เจาะประเด็นสำคัญวันนี้ เน้น Selective buy หุ้นมีปัจจัยบวก

โบรกฯชู 4 ประเด็นสำคัญประจำวันนี้ พร้อมแนะกลยุทธ์ "Selective buy" หุ้นมีปัจจัยบวกหนุน


บล.กรุงศรี จำกัด (มหาชน) คาด SET Index จะยังผันผวนในกรอบจำกัด แม้ตลาดต่างประเทศส่วนใหญ่จะกลับมาฟื้นตัว แต่ตลาดบ้านเรายังมีปัจจัยกดดันจากการประกาศงบไตรมาส 2 ของ BBL KBANK ,SCB ซึ่งเราคาดกำไรสุทธิจะชะลอตัวจากไตรมาสก่อน กดดันราคาหุ้นต่อ ประกอบกับเราคาดว่านักลงทุนจะชะลอการลงทุนเพื่อรอดูผลประชุมของ ECB ในเย็นวันนี้ว่าจะประกาศขึ้นอัตราดอกเบี้ยและลดวงเงิน QE หรือไม่ และจะส่งสัญญาณการดำเนินนโยบายการเงินอย่างไรในระยะถัดไป ซึ่งจะกลายเป็นปัจจัยกำหนดทิศทางการไหลของ Fund Flow จากต่างชาติ

กลยุทธ์การลงทุนวันนี้ : ยังเน้น Selective buy หุ้นที่ปัจจัยบวกเฉพาะตัว อาทิ 1)กลุ่มที่แนวโน้มผลประกอบการไตรมาส 2/17 จะออกมาดี ASIAN ,BPP ,BR ,ORI ,EA ,MTLS ,IHL ,SYNTEC ,PT 2)กลุ่มท่องเที่ยว MINT ,ERW และ AOT จำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง 3)กลุ่มที่จ่ายปันผลสูงและมีปันผลระหว่างกาล อาทิ SCC ,SCCC ,ADVANC ,LH ,QH ,KKP ,MC

ประเด็นสำคัญวันนี้

(-) Fund Flow ต่างชาติไหลออกจากตลาดหุ้นภูมิภาคต่อเนื่องเป็นวันที่ 2 แต่แรงขายเบาบาง : วานนี้นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิในตลาดหุ้นภูมิภาคต่อเนื่องเป็นวันที่ 2 แต่แรงขายเบาบางเพียง US$ 7.52 ล้าน โดยขายมากที่สุดในตลาดหุ้นอินโดฯ US$121 ล้าน ตามด้วย เกาหลีใต้ US$29.2 ล้าน และ ไทย US$3.6 ล้าน แต่ยังซื้อสุทธิในตลาดหุ้นไต้หวัน US$143 ล้าน และ ฟิลิปปินส์ US$3.1 ล้าน ตามลำดับ

(+/-)แบงก์ใหญ่ประกาศงบไตรมาส 2/60 วันนี้ หากแย่กว่าที่คาดและ NPLs ยังเพิ่มจะกดดันราคาหุ้นลงต่อ :ในช่วง 1 สัปดาห์ที่ผ่านมาราคาหุ้นกลุ่มธนาคารโดยเฉพาะธนาคารขนาดใหญ่ปรับตัวลงส่วนหนึ่งเป็นเพราะนักลงทุนคาดว่าผลประกอบการของกลุ่มธนาคารในไตรมาส 2/17 จะออกมาชะลอตัว qoq ดังนั้นหากงบออกมาตามคาดหรือดีกว่าที่คาดน่าจะหนุนให้หุ้นในกลุ่มธนาคารกลับมาฟื้นตัว(เพราะรับรู้ไปแล้ว) แต่ในทางตรงกันข้ามหากงบออกมาแย่กว่าที่คาด และ NPLs ยังเพิ่มขึ้นจะกดดันให้นักวิเคราะห์ปรับลดประมาณการณ์เป็นปัจจัยลบกดดันราคาหุ้นกลุ่มแบงก์ปรับตัวลงต่อ โดยแบงก์ที่จะประกาศงบในวันนี้ ประกอบด้วย BBL KBANK และ SCB ส่วน KTB จะประกาศงบในวันพรุ่งนี้

(+/-) วันนี้ประชุม BoJ และ ECB คาด BoJ คงดอกเบี้ยแต่ ECB อาจส่งสัญญาณขึ้นดอกเบี้ยหรือลดวงเงิน QE ในการประชุมครั้งถัดไป : เราคาดว่า BoJ จะยังคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่ -0.1% ตามเดิม เนื่องจากเงินเฟ้อของญี่ปุ่นยังอยู่ในระดับต่ำตัวเลขเศรษฐกิจโดยรวมยังไม่ดีโดยเฉพาะการใช้จ่ายในภาคครัวเรือนยังหดตัว โดยเงินเฟ้อเดือน มิ.ย. อยู่ที่ 0.4% การใช้จ่ายภาคครัวเรือนเดือน พ.ค. ติดลบ 0.1% อย่างไรก็ตามเราคาดว่าตลาดส่วนใหญ่จะพุ่งเป้าไปที่การประชุมของ ECB ในช่วงเย็นมากกว่าเนื่องจากมีความเป็นไปได้ที่ ECB อาจจะส่งสัญญาณขึ้นอัตราดอกเบี้ย และ ลดวงเงิน QE จากเดิมที่ 60,000 ล้านยูโรต่อเดือนลง เนื่องจากตัวเลขเศรษฐกิจเริ่มฟื้นตัว และในช่วงที่ผ่านมาประธาน ECB เริ่มส่งสัญญาณถึงการใช้นโยบายการเงินที่เข้มงวดมากขึ้น ซึ่งประเด็นนี้จะมีผลต่อทิศทางของ Fund Flow ต่างชาติที่อาจจะเคลื่อนย้ายหรือไหลออกจากตลาดเกิดใหม่ในระยะถัดไป

(+/-) ส.อ.ท.ปรับลดเป้ายอดผลิตและส่งออกรถยนต์ในปีนี้หลังยอดครึ่งปีทำได้ต่ำกว่าเป้าเป็นลบต่อกลุ่ม Auto และท่าเรือส่งออกรถยนต์ : สภาอุตสาหกรรม (ส.อ.ท.)รายงานยอดการผลิตรถยนต์เดือนมิ.ย.ที่ 1.75 แสนคันลดลง 2.46%yoy รวม 6 เดือนผลิตได้ 9.5 แสนคันลดลง 4.3%yoy และมียอดส่งออกที่ 9.3 หมื่นคันลดลง 13%yoy รวม 6 เดือนส่งออกทั้งหมด 5.36 แสนคันลดลง 9.8%yoy ส่วนยอดขายในประเทศมียอดขาย 6.97 หมื่นคัน เพิ่มขึ้น 5.7%yoy และรวม 6 เดือนมียอดขาย 4.09 แสนคันเพิ่มขึ้น 11.2% เพื่อสะท้อนยอดผลิตและยอดส่งออกที่หดตัว ส.อ.ท.จึงลดเป์าการผลิตในปีนี้เป็น 1.9 ล้านคันเดิม 2 ล้านคัน และลดเป์าส่งออกเป็น 1.1 ล้านคันจาก 1.2 ล้านคันเป็นลบต่อกลุ่มผู้ผลิตชิ้นส่วนยายนต์ (AH, SAT, STANLY) และผู้ประกอบการท่าเรือส่งออกรถยนต์ (NYT)ส่วนยอดขายที่เพิ่มขึ้นยังเป็นบวกต่อ KKP TISCO TCAP

Back to top button