SSP วิ่งแรงเกือบ 4% ลุ้นปีนี้จ่ายไฟทะลุ 30MW โบรกฯแนะซื้อ คาดปี 61 กำไรโตสนั่น

SSP วิ่งแรงเกือบ 4% ลุ้นปีนี้จ่ายไฟทะลุ 30MW ล่าสุด ณ เวลา 11.33 น. อยู่ที่ 8.10 บาท บวก 0.30 บาท หรือ 3.85% สูงสุดที่ 8.15 บาท ต่ำสุดที่ 7.85 บาท ด้วยมูลค่าซื้อขาย 93.42 ล้านบาท ด้าน โบรกฯแนะซื้อ ชูเป้า 10.70 บ. คาดปี 61 กำไรโตสนั่น


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ราคาหุ้นบริษัท เสริมสร้าง พาวเวอร์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ SSP ล่าสุด ณ เวลา 11.33 น. อยู่ที่ 8.10 บาท บวก 0.30 บาท หรือ 3.85% สูงสุดที่ 8.15 บาท ต่ำสุดที่ 7.85 บาท ด้วยมูลค่าซื้อขาย 93.42 ล้านบาท

โดย นายวรุตม์ ธรรมาวรานุคุปต์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร SSP เปิดเผยว่า ในปี 61 บริษัทจะมีโรงไฟฟ้าที่จ่ายไฟเข้าสู่ระบบไม่ต่ำกว่า 31 เมกะวัตต์ (MW) โดยโรงไฟฟ้าจะทยอยจ่ายไฟในไตรมาส 1/61 และไตรมาส 4/61 ปัจจุบันบริษัทมีโรงไฟฟ้าที่จ่ายไฟแล้ว จำนวน 52 MW ดังนั้นจะทำให้เบื้องต้นในปี 61 บริษัทจะมีโรงไฟฟ้าที่จ่ายไฟเข้าระบบประมาณ 83 MW

ล่าสุด บริษัทได้มีโครงการการร่วมลงทุนในโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ในประเทศมองโกเลีย (โครงการ Khunshight Kundi) มีกำลังการผลิตติดตั้ง 16.40 MW โดยโครงการดังกล่าวอยู่ในช่วงเริ่มดำเนินการก่อสร้าง และมีกำหนดเริ่มจ่ายไฟเข้าสู่ระบบ ภายในไตรมาส 1/62 นอกจากนี้ บริษัทยังอยู่ระหว่างศึกษาเพื่อเตรียมเข้าลงทุนโครงการโซลาร์ฟาร์มที่ประเทศเวียดนาม โดยคาดว่าจะได้ข้อสรุปการลงทุนภายในสิ้นปี 61

ส่วน บล.เอเชีย เวลท์ ระบุในบทวิเคราะห์ แนะนำซื้อ SSP ให้ราคาเป้าหมายไว้ที่ 10.70 บาทต่อหุ้น ทั้งนี้มองว่าบริษัทมีศักยภาพในการเติบโตจากการเพิ่มสัดส่วนโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ในไทย และต่างประเทศ

โดยคาดว่าในปี 61 จะมีกำไรสุทธิจำนวน 574 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 53.70% จากปี 60 และในปี 64 จะรับรู้รายได้จากการผลิตไฟฟ้าใหม่แบบเต็มปีจะทำให้มีกำไรสุทธิ จำนวน 1,513 ล้านบาท

ทั้งนี้ ปัจจุบันบริษัทมีกำลังการผลิตไฟฟ้าติดตั้ง จำนวน 52 MW โดยในปี 2561 บริษัทจะมีโรงไฟฟ้าที่จ่ายไฟเข้าสู่ระบบรวมจำนวน 34.40 MW โดยแบ่งเป็นช่วงไตรมาส 1/61 จะมีโครงการโรงไฟฟ้าที่ประเทศญี่ปุ่น ขนาดกำลังการผลิตไฟฟ้าติดตั้งเข้าสู่ระบบ จำนวน 21 MW และในไตรมาส 4/61 จะมีโรงไฟฟ้าที่ญี่ปุ่น และไทย ขนาดกำลังการผลิตไฟฟ้าเข้าสู่ระบบรวมอีกจำนวน 13.40 MW

นอกจากนี้ ทาง SSP จะมีกำลังการผลิตไฟฟ้าจากโครงการโรงไฟฟ้าที่เริ่มขายไฟฟ้าในรูปแบบเชิงพาณิชย์เพิ่มเข้ามาในปี 62-63 อีกจำนวน 104.40 MW ดังนั้นจะทำให้มีขนาดกำลังการผลิตรวมเป็น 190.80 MW ซึ่งเฉลี่ยเพิ่มขึ้นปีละประมาณ 54.20% ภายในช่วงระยะเวลา 3 ปี

ทั้งนี้ บริษัทได้มีการตั้งเป้าว่าจะมีกำลังการผลิตไฟฟ้าติดตั้งทั้งหมด 200 MW ภายในสิ้นปี 2563 ดังนั้นจึงทำให้ฝ่ายวิเคราะห์เชื่อว่าบริษัทจะสามารถทำตามเป้าหมายที่ตั้งไว้ได้ โดยคาดการณ์ว่าผลประกอบการของ SSP จะเริ่มเติบโตขึ้นตั้งแต่ในไตรมาส 1/61 เป็นต้นไป

ด้าน บล.เออีซี ระบุในบทวิเคราะห์ แนะนำซื้อ SSP วางแนวรับ 7.75 บาท แนวต้าน 8.30 บาท Stop Loss 7.60 บาท โดยกราฟ SSP แนวโน้มขาลง และกำลังสร้างฐาน โดยหากสามารถวิ่งผ่าน 7.90 บาทไปได้ จะฟื้นตัวไปยัง 8.30 บาท ซึ่ง Stochastic ส่งสัญญาณเชิงบวกแล้ว

Back to top button