
หุ้นรับเหมาฯ ดิ่งต่อ! โบรกฯหั่นคำแนะนำลงสะท้อนโครงการภาครัฐฯ ชะลอตัว
หุ้นรับเหมาฯ ดิ่งต่อ! โบรกฯหั่นคำแนะนำลงสะท้อนงานภาครัฐฯชะลอตัว หลังใช้พรบ.วินัยการเงินคลังฯฉบับใหม่
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ราคาหุ้นบริษัท ซิโน-ไทย เอ็นจีเนียริ่งแอนด์คอนสตรัคชั่น จำกัด(มหาชน) หรือ STEC ปิดตลาดภาคเช้าวันนี้ (29 มิ.ย.61) ที่ระดับ 17.90 บาท ปรับตัวลดลง 1.30 บาท หรือ 6.77% ด้วยมูลค่าซื้อขาย 506.98 ล้านบาท
ขณะเดียวกันราคาหุ้นบริษัท ยูนิค เอ็นจิเนียริ่ง แอนด์ คอนสตรัคชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ UNIQ อยู่ที่ระดับ 11.20 บาท ปรับตัวลดลง 0.20 บาท หรือ 1.75% ด้วยมูลค่าซื้อขาย 54.34 ล้านบาท
ด้าน ราคาหุ้นบริษัท ช.การช่าง จำกัด (มหาชน) หรือ CK อยู่ที่ระดับ 23.80 บาท ปรับตัวลดลง 0.50 บาท หรือ 2.06% ด้วยมูลค่าซื้อขาย 113.94 ล้านบาท
อีกทั้ง ราคาหุ้นบริษัท ซีฟโก้ จำกัด (มหาชน) หรือ SEAFCO อยู่ที่ระดับ 7.80 บาท ปรับตัวลดลง 0.10 บาท หรือ 1.27% ด้วยมูลค่าซื้อขาย 7.60 ล้านบาท
โดยราคาหุ้นในกลุ่มรับเหมาก่อสร้างปรับตัวลดลงต่อเนื่องจากวานนี้ โดยนักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าเกิดจากความกังวลหลังจาก พ.ร.บ. วินัยการเงินการคลังของรัฐ พ.ศ. 2561 มีผลบังคับใช้เมื่อวันที่ 19 เม.ย. ที่ผ่านมา ส่งผลให้โครงการลงทุนขนาดใหญ่ที่ยังมีโอกาสเปิดประมูลได้ทันภายในปีนี้เพียง 4.7 แสนล้านบาท จาก 8 แสนล้านบาท
ทั้งนี้ บล.เอเซีย พลัส ระบุในบทวิเคราะห์ (29 มิ.ย.2561) ว่า งานประมูลโครงการภาครัฐมีแนวโน้มชะลอตัว หลังจาก พ.ร.บ. วินัยการเงินการคลังของรัฐ พ.ศ. 2561 มีผลบังคับใช้เมื่อวันที่ 19 เม.ย. ที่ผ่านมา ส่งผลให้การขออนุมัติโครงการต่างๆ ต้องผ่านการพิจารณาจากคณะกรรมการนโยบายการเงินการคลังเพิ่มขึ้นอีกขั้นตอนหนึ่ง ทั้งในส่วนของความคุ้มค่าด้านการเงิน และความเสี่ยงที่อาจจะเกิดขึ้น ก่อนที่จะนำเสนอให้คณะรัฐมนตรีเพื่อขออนุมัติเปิดประมูล
โดย ประเมินถึงโครงการลงทุนขนาดใหญ่ที่ยังมีโอกาสเปิดประมูลได้ทันภายในปีนี้ พบว่ามีอยู่ราว 4.7 แสนล้านบาท จาก 8 แสนล้านบาท ซึ่งเป็นโครงการที่ผ่านการพิจารณาการคณะกรรมการฯ ชุดนี้แล้ว หรือผ่านความเห็นชอบของ ครม. แล้ว ได้แก่
- โครงการรถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบิน มูลค่า 236,700 ล้านบาท : อยู่ระหว่างเปิดขายซองประกวดราคาถึงวันที่ 9 ก.ค. กำหนดรับซองเสนอราคา 12 พ.ย. และประกาศารายชื่อผู้ชนะการประมูล 13 พ.ย. 2561
- โครงการทางด่วนดาวคะนอง-พระราม 3 มูลค่า 31,244 ล้านบาท : อยู่ระหว่างกทพ. สรุปผลเพื่อเปิดขายซองประกวดราคา
- งานระบบเก็บค่าโดยสารมอเตอร์เวย์ บางปะอิน-โคราช และบางใหญ่-กาญจนบุรี มูลค่ารวม 13,000 ล้านบาท : กรมทางหลวงเตรียมประกวดราคา
- รถไฟฟ้าสายสีม่วงใต้ เตาปูน-ราษฎร์บูรณะ มูลค่า 101,112 ล้านบาท : เตรียมเปิดประมูลใน 4Q61
- โครงการรถไฟความเร็วสูงไทย-จีน เฟส 2 และ 3 มูลค่า 12,700 ล้านบาท
ทั้งนี้ แม้ว่าการเปิดประมูลภาครัฐจะล่าช้า แต่เชื่อว่าไม่น่าจะส่งผลกระทบต่อประมาณการกำไรของกลุ่มรับเหมาฯ ในปี 2561-62 อย่างมีนัยฯ เนื่องจากผู้รับเหมารายใหญ่ล้วนมี Backlog รองรับรายได้ในช่วง 2-4 ปีต่อจากนี้ (ล่าสุด Backlog รวมกันอยู่ที่ 4.8 แสนล้านบาท)
นอกจากนี้ยังมีการรับงานภาคเอกชน ทั้งคอนโดมิเนียม และงานก่อสร้างโรงไฟฟ้าและโรงงานปิโตรเคมี ทำให้เชื่อว่าคาดการณ์กำไรสุทธิปี 2561 ยังมีความเป็นไปได้ (เติบโตถึง 601% จากช่วงเดียวกันเมื่อปีก่อน จากฐานที่ต่ำในปีก่อน)
อย่างไรก็ตาม แรงขับเคลื่อนสำคัญของราคาหุ้นในกลุ่มฯ จะมาจากความคาดหวังเกี่ยวกับงานประมูลภาครัฐเป็นหลัก ประเด็นที่เกิดขึ้นนี้จึงเป็น sentiment เชิงลบ และทำให้กลุ่มรับเหมาฯ มีความน่าสนใจน้อยลงในระยะนี้
ทั้งนี้ จึงปรับลดน้ำหนักการลงทุนกลุ่มฯ จากเดิม “เท่ากับตลาด” เป็น “น้อยกว่าตลาด” และอยู่ในระหว่างการพิจารณามูลค่าพื้นฐานหุ้นเป็นรายบริษัท อย่างไรก็ตาม ยังมีหุ้นที่มีพื้นฐานแข็งแกร่งและมี backlog อยู่ในมือจำนวนมาก คือ STEC (FV@B25) และ SEAFCO ([email protected])