
STA บวกกว่า 3% รับราคายางสูงขึ้น กูรูแนะนำ “ซื้อ”
STA บวกกว่า 3% หลังราคายางขยับสูงขึ้นคาดหนุนกำไรปี 60 โตโดดเด่น โดย ณ เวลา 11.25 น. ราคาอยู่ที่ 16.00 บาท บวก 0.40 บาท หรือ 2.56% มูลค่าซื้อขาย 220.63 ล้านบาท ด้านบล.กรุงศรี แนะนำ "ซื้อ" ราคาเป้าหมาย 20 บาท
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ราคาหุ้นบริษัท ศรีตรังแอโกรอินดัสทรี จำกัด (มหาชน) หรือ STA โดย ณ เวลา 11.25 น. ราคาอยู่ที่ 16.00 บาท บวก 0.40 บาท หรือ 2.56% มูลค่าซื้อขาย 220.63 ล้านบาท โดยเปิดตลาดที่ 15.90 บาท ราคาปรับตัวขึ้นสูงสุดที่ 16.30 บาท และราคาปรับตัวลงต่ำสุดที่ 15.60 บาท
โดยบล.กรุงศรี ระบุในบทวิเคราะห์ฯแนะ”ซื้อ”หุ้น บมจ.ศรีตรังแอโกรอินดัสทรี (STA) เนื่องจากราคายางที่ขยับสูงขึ้นจะช่วยหนุนกำไรปี 2560 ในขณะที่เป้าปริมาณยอดขายของบริษัทที่ 1.7 ล้านตันถือเป็น upside risk ของสมมติฐานของเราที่ 1.5 ล้านตัน พร้อมปรับเพิ่มราคาเป้าหมายเป็น 20 บาท ราคา NR ในตลาดล่วงหน้าแซงหน้าสมมติฐานปี 2560 ที่ US$1.65/kg. คาดมี upside ของกำไรอีก
ด้านผู้บริหารมีมุมมองสอดคล้องกับเราว่าอุปสงค์ยางธรรมชาติ (NR) ยังแข็งแกร่ง ในขณะที่อุปทานยังคงต่ำกว่าอุปสงค์ เนื่องจากฝนที่ตกหนักขึ้น และผลผลิตจากพื้นที่ปลูกใหม่ที่ยังจำกัด ทั้งนี้อุปทานในตลาดโลกค่อนข้างนิ่งในช่วงสองปีที่ผ่านมา แต่อุปสงค์ก็ทรงตัวเช่นกันจากการที่อุปสงค์ภายในประเทศจีนอ่อนแอตามภาวะเศรษฐกิจในปี 2557 และสหรัฐนำภาษีต่อต้านการทุ่มตลาดมาใช้กับยางรถยนต์จากจีน
ซึ่งทำให้ยอดส่งออกยางรถยนต์ของจีนลดลงถึง 6.6% ในปี 2558 จึงทำให้เกิดอุปทานส่วนเกิน และฉุดให้ราคา NR ลดลง ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา แต่อย่างไรก็ตามสถานการณ์อุปสงค์น่าจะปรับตัวดีขึ้นหลังจากที่ผู้ผลิตยางรถยนต์หลายเจ้าได้ย้ายฐานการผลิตไปยังต่างประเทศ และบางส่วนได้ควบรวมกิจการกับผู้ผลิตรายใหญ่กว่าเพื่อหลีกเลี่ยงภาษีต่อต้านการทุ่มตลาด ดังนั้นจึงมองว่าอุปสงค์ยางธรรมชาติน่าจะกลับมาดีอีกครั้งในปี 2560
ทั้งนี้ คาดว่าอุปสงค์และอุปทานของ NR ในปีนี้ยังคงตึงตัวอยู่ที่ 12.3 ล้านตัน ซี่งคาดว่าจะทำให้เกิดอุปสงค์ส่วนเกินไปจนถึงอย่างน้อยตลอดครึ่งปีแรกของปี 60 จากช่วงของการสะสมสต็อกซึ่งยาวนาน 3 เดือนในช่วง NR ที่ขาดแคลน การที่สต็อกยางที่ท่าเรือ Qingdao ลดลงมาอยู่ในระดับต่ำสุดในรอบห้าปีที่ประมาณ 50,000 ตัน จะช่วยเพิ่มอุปสงค์และราคายางอย่างต่อเนื่อง จึงยังคงมีมุมมองที่เป็นบวกต่อแนวโน้มผลการดำเนินงานของ STA ในปี 2560
โดยมีแนวโน้มราคา NR ที่เพิ่มขึ้น และปริมาณยอดขายที่บริษัทคาดว่าจะเพิ่มเป็น 1.7 ล้านตันในปี 2560 (1.4 ล้านตันในปี 2559) ซึ่งสูงกว่าประมาณการของเราที่ 1.3 ล้านตันก่อนหน้า จึงปรับประมาณการณ์เป็น 1.5 ล้านตัน ซึ่งทำให้กำไรปี 2560 ปรับชึ้น 9% หรือคิดเป็น EPS ที่ 1.33 บาท