
ส่อง 5 ปัจจัยหลักกด-ดันดัชนีวันนี้ พร้อมจัดธีม 6 หุ้นน่าเล่นประจำวัน
บล.เคทีบี (ประเทศไทย) มองดัชนีวันนี้มีแนวโน้มจะแกว่งในก …
บล.เคทีบี (ประเทศไทย) มองดัชนีวันนี้มีแนวโน้มจะแกว่งในกรอบแคบๆ อยู่ต่อไป การ rebound ขึ้นในวันก่อนหน้า ขาดแรงซื้ออย่างจริงจัง ทั้งนี้ นักลงทุนส่วนใหญ่ ยังรอคอยความคืบหน้าที่สหรัฐฯและพันธมิตรจะมีการออกมาตรการใดๆตอบโต้เกาหลีเหนือที่มีการทดลองนิวเคลียร์
อีกทั้งวันนี้ ECB จะออกรายงานประชุมนโยบายการเงิน หลังเมื่อคืน รายงานประชุม FOMC ยังไม่มีการระบุเงื่อนเวลาในการลดขนาดสินทรัพย์ของ Fed ปัจจัยในประเทศ ที่เป็นบวก คือการปรับขึ้น GDP ของ ธปท. แต่แรงขายของนักลงทุนต่างประเทศในตลาดหุ้นและพันธบัตร ส่งสัญญาณว่านักลงทุนกลุ่มนี้เริ่มชะลอการซื้อ
กลยุทธ์การลงทุน ตลาดยังขาดแรงซื้อ และมีน้ำหนักในทางลบต่อกรณีของเกาหลีเหนือและราคาน้ำมันที่ ถูกกดลงมาที่ $45 เหรียญอีกครั้งหนึ่ง โดยเรายังมองว่า การอ่อนตัวของราคาหุ้นลงมาจะเป็นจุดที่น่าเข้าลงทุน แต่ตัวหุ้น คงต้องเลือกเป็นรายตัวที่มีแรงซื้อเข้า
เพราะหุ้นจะไม่ได้ขึ้น-ลง ทุกตัวในแต่ละกลุ่ม หุ้นที่มีแนวโน้มดี เราเน้นหุ้นที่มีปัจจัยบวกจากในประเทศเป็นหลัก อาทิ หุ้นอิงลงทุนภาครัฐฯ หุ้นบวกตามการฟื้นตัวของภาวะเศรษฐกิจ และหุ้นที่มีปัจจัยบวกเฉพาะตัว เช่น งบไตรมาส 2/60ออกมาดี เป็นต้น
หุ้นแนะนำเชิงกลยุทธ์ประจำวัน สำหรับหุ้นที่เราคาดว่าอาจได้รับความสนใจจากนักลงทุนในวันนี้ อาทิ CPN , VNT , SIS , KSL , PTTGC, OTO
ปัจจัยที่มีผลต่อตลาด
– ตลาดหุ้นไทยวานนี้ (5 ก.ค.) SET Index ปิดที่ระดับ 1,575.02 จุด เพิ่มขึ้น 0.91 จุด หรือ +0.06% มูลค่าการซื้อขาย 34,001.62 ล้านบาท มองตลาดได้รับเทคนิคอลรีบาวด์หลังตลาดปรับตัวลงไปมากในช่วงก่อนหน้านี้ นักลงทุนยังคงรอดูปัจจัยใหม่ๆที่จะเข้ามากระทบตลาด
– ตลาดหุ้นต่างประเทศ – ตลาดหุ้นนิวยอร์ค ดัชนีดาวโจนส์ ปิดที่ 21,478.17 จุด ลดลง 1.10 จุด หรือ -0.01% จากแรงเทขายหุ้นกลุ่มพลังงานหลังราคาน้ำมันดิบปรับตัวลงกว่า 4% อีกทั้งยังมีความกังวลด้านการลดงบดุลเฟดที่จะเกิดขึ้นในช่วงเวลาอันสั้นนี้ แต่การลดลงมีกรอบจำกัดจากการพุ่งขึ้นของหุ้นกลุ่มเทคโนโลยี ด้านตลาดหุ้นยุโรป ได้รับความผันผวนระหว่างวันจากราคาน้ำมันดิบที่ลดลง แต่สามารถปิดบวกได้ที่ +0.2% มาที่ 382.99 จุด นำโดยแรงซื้อหุ้นอาดิดาส
– ราคาน้ำมันดิบเป็นตัวกดตลาดในวันนี้ – สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดร่วงลงกว่า -4% ปิดที่ 45.13 ดอลลาร์/บาร์เรล การร่วงลงของราคาน้ำมันดิบเป็นผลมาจากการรายงานของกลุ่ม OPEC ที่มีการส่งออกน้ำมันเพิ่มขึ้น และรวมทั้งข่าวที่ว่ารัสเซียปฏิเสธการปรับลดกำลังการผลิต เรามองราคาน้ำมันดิบจะอยู่ในระดับประมาณ 45 ดอลลาร์ไปจนถึงการประชุมระหว่าง OPEC กับรัสเซียที่จะเกิดขึ้นในวันที่ 24 ก.ค. ที่จะถึงนี้
– จับตารอดูรายงานการประชุม ECB เรามองภาพตลาดต่างประเทศยังคงอยู่ในทิศทางลบ จากความกังวลด้านการลดงบดุลของเฟดและตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯที่ลดลงกว่าคาด ประเด็นที่ต้องติดตามสำหรับวันนี้คือการรายงานผลการประชุม ECB ซึ่งหากมีสัญญาณการลด QE ออกมา จะส่งผลในเชิงลบต่อตลาดได้ และยังคงต้องจับตาดูการประชุม G20 ที่จะเกิดขึ้นในสุดสัปดาห์นี้ ซึ่งจะมีการนำประเด็นเรื่องเกาหลีเหนือเข้าที่ประชุมอีกด้วย
– เศรษฐกิจภายในประเทศยังมีแนวโน้มที่ดีขึ้น กนง.มีมติคงดอกเบี้ยนโยบายไว้ที่ 1.50% ตามคาด และมีการปรับเพิ่มคาดการณ์ GDP ทั้งปีจากเดิม 3.4% เป็น 3.5% สะท้อนถึงมุมมองในเชิงบวกที่สูงขึ้นต่อภาวะเศรษฐกิจภายในประเทศ การออกมาเร่งรัดการเคลียร์พื้นที่สำหรับการก่อสร้างรถไฟฟ้าสายสีส้ม-เหลือง-ชมพู-ม่วง เป็นสัญญาณที่ดีที่ภาครัฐจะดำเนินการกระตุ้นเศรษฐกิจผ่านโครงการก่อสร้างขนาดใหญ่