4 หุ้นสายการบินทะยานแรง! หลัง ICAO ปลดธงแดงประเทศไทย

4 หุ้นสายการบินทะยานแรง! หลัง ICAO ปลดธงแดงประเทศไทย นำโดย THAI AAV NOK และ BA


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กลุ่มหุ้นสายการบินปรับตัวขึ้นแรงนำโดย บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) หรือ THAI ณ เวลา 10.11 น. อยู่ที่ระดับ 19.50 บาท บวก 1.00 บาท หรือ 5.41% ด้วยมูลค่าซื้อขาย 429.07 ล้านบาท ด้าน บริษัท เอเชีย เอวิเอชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ AAV ณ เวลา 10.13 น. อยู่ที่ระดับ 6.75 บาท บวก 0.25 บาท หรือ 3.85% ด้วยมูลค่าซื้อขาย 468.95 ล้านบาท

ส่วน บริษัท สายการบินนกแอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ NOK ณ เวลา 10.15 น. อยู่ที่ระดับ 3.66 บาท 0.14 บาท หรือ 3.98% ด้วยมูลค่าซื้อขาย 13.89 ล้านบาท ด้าน บริษัท การบินกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือ BA ณ เวลา 10.17 น. อยู่ที่ระดับ 19.00 บาท บวก 0.40 บาท หรือ 2.15% ด้วยมูลค่าซื้อขาย 128.33 ล้านบาท

บล.เออีซี ระบุว่า กลุ่มสายการบิน (Trading BUY): อานิสงส์องค์การการบินพลเรือนระหว่างประเทศ (ICAO) ได้ปลดธงแดงหน้าชื่อประเทศไทยแล้ว คาดจะทำให้สายการบินไทยเป็นที่ยอมรับในมาตรฐานการบินและเปิดโอกาสให้สามารถเพิ่มเส้นทางการบินใหม่ได้เลือก AAV (Upper Band Consensus [email protected]) และ THAI (Upper Band Consensus [email protected])

ด้านบล.ฟินันเซีย ไซรัส ระบุว่า กลุ่มสายการบิน ประเทศไทยได้รับการปลดธงแดงเรียบร้อยแล้ว (อ้างอิงจาก website ของ ICAO) และคาดว่าจะประกาศผลอย่างเป็นทางการในอาทิตย์ถัดไป เป็นบวกกับอุตสาหกรรมการบินในการขยายเส้นทาง และเพิ่มความถี่ในเส้นทางระหว่างประเทศ อีกทั้งยังคาดว่าจะช่วยผ่อนคลายการแข่งขันด้านราคาตั๋วที่รุนแรง โดยยังเลือก AAV เป็น Top Pick แนะนำ”ซื้อ” ราคาเป้าหมายปี 2561 เท่ากับ 7.30 บาท

ส่วนบล.เคจีไอ (ประเทศไทย) ระบุว่า ICAO ปลดล็อคธงแดงสำหรับประเทศไทยแล้ว (เว็บไซต์ ICAO) ประเด็นดังกล่าวเป็นปัจจัยบวกสำหรับธุรกิจสายการบินของไทย หลังจากการขึ้นเครื่องหมายธงแดงบนหน้าเว็บไซต์ของ ICAO มาเป็นเวลากว่า 2 ปี โดยมีประเด็นความกังวลเรื่องมาตรฐานความปลอดภัยในการให้บริการจากการตรวจสอบกรมการบินพลเรือนในอดีต

ทั้งนี้ การปลดล็อคธงแดงที่เกิดขึ้นถือว่าสอดคล้องกับคาดการณ์ ซึ่งจะทำให้โอกาสทางธุรกิจของสายการบินที่มีแผนเพิ่มเส้นทางบินและความถี่ไปเกาหลีและญี่ปุ่นมีมากขึ้นในอนาคต หลังถูกจำกัดการขยายธุรกิจในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา (โดยเฉพาะ AAV และ NOK) นอกจากนี้มองว่า บมจ.ท่าอากาศยานไทย (AOT) จะได้ประโยชน์จากเที่ยวบินที่เพิ่มขึ้นในอนาคต ยังคงแนะนำ”ซื้อ”ในหุ้น AOT และ AAV โดยมีราคาเป้าหมาย 62.70 และ 7.48 บาท ตามลำดับ

สำนักงานการบินพลเรือนระหว่างประเทศ(กพท.) แถลงว่า เมื่อวันที่ 6 ต.ค.60 ที่สำนักงานใหญ่ขององค์การการบินพลเรือนระหว่างประเทศ (International Civil Aviation Organization หรือ ICAO) ประเทศแคนาดา ได้มีการประชุม ICAO SSC Committee พิจารณาเห็นชอบให้ประเทศไทยพ้นจากการเป็นประเทศที่มีข้อบกพร่องที่มีนัยสำคัญต่อความปลอดภัย (Significant Safety Concerns) และด้วยผลจากมติดังกล่าว สถานภาพในเว็บไซท์ของ ICAO ในส่วนของ Safety Audit Results ซึ่งเคยมีรูปธงแดงอยู่ด้านหน้าชื่อประเทศไทยตั้งแต่วันที่ 18 มิ.ย.58 ได้รับการถอดออก ทำให้ประเทศไทยสามารถ “ปลดธงแดง” ได้สำเร็จ

มติดังกล่าวเป็นผลมาจากในช่วงวันที่ 20-27 ก.ย.60 ที่ผ่านมา ICAO ได้ส่งคณะผู้ตรวจสอบ (ICAO Coordinated Validation Mission หรือ ICVM) เข้ามาตรวจสอบยืนยันความก้าวหน้าและความครบถ้วนของการดำเนินงานของสำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย (กพท.) หรือ CAAT ในการแก้ไขข้อบกพร่องที่มีนัยสำคัญต่อความปลอดภัยจำนวน 33 ข้อและกรณีต่อเนื่องอีก 35 ข้อ ในเรื่องเกี่ยวกับกระบวนการออกใบรับรองผู้ดำเนินการเดินอากาศ รวมถึงได้เยี่ยมชมระบบการจัดการความปลอดภัยของสายการบินที่ได้รับใบรับรองผู้ดำเนินการเดินอากาศใหม่แล้ว 2 สายการบิน

การปลดธงแดงดังกล่าวเป็นการแสดงให้เห็นถึงการยอมรับการดำเนินการแก้ไขปัญหาการบินพลเรือนของประเทศไทย ความสำเร็จในครั้งนี้เป็นผลของความร่วมมือร่วมใจและความมุ่งมั่นของทั้งระดับนโยบายและผู้ปฏิบัติของภาครัฐ ซึ่งได้แก่ นายกรัฐมนตรี คณะรัฐมนตรี คณะรักษาความสงบแห่งชาติ กระทรวงคมนาคม  ศูนย์บัญชาการแก้ไขปัญหาการบินพลเรือน คณะกรรมการขับเคลื่อนและปฏิรูปการบริหารราชการแผ่นดิน คณะที่ 5 คณะอนุกรรมการแก้ไขปัญหาการบินพลเรือนและ CAAT  สายการบินทุกสาย ทั้งที่ได้รับใบรับรองผู้ดำเนินการเดินอากาศใหม่ไปแล้ว 11 ราย และส่วนที่ยังรอการตรวจสอบอีก 10 ราย ตลอดจนผู้เชี่ยวชาญจากสหราชอาณาจักร ฝรั่งเศส ญี่ปุ่น สหภาพยุโรป ที่ CAAT ได้ว่าจ้างและจัดทำความตกลงเพื่อให้เข้ามาช่วยเหลือในด้านเทคนิค

ทั้งนี้ ICAO มีกำหนดที่จะส่งรายงานผลการตรวจสอบอย่างเป็นทางการให้ประเทศไทยภายในเดือน ต.ค.นี้

การปลดธงแดงเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญที่แสดงให้เห็นถึงการกลับคืนสู่มาตรฐานความปลอดภัยด้านการบิน  ในระดับสากล อย่างไรก็ตาม ประเทศไทยและ CAAT ยังคงมีภารกิจที่ต้องปรับปรุงระบบการกำกับดูแลด้านความปลอดภัยภายใต้โครงการกำกับดูแลความปลอดภัยสากลอย่างต่อเนื่อง (Universal Safety Oversight Audit Program-Continuous Monitoring Approach : USOAP-CMA) และด้านการรักษาความปลอดภัยภายใต้โครงการกำกับดูแลการรักษาความปลอดภัยสากลอย่างต่อเนื่อง (Universal Security Audit Program-Continuous Monitoring Approach : USAP-CMA) เพื่อให้ประเทศไทยอยู่ในระดับแนวหน้าของโลก รวมถึงการแก้ไขข้อบกพร่องด้านความปลอดภัยอื่นๆ ที่ ICAO ได้ระบุไว้ในการตรวจสอบเมื่อมกราคม 2558 และในการตรวจสอบด้านการรักษาความปลอดภัยเมื่อวันที่ 11 – 21 ก.ค.ที่ผ่านมา ให้ครบทุกข้อ

ทั้งนี้ กพท. ตั้งเป้าหมายที่จะทำให้ระดับประสิทธิผลของการนำมาตรฐานของ ICAO มาปฏิบัติในประเทศ (Effective Implementation) ของไทยไม่ต่ำกว่าเกณฑ์เฉลี่ยของประเทศสมาชิกทั้งหมดของ ICAO

Back to top button