สรุปภาวะตลาดต่างประเทศวานนี้

สรุปภาวะตลาดต่างประเทศ ประจำวันที่ 8 ก.พ. 61


ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดลบเมื่อคืนนี้ (7 ก.พ.) โดยได้รับแรงกดดันจากอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐที่ดีดตัวขึ้น หลังจากมีรายงานว่า แกนนำวุฒิสภาชิกในสภาคองเกรสสหรัฐสามารถบรรลุข้อตกลงเบื้องต้นเกี่ยวกับงบประมาณระยะเวลา 2 ปี ซึ่งจะช่วยให้รัฐบาลมีงบประมาณใช้จ่ายเพิ่มขึ้น นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับปัจจัยลบจากความวิตกกังวลเกี่ยวกับอัตราเงินเฟ้อที่สูงขึ้น จนอาจทำให้ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) เร่งปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในปีนี้

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 24,893.35 จุด ลดลง 19.42 จุด หรือ -0.08% ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,681.66 จุด ลดลง 13.48 จุด หรือ -0.50% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 7,051.98 จุด ลดลง 63.90 จุด หรือ -0.90%

 

ตลาดหุ้นยุโรปปิดพุ่งขึ้นเมื่อคืนนี้ (7 ก.พ.) ขานรับรายงานข่าวที่ว่าพรรคการเมืองของเยอรมนีสามารถบรรลุข้อตกลงซึ่งจะปูทางไปสู่การจัดตั้งรัฐบาล โดยรายงานข่าวดังกล่าวช่วยให้นักลงทุนคลายความวิตกกังวลเกี่ยวกับความไม่แน่นอนทางการเมืองในเยอรมนีซึ่งมีระบบเศรษฐกิจใหญ่สุดในยุโรป

ดัชนี Stoxx Europe 600 พุ่งขึ้น 2% ปิดที่ 380.13 จุด

ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดที่ 12,590.43 จุด เพิ่มขึ้น 197.77 จุด หรือ +1.60% ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 5,255.90 จุด เพิ่มขึ้น 94.09 จุด หรือ +1.82% และดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,279.42 จุด เพิ่มขึ้น 138.02 จุด หรือ +1.93%

 

ตลาดหุ้นลอนดอนปิดพุ่งขึ้นเมื่อคืนนี้ (7 ก.พ.) โดยได้ปัจจัยหนุนจากการดีดตัวขึ้นของหุ้นกลุ่มธุรกิจสร้างบ้าน เนื่องจากนักลงทุนยังคงมีมุมมองเป็นบวกต่อแนวโน้มตลาดอสังหาริมทรัพย์ของอังกฤษ แม้มีรายงานว่า ดัชนีราคาบ้านของอังกฤษปรับตัวลดลงในเดือนม.ค.ก็ตาม

ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,279.42 จุด เพิ่มขึ้น 138.02 จุด หรือ +1.93%

 

สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดร่วงลงแตะระดับต่ำสุดในรอบ 1 เดือนเมื่อคืนนี้ (7 ก.พ.) หลังจากสำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐ (EIA) เปิดเผยว่า สต็อกน้ำมันดิบและการผลิตน้ำมันดิบของสหรัฐเพิ่มขึ้นในสัปดาห์ที่ผ่านมา

สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนมี.ค. ร่วงลง 1.60 ดอลลาร์ หรือ 2.5% ปิดที่ 61.79 ดอลลาร์/บาร์เรล ซึ่งเป็นระดับปิดต่ำสุดนับตั้งแต่วันที่ 8 ม.ค.ปีนี้

สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ส่งมอบเดือนเม.ย. ลดลง 1.35 ดอลลาร์ หรือ 2% ปิดที่ 65.51 ดอลลาร์/บาร์เรล

 

สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดร่วงลงเมื่อคืนนี้ (7 ก.พ.) เนื่องจากการแข็งค่าของสกุลเงินดอลลาร์ และอัตราผลตอบแทนพันธบัตรของสหรัฐที่ปรับตัวสูงขึ้น ได้สร้างแรงกดดันต่อบรรยากาศการซื้อขายในตลาดทองคำ และได้ฉุดสัญญาทองคำร่วงลงติดต่อกันเป็นวันที่ 4

สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนเม.ย. ลดลง 14.90 ดอลลาร์ หรือ 1.1% ปิดที่ 1,314.60 ดอลลาร์/ออนซ์

สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนมี.ค. ลดลง 34.2 เซนต์ หรือ 2.1% ปิดที่ 16.238 ดอลลาร์/ออนซ์

สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนเม.ย. ร่วงลง 12.6 ดอลลาร์ หรือ 1.3% ปิดที่ 981.7 ดอลลาร์/ออนซ์

สัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนมี.ค. ลดลง 17.95 ดอลลาร์ หรือ 1.8% ปิดที่ 984.55 ดอลลาร์/ออนซ์

 

สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (7 ก.พ.) หลังจากตลาดหุ้นสหรัฐผันผวนอย่างหนัก ส่งผลให้นักลงทุนเข้าถือครองดอลลาร์ซึ่งเป็นสินทรัพย์ที่ปลอดภัย นอกจากนี้ กระแสคาดการณ์ที่ว่า ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเร็วกว่าที่คาดไว้ในปีนี้ ยังคงเป็นปัจจัยหนุนดอลลาร์

ดอลลาร์แข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับเงินเยนที่ระดับ 109.49 เยน จากระดับ 109.36 เยน และแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับฟรังก์สวิสที่ระดับ  0.9429 ฟรังก์ จากระดับ 0.9361 ฟรังก์

ยูโรอ่อนค่าลงแตะระดับ 1.2276 ดอลลาร์ จากระดับ 1.2391 ดอลลาร์ ขณะที่เงินปอนด์อ่อนค่าลงสู่ระดับ 1.3880 ดอลลาร์ จากระดับ 1.3958 ดอลลาร์ และดอลลาร์ออสเตรเลียอ่อนค่าลงแตะระดับ 0.7822 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.7887 ดอลลาร์สหรัฐ

Back to top button