SUN กระฉูด 9% ยืนเหนือจองครั้งแรกตั้งแต่เข้าเทรด ราคามีลุ้นวิ่งต่อรับเป้า 7.90 บ.

SUN กระฉูด 9% ยืนเหนือจองครั้งแรกตั้งแต่เข้าเทรด ราคามีลุ้นวิ่งต่อรับเป้า 7.90 บ. ล่าสุดปิดตลาดวันนี้อยู่ที่ระดับ 5.90 บาท บวก 0.50 บาท หรือ 9.26% ด้วยมูลค่าซื้อขาย 280.30 ล้านบาท


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ราคาหุ้นบริษัท ซันสวีท จำกัด (มหาชน) หรือ SUN ปิดตลาดวันนี้ (15 ม.ค.61) อยู่ที่ระดับ 5.90 บาท บวก 0.50 บาท หรือ 9.26% ด้วยมูลค่าซื้อขาย 280.30 ล้านบาท

โดยราคาหุ้นปรับตัวขึ้นยืนเหนือราคา IPO ซึ่งอยู่ที่ 5.85 บาท เป็นครั้งแรกนับตั้งแต่เข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยเมื่อวันที่ 28 ธันวาคม 2560 คิดเป็นระยะเวลา 2 สัปดาห์ ทั้งนี้ราคาหุ้นที่ปรับตัวขึ้นมาอย่างร้อนแรงด้วยมูลค่าซื้อขายที่หนาแน่นส่งผลให้เป็นที่น่าจับตาว่าราคาหุ้นในวันพรุ่งนี้จะยังปรับตัวขึ้นอีกหรือไม่ โดยนักวิเคราะห์ให้ราคาเป้าหมายสูงสุดที่ 7.90 บาท

ด้าน บล.ฟิลลิป (ประเทศไทย) ระบุในบทวิเคราะห์ฯว่า แนะ”ซื้อ”หุ้น SUN ราคาพื้นฐานปี 61 ที่ 7.90 บาท อิง PE 18X โดยมีเหตุผลดังนี้ ปันผลและราคาหุ้นน่าสนใจ โดยราคาหุ้นปัจจุบันซื้อขายด้วย Forward PE ปี 61 เพียง 12X และคาด Dividend Yield จะอยู่ที่ 4-5% และคาดกำไรปี 60-62 โตเฉลี่ย 30.5% ต่อปีจากการเพิ่มสัดส่วนยอดขายข้าวโพดหวานแช่แข็ง และบริหารต้นทุนการผลิตที่ดีขึ้น

นอกจากนี้ ผู้บริหารมีแนวทางการบริหารธุรกิจเพื่อการเติบโตของกำไรสุทธิที่มั่นคง โดยไม่เน้นเพียงการเติบโตของรายได้อย่างเดียว และข้าวโพดหวานแตกต่างจากสินค้าเกษตรอื่นๆ โดยได้รับผลกระทบทางฤดูกาลน้อย (low seasonal effect) จากการสนับสนุนให้เกษตรกรใช้เทคโนโลยี Smart Farming นอกจากนั้น ต้นทุนวัตถุดิบของบริษัทมีความผันผวนต่ำจากการทำ Contract Farming

พร้อมคาดกำไรไตรมาส 4/60 เติบโตแกร่งที่ 27.2 ลบ.เติบโตต่อเนื่อง 27.4% เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อนแต่ลดลง 53.8% เทียบไตรมาสก่อนหน้าด้วยปัจจัยทางฤดูกาลและค่าใช้จ่ายจากการนำบริษัทเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ คาดรายได้จากการขายข้าวโพดหวาน -5% เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อน, -11% เทียบไตรมาสก่อนหน้าแม้ปริมาณขายมีแนวโน้มขยายตัวดีเทียบช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้าจากการอยู่ระหว่างติดตั้งเครื่องจักรใหม่ แต่จะถูกกดดันจากเงินบาทแข็งค่า

ทั้งนี้ คาด GPM จะปรับตัวขึ้นอย่างมีนัยมาที่ 22% +310bps เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อน, -50bps เทียบไตรมาสก่อนหน้าจากการพัฒนาระบบผลิต และบริหารต้นทุนที่ดีขึ้น ด้าน SG&A คาดสูงขึ้น เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อน, เทียบไตรมาสก่อนหน้าเนื่องจากมีค่าใช้จ่ายจากการนำบริษัทเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์

Back to top button