สรุปภาวะตลาดหุ้นต่างประเทศ

สรุปภาวะตลาดหุ้นต่างประเทศ ประจำวันที่ 19 ธ.ค. 2561


ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดร่วงลงกว่า 300 จุดเมื่อคืนนี้ (19 ธ.ค.) หลังจากธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ประกาศขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.25% ในการประชุมเมื่อวานนี้ ขณะเดียวกันเฟดได้ปรับลดคาดการณ์การขยายตัวของเศรษฐกิจสหรัฐทั้งในปีนี้และปีหน้า ซึ่งความเคลื่อนไหวดังกล่าวส่งผลให้นักลงทุนวิตกกังวลเกี่ยวกับแนวโน้มเศษฐกิจและผลกระทบที่จะเกิดขึ้นจากการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 23,323.66 จุด ร่วงลง 351.98 จุด หรือ -1.49% ขณะที่ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,506.96 จุด ลดลง 39.20 จุด หรือ -1.54% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 6,636.83 จุด ลดลง 147.08 จุด หรือ -2.17%

 

ตลาดหุ้นยุโรปปิดบวกเมื่อคืนนี้ (19 ธ.ค.) ขานรับรายงานข่าวที่ว่า อิตาลี และสหภาพยุโรป (EU) สามารถบรรลุข้อตกลงเกี่ยวกับงบประมาณประจำปี 2562 ของอิตาลี ขณะที่นักลงทุนจับตาผลการประชุมของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) โดยตลาดหุ้นยุโรปปิดทำการซื้อขายก่อนที่คณะกรรมการเฟดจะแถลงมติการประชุม

ดัชนี Stoxx Europe 600 ปรับตัวขึ้น 0.31% ปิดที่ 341.52 จุด

ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดที่ 10,766.21 จุด เพิ่มขึ้น 25.32 จุด หรือ +0.24%  ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดวันทำการล่าสุดที่ 6,765.94 จุด เพิ่มขึ้น 64.35 จุด หรือ +0.96% และดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดวันทำการล่าสุดที่ 4,777.45 จุด เพิ่มขึ้น 23.37 จุด หรือ +0.49%

 

ตลาดหุ้นลอนดอนปิดบวกเมื่อคืนนี้ (19 ธ.ค.) โดยได้แรงหนุนจากการพุ่งขึ้นของหุ้นแกล็กโซสมิทไคล์น ซึ่งเป็นบริษัทเวชภัณฑ์รายใหญ่ ขณะที่นักลงทุนจับตาผลการประชุมของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) โดยตลาดหุ้นลอนดอนปิดทำการซื้อขายก่อนที่คณะกรรมการเฟดจะแถลงมติการประชุม พร้อมกับจับตาการประชุมธนาคารกลางอังกฤษ (BoE) ในวันนี้

ทั้งนี้ ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 6,765.94 จุด เพิ่มขึ้น 64.35 จุด หรือ +0.96%

 

สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดดีดตัวขึ้นกว่า 2% เมื่อคืนนี้ (19 ธ.ค.) หลังจากสำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐ (EIA) รายงานว่า สต็อกน้ำมันดิบของสหรัฐลดลงติดต่อกันเป็นสัปดาห์ที่ 3

สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนม.ค. เพิ่มขึ้น 96 เซนต์ หรือ 2.1% ปิดที่ 47.20  ดอลลาร์/บาร์เรล

สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ส่งมอบเดือนก.พ. เพิ่มขึ้น 98 เซนต์ หรือ 1.7% ปิดที่ 57.24 ดอลลาร์/บาร์เรล

 

สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (19 ธ.ค.) ก่อนที่นักลงทุนจะรู้ผลการประชุมนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) โดยตลาดทองคำนิวยอร์กปิดทำการซื้อขายก่อนที่คณะกรรมการเฟดจะแถลงผลการประชุมประจำเดือนธ.ค. นอกจากนี้ สัญญาทองคำยังได้แรงหนุนจากการอ่อนค่าของสกุลเงินดอลลาร์

สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนก.พ. เพิ่มขึ้น 2.80 ดอลลาร์ หรือ 0.22% ปิดที่ 1,256.40 ดอลลาร์/ออนซ์ ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่วันที่ 10 ก.ค.ปีนี้

สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนมี.ค. เพิ่มขึ้น 11.7 เซนต์ หรือ 0.8% ปิดที่ 14.818 ดอลลาร์/ออนซ์

สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนม.ค. เพิ่มขึ้น 1.20 ดอลลาร์ หรือ 0.15% ปิดที่ 796.00 ดอลลาร์/ออนซ์

สัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนมี.ค. พุ่งขึ้น 22.10 ดอลลาร์ หรือ 1.9% ปิดที่ 1201.30 ดอลลาร์/ออนซ์

 

ดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับยูโรและเงินเยน ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (19 ธ.ค.) หลังจากธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ประกาศขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมเมื่อวานนี้ แต่ได้ปรับลดคาดการณ์การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในปีหน้า รวมทั้งปรับลดคาดการณ์การขยายตัวของเศรษฐกิจสหรัฐในปีนี้และปีหน้า ส่วนสกุลเงินยูโรแข็งค่าขึ้นหลังจากอิตาลี และสหภาพยุโรป (EU) สามารถบรรลุข้อตกลงเกี่ยวกับงบประมาณประจำปี 2562 ของอิตาลี

ยูโรแข็งค่าเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ที่ระดับ 1.1371 ดอลลาร์ จากระดับ 1.1355 ดอลลาร์ ขณะที่เงินปอนด์อ่อนค่าลงสู่ระดับ  1.2622 ดอลลาร์ จากระดับ 1.2638 ดอลลาร์ ส่วนดอลลาร์ออสเตรเลียอ่อนค่าลงแตะที่ระดับ 0.7114 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ  0.7171 ดอลลาร์สหรัฐ

ดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับเงินเยน ที่ระดับ 112.35 เยน จากระดับ 112.53 เยน อย่างไรก็ตาม ดอลลาร์แข็งค่าเมื่อเทียบกับฟรังก์สวิส ที่ระดับ 0.9942 ฟรังก์ จากระดับ 0.9928 ฟรังก์ และแข็งค่าเมื่อเทียบกับดอลลาร์แคนาดา ที่ระดับ 1.3494 ดอลลาร์แคนาดา จากระดับ 1.3492 ดอลลาร์แคนาดา

Back to top button