DDD พุ่งแรงกว่า 10% โบรกฯเชียร์ “ซื้อ” ชูเป้า 53.50 บ. คาดกำไรปีนี้โต 10% แตะ 386 ลบ.

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หุ้นบริษัท ดู เดย์ ดรีม จำกัด (มหาชน) หรือ DDD ล่าสุด ณ เวลา 15.29 น. ราคาอยู่ที่ 48.50 บาท บวก 4.50 บาท หรือ 10.23% สูงสุดที่ 49 บาท ต่ำสุดที่ 43.25 บาท ด้วยมูลค่าซื้อขาย 148.08 ล้านบาท

ด้าน บล.ฟิลลิป ระบุในบทวิเคราะห์ (30 ส.ค.) แนะนำ “ซื้อ” หุ้น DDD ราคาเป้าหมาย 53.50 บาท/หุ้น โดยจากการประชุมนักวิเคราะห์ ทางฝ่ายยังคงกังวลผลดำเนินงานของ DDD ปีนี้คาดจะได้รับปัจจัยลบจาก i) ช่องทางการจำหน่าย Traditional Trade (TT) ที่ยังเข้าไม่ทั่วถึง หลังเปลี่ยนตัวแทนจำหน่ายเป็น บจ. ซีโน-แปซิฟิก บวกกับสินค้าที่เข้าไปวางจำหน่ายได้ยังมีน้อย อีกทั้งยังมีเหตุการณ์ เมจิก สกิน ที่ทำให้ตลาดเครื่องสำอางค้าส่งแห่งใหญ่ถูกสั่งปิด ซึ่งส่งผลกระทบต่อผู้ค้ารายย่อยในตลาด และความล่าช้าในการปรับปรุงผลิตภัณฑ์หลังได้ CFDA จีน ตลอดจนการระบายสินค้าล็อตเก่าจากตัวแทนจำหน่ายในต่างประเทศ

อย่างไรก็ตาม แม้บริษัทจะชี้แจงแนวทางการแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นซึ่งยังต้องใช้เวลา ขณะที่ปัจจัยบวกจากช่องทาง Convenience Store ที่เริ่มเห็นการเติบโตดีขึ้นหลังเริ่มวางจำหน่ายผลิตภัณฑ์แบบซอง (Sachet) โดยปีนี้ได้เพิ่มสินค้าเข้าไปแล้ว 2 SKUs จากปีที่แล้วมีเพียง 1 SKU รวมถึงการวางจำหน่ายสินค้าในช่องทาง King Power เพิ่มเป็น 8 จุดปีนี้ชดเชยได้เพียงบางส่วน

สำหรับแนวทางการแก้ไขปัญหาของบริษัท นอกจากการออกผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ ในช่วงที่เหลือของปีที่บริษัทคาดจะออกผลิตภัณฑ์ใหม่เพิ่มอีก 1 ตัว หลังออกไปแล้ว 3 ตัว ได้แก่ Snail White Gold (ซอง), Snail White Cream Body Wash 2 กลิ่น และ Snail White Miracle Serum (ซอง) ซึ่งจะช่วยทั้งในเรื่องของการขยายฐานลูกค้าและช่องทางจำหน่าย TT และ การเจรจาหา partner จีนรายใหม่ที่มีความเชี่ยวชาญด้านตลาด Mainstream Online สำหรับขยายฐานกลุ่มลูกค้าเพิ่มขึ้น ซึ่งมีขนาดใหญ่กว่าตลาด Cross-Border E-Commerce ราว 3 เท่าแล้ว

ขณะที่ ล่าสุดได้จัดตั้ง DDD KCA Corporation ผ่าน DO DAY DREAM HOLDING ซึ่งเป็น บ.ย่อยของบริษัทในการเปิดตลาดประเทศฟิลิปปินส์ หลังได้ partner ที่มีชื่อเสียงระดับประเทศ อย่าง “Kris Aquino” ลูกสาวประธานาธิบดี Corozon Aquino เป็นหุ้นส่วน ซึ่งในเบื้องต้นคาดจะเริ่มวางจำหน่าย 2 ผลิตภัณฑ์หลักที่ได้รับความนิยมก่อน ได้แก่ Snail White Whipp Soap, Snail White Facial Cream อีกทั้งยังเตรียมออกสินค้าภายใต้แบรนด์ใหม่ สำหรับเจาะตลาดกลุ่มลูกค้าออนไลน์โดยเฉพาะ ทั้งนี้ทางฝ่ายคาดว่าพัฒนาการต่างๆ ที่กล่าวข้างต้น คาดจะเริ่มเห็นทิศทางที่ดีในปีหน้าเป็นต้นไป

ทั้งนี้ แม้ทางฝ่ายจะเห็นแนวทางการแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้น ตลอดจนกลยุทธ์ใหม่ๆ ของบริษัท เพื่อรุกขยายการเติบโตในอนาคต แต่ด้วยแนวโน้มกำไรที่คาดว่าจะเริ่มเห็นการฟื้นตัวในปีหน้า ดังนั้นทางฝ่ายจึงปรับลดประมาณการกำไรลง โดยปี 61 คาดจะมีกำไรสุทธิเติบโต 10% จากปีก่อน แตะระดับ 386 ล้านบาท และโตต่อเนื่องในช่วง 2 ปีข้างหน้า (ปี 62-63) เฉลี่ย 19.4% ต่อปี พร้อมทั้งแนะนำ “ซื้อ” ด้วยราคาพื้นฐานใหม่ปี 2562 ที่ 53.50 บาท อิงวิธี DCF (Wacc: 8.3%; terminal g: 3.5%)