ILINK มั่นใจรายได้ปีนี้ทะลุเป้า 4.9 พันลบ. ส่งซิกครึ่งปีหลังลุยประมูลงานใหม่เพียบ!

ILINK ปักธงรายได้ปีนี้ทะลุเป้า 4.9 พันลบ. ส่งซิกครึ่งปีหลังลุยประมูลงานใหม่เพียบ!


นายสมบัติ อนันตรัมพร ประธานกรรมการและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท อินเตอร์ลิ้งค์ คอมมิวนิเคชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ ILINK เปิดเผยว่า บริษัทมั่นใจรายได้ปีนี้เติบโตเกินเป้าหมาย 4.9 พันล้านบาท จากครึ่งปีแรกทำรายได้เล้วราว 2.6 พันล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปี 60 ที่ทำได้ 4,251 ล้านบาท เนื่องจากมีงานในมือ (Backlog) รวมอยู่ที่ 5,794.54 ล้านบาท โดยแบ่งเป็น Backlog จากธุรกิจวิศวกรรมและโครงการพิเศษ (ENGINEERING) มูลค่า 2,918.49 ล้านบาท และธุรกิจโทรคมนาคม (TELECOM) มูลค่า 2,876.05 ล้านบาท

โดยบริษัทคาดว่าผลประกอบการครึ่งปีหลังน่าจะเติบโตดีกว่าครึ่งปีแรก เนื่องจาก 3 ธุรกิจหลักมีแนวโน้มเติบโตต่อเนื่อง โดยธุรกิจจัดจำหน่ายสายสัญญาณ (DISTRIBUTION) คาดว่าจะมีรายได้เพิ่มขึ้น จากปัจจุบันที่มีงานในมือ 110 ล้านบาท ซึ่งจะเป็นงานโครงการก่อสร้างอาคารรัฐสภาแห่งใหม่ (รัฐสภาแห่งที่ 3) คาดว่าจะทยอยส่งมอบงานในครึ่งปีหลังนี้ราว 70 ล้านบาท แต่อย่างไรก็ตามหากรัฐสภามีการเร่งดำเนินโครงการดังกล่าวก็อาจจะส่งมอบงานได้ครบทั้งหมดในปีนี้

ทั้งนี้ บริษัทยังได้รับอานิสงส์จากการออกผลิตภัณฑ์ใหม่ตั้งแต่ต้นปี คือ ผลิตภัณฑ์ FTTH (FIBER Optic To The home) หรือสาย Fiber Optic ที่เข้ามาทดแทนสายทองแดง ซึ่งปัจจุบันได้รับคำสั่งซื้อจากโอเปอร์เรเตอร์รายใหญ่หลายราย และน่าจะเห็นแนวโน้มคำสั่งซื้อที่เพิ่มขึ้นนอย่างต่อเนื่อง อีกทั้งผลิตภัณฑ์สายส่งสัญญาณ รองรับเทคโนโลยี PoE (Power Over Ethernet) ที่ใช้สำหรับการติดตั้งกล้องวงจรปิด คาดว่าผลิตภัณฑ์ดังกล่าวจะเข้ามาสนับสนุนให้รายได้ของธุรกิจจัดจำหน่ายของบริษัทเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ

นอกจากนี้บริษัทเตรียมนำผลิตภัณฑ์ FTTH และ สายส่งสัญญาณ ไปจำหน่ายโดยผ่านตัวแทนจำหน่ายสินค้าในประเทศเมียนมา และลาว โดยตั้งเป้าจะมีรายได้จากต่างประเทศในปีนี้จะอยู่ที่ 50-100 ล้านบาท

สำหรับธุรกิจวิศวกรรมและโครงการพิเศษ ปัจจุบันโครงการก่อสร้างใน Backlog อยู่ราว 2.9 พันล้านบาท คาดว่าจะทยอยรับรู้รายได้ตามความคืบหน้าของงาน ขณะที่ในไตรมาส 3/61 บริษัทคาดว่าจะมีการเซ็นสัญญาในโครงการใหม่เพิ่มเติมอีก ได้แก่ โครงการ Substation PEA มูลค่าประมาณ 60 ล้านบาท

อีกทั้งเตรียมเข้าประมูลงานในหลายโครงการ เช่น โครงการสายเคเบิ้ลใต้ทะเล เกาะสมุยโครงการใหม่มูลค่า 2 พันล้านบาท ,โครงการสายไฟฟ้าทั้งใต้ดินและบนเสาส่งแรงสูง โครงการมูลค่าประมาณ 1.2 พันล้านบาท, โครงการสถานีไฟฟ้าย่อยอีกหลายโครงการ มูลค่ารวมประมาณ 2 พันล้านบาท ซึ่งการรับงานบริษัทจะมองถึงมาร์จิ้นของงานเป็นหลัก

ส่วนธุรกิจโทรคมนาคม ปัจจุบันงานบริการโครงข่ายมี Backlog อยู่ที่ 2.8 พันล้านบาท คาดจะทยอยรับรู้รายได้ในช่วงที่เหลือของปีนี้ราว 600-700 ล้านบาท ขณะที่โครงการอินเทอร์เน็ตชายขอบ เฟส 1 ซึ่งบริษัท ย่อยชนะการประมูลและทยอยติดตั้ง คาดว่าจะสามารถส่งมอบงานได้ทั้งหมดในปีนี้ อีกทั้งยังอยู่ระหว่างเตรียมเข้ายื่นประมูลงานโครงการอินเทอร์เน็ตชายขอบ เฟส 2 มูลค่าเกือบ 2 หมื่นล้านบาท ที่จะเปิดประมูลในเดือนก.ย.นี้ โดยบริษัท คาดหวังได้รับงาน 1-2 สัญญา จากทั้งหมด 8 สัญญา

ขณะเดียวกัน ธุรกิจการให้บริการเช่าพื้นที่ดาต้าเซ็นเตอร์ ซึ่งปัจจุบันพื้นที่ของ Interlink Data Center ถูกเช่าเต็มแล้ว จึงได้ขยายธุรกิจไปร่วมมือลงทุนร่วมกับบริษัทในตลาดหลักทรัพย์ โดยเน้นจุดแข็งของแต่ละบริษัทมารวมกันสร้าง Data Center แห่งใหม่ ซึ่งใช้ชื่อ Genesis Data Center ที่เริ่มเปิดพื้นที่ให้บริการแล้ว และจะรับรู้รายได้ตั้งแต่ไตรมาส 4/61 เป็นต้นไป

X
Back to top button