ตลาดหุ้นเอเชียภาคบ่ายผันผวน วิตกสถานการณ์เกาหลีเหนือ

ตลาดหุ้นเอเชียภาคบ่ายผันผวน วิตกสถานการณ์เกาหลีเหนือ


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ตลาดหุ้นเอเชียเคลื่อนไหวทั้งแดนบวกและลบในการซื้อขายภาคบ่ายวันนี้ เนื่องจากนักลงทุนต่างระมัดระวังการซื้อขาย เพราะความกังวลเกี่ยวกับสถานการณ์ตึงเครียดในภูมิภาค ภายหลังจากที่เกาหลีเหนือได้ยิงขีปนาวุธเมื่อวานนี้ และในวันนี้เกาหลีใต้และสหรัฐเปิดฉากซ้อมรบด้วยขีปนาวุธ โดยเงินเยนแข็งค่าขึ้น ส่วนตลาดหุ้นโตเกียวและออสเตรเลียร่วงลง

โดย ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่นปิดภาคเช้าที่ 19,928.79 จุด ลดลง 103.56 จุด, -0.52% ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกงปิดภาคเช้าที่ 25,478.85 จุด เพิ่มขึ้น 89.84 จุด, +0.35% ดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซียปิดภาคเช้าที่ 1,762.70 จุด เพิ่มขึ้น 0.62 จุด, +0.04% ดัชนี SENSEX ตลาดหุ้นอินเดียเปิดวันนี้ที่ 31,272.72 จุด เพิ่มขึ้น 62.93 จุด, +0.20%

ด้าน นายคิม จอง อึน ผู้นำเกาหลีเหนือ ออกมาขู่สหรัฐว่า เกาหลีเหนือจะเดินหน้าส่งของขวัญไปให้กับสหรัฐต่อไป หลังจากที่ประสบความสำเร็จในการทดสอบขีปนาวุธข้ามทวีป (ICBM) ครั้งแรกเมื่อวานนี้ ซึ่งตรงกับวันชาติของสหรัฐ

นายคิม ซึ่งเดินทางไปชมการทดสอบขีปนาวุธครั้งนี้ด้วยตนเองนั้น กล่าวว่า “สหรัฐจะต้องรู้สึกไม่พอใจที่เกาหลีเหนือทดสอบขีปนาวุธในวันชาติของสหรัฐ แต่เกาหลีเหนือจะส่งของขวัญทั้งชิ้นเล็กและชิ้นใหญ่ไปให้กับสหรัฐอย่างต่อเนื่อง”

ด้านสหรัฐได้ออกมาเรียกร้องให้สภาความมั่นคงแห่งสหประชาชาติจัดการประชุมฉุกเฉินในวันนี้ หลังจากที่เกาหลีเหนือได้ยิงขีปนาวุธข้ามทวีป (ICBM) ในช่วงเช้าวานนี้

นายโจนาธาน วอชเทล โฆษกฝ่ายกิจการภายในของสหรัฐ กล่าวว่า นางนิกกี้ เฮลีย์ เอกอัครราชทูตสหรัฐ ต้องการที่จะให้การประชุมซึ่งจะจัดขึ้นในช่วงบ่ายวันนี้ตามเวลาสหรัฐ เป็นการประชุมแบบเปิด จากที่ปกติจะเป็นการประชุมภายในสำหรับเจ้าหน้าที่ผู้เกี่ยวข้องเท่านั้น

สำหรับข้อมูลเศรษฐกิจที่ได้มีการเปิดเผยแล้วในวันนี้ ได้แก่ ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคบริการของจีน ซึ่งมาร์กิตจัดทำร่วมกับไฉซิน ปรับตัวลงสู่ระดับ 51.6 ในเดือนมิ.ย. จากระดับ  52.8 ในเดือนพ.ค.

อย่างไรก็ตาม ดัชนี PMI ยังคงเคลื่อนไหวเหนือระดับ 50 ซึ่งบ่งชี้ว่าภาคบริการยังคงขยายตัว

ทั้งนี้ นักลงทุนยังคงรอดูการเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจสำคัญของสหรัฐ ได้แก่ ตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรประจำเดือนมิ.ย. ซึ่งกระทรวงแรงงานมีกำหนดเปิดเผยข้อมูลดังกล่าวในวันศุกร์นี้ เวลา 19.30 น.ตามเวลาไทย ตลอดจนผลการประชุมสุดยอด G20 ที่จัดขึ้นที่ประเทศเยอรมนีวันที่ 7-8 ก.ค.นี้

Back to top button