ไปไม่รอด! “ทีนิวส์” ขึ้นจอดำ 1 ต.ค.นี้

ไปไม่รอด! “ทีนิวส์” ขึ้นจอดำ 1 ต.ค.นี้


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 19 ก.ย.59 นายสนธิญาณ ชื่นฤทัยในธรรม ผู้อำนวยการสำนักข่าวทีนิวส์ เปิดเผยว่า ในวันที่ 1 ต.ค. นี้ จะยุติการออกอากาศสถานีโทรทัศน์ผ่านดาวเทียม ทีนิวส์ ทีวี เนื่องจากประสบปัญหาขาดทุนและหนี้สิน ซึ่งก่อนหน้านี้เข้าไปผลิตรายการข่าวให้กับสถานีโทรทัศน์ไบร์ท ทีวี ได้แก่ รายการ สด ลึก จริง ทุกวันจันทร์ – ศุกร์ ตั้งแต่เวลา 08.30 – 10.00 น., รายการเจาะข่าวร้อน ล้วงข่าวลึก ทุกวันจันทร์ – พฤหัสบดี ตั้งแต่เวลา 18.20 – 19.00 น. และวันศุกร์ เวลา 18.00 – 19.00 น. นอกจากนี้ ยังจะมีรายการ “ยุคลถามตรง สนธิญาณฟันธงตอบ” ทุกวันเสาร์ เวลา 20.45 – 21.45 น. ตั้งแต่วันที่ 1 ต.ค. 2559

ก่อนหน้านี้สถานีโทรทัศน์ผ่านดาวเทียม ทีนิวส์ ทีวี มีเรตติ้งอันดับต้นๆ และเอเยนซีสนใจลงโฆษณา แต่หลังจากที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา หัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ได้สั่งปิดสถานีโทรทัศน์ หลังเข้าควบคุมอำนาจการปกครองทำให้ชีวิตและธุรกิจถูกทำลาย มีหนี้สินเกือบ 70 ล้านบาท ที่ผ่านมา มีความพยายามที่จะปรับโครงสร้างองค์กร ทั้งการลดพนักงาน 40 คน ลดเงินเดือนผู้บริหาร เพิ่มเวลาทำงานและหน้าที่แก่พนักงาน รวมทั้งจัดกิจกรรมหารายได้ให้สถานี เช่น การจัดทัวร์ แต่ไม่เป็นผล

นอกจากนี้ ยังเกิดปัญหาการแข่งขันระหว่างทีวีดิจิตอลกับทีวีดาวเทียม และคณะกรรมการกิจการกระจายเสียงกิจการโทรทัศน์และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) ได้สั่งให้ทีวีดาวเทียมมีการเข้ารหัสทำให้ดูทีวีดาวเทียมได้ยากขึ้น ลดเหลือเฉพาะผู้ชมจานดำพีเอสไอ 8 ล้านคน ขณะที่ต้นทุนการส่งสัญญาณยังสูง

ทั้งนี้ ยืนยันว่าสำนักข่าวทีนิวส์และบริษัท ทีนิวส์ ทีวี ไม่ได้ปิดตัวลง ยังดูแลพนักงานที่เหลืออยู่ 140 คนเหมือนเดิม รวมทั้งผู้สื่อข่าวภูมิภาคและเครือข่าย ซึ่งสถานการณ์เช่นนี้เกิดขึ้นเช่นเดียวกับสื่อขนาดใหญ่ที่ทยอยลดพนักงานนับร้อยคน รวมทั้งการเกิดขึ้นของเฟซบุ๊กที่มาแทนทีวี

ก่อนหน้านี้ เมื่อวันที่ 26 ธ.ค.58 สำนักข่าวทีนิวส์เคยเลิกจ้างพนักงานในส่วนงานโทรทัศน์ อาทิ ช่างกล้อง ช่างตัดต่อ ออกจำนวนมากกว่า 40 คน เพื่อแก้ไขปัญหาการขาดทุนของบริษัท กระทั่งนายสนธิญาณได้ออกแถลงการณ์ขอโทษ และชี้แจงข้อเท็จจริงให้พนักงานทุกคนรับทราบ ระบุว่า ได้รับผลกระทบจากการเกิดขึ้นของทีวีดิจิทัล ทำให้มีปัญหาขาดทุนมากกว่า 100 ล้านบาท ทำให้ต้องยอมตัดอวัยวะเพื่อรักษาชีวิต

Back to top button