 ดอลลาร์ หรือ 0.18% ปิดที่ระดับ 1,326.1 ดอลลาร์/ออนซ์

สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนธ.ค.เพิ่มขึ้น 9.1 เซนต์ หรือ 0.48% ปิดที่ 19.066 ดอลลาร์/ออนซ์

สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนต.ค.พุ่งขึ้น 4.9 ดอลลาร์ หรือ 0.47% ปิดที่ 1,040.90 ดอลลาร์/ออนซ์

สัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนธ.ค.ขยับขึ้น 40 เซนต์ หรือ 0.1% ปิดที่ 656.50 ดอลลาร์/ออนซ์

สัญญาทองคำได้รับแรงหนุนจากสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐที่อ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆ ซึ่งเป็นผลมา

 

สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลง เมื่อเทียบกับเงินสกุลหลักๆ ในการซื้อขายที่ตลาดนิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (14 ก.ย.) เพราะได้รับแรงกดดันจากความไม่แน่นอนของทิศทางอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด)

ดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับเยนที่ระดับ 102.40 เยน จากระดับ 102.72 เยน และลดลงเมื่อเทียบฟรังก์สวิส ที่ระดับ 0.9736 ฟรังก์ จากระดับ 0.9778 ฟรังก์ ในขณะที่ขยับขึ้นเมื่อเทียบดอลลาร์แคนาดาที่ระดับ 1.3200 ดอลลาร์แคนาดา จากระดับ 1.3170 ดอลลาร์แคนาดา

เงินยูโรแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบดอลลาร์สหรัฐ ที่ระดับ 1.1250 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.1207 ดอลลาร์สหรัฐ ในขณะที่เงินปอนด์เพิ่มขึ้นแตะระดับ 1.3236 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.3186 ดอลลาร์สหรัฐ ส่วนเงินดอลลาร์ออสเตรเลียเพิ่มขึ้นแตะระดับ 0.7472 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.7453 ดอลลาร์สหรัฐ

Back to top button