จับตาหุ้นไทยดีดต่อขานรับเลือกตั้ง-ตลาดหุ้นตปท.สดใส

จับตาหุ้นไทยดีดต่อขานรับเลือกตั้ง-ตลาดหุ้นตปท.สดใส


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ตลาดหุ้นเอเชียปรับตัวเพิ่มขึ้นในเช้าวันนี้ ตามทิศทางดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กที่ปิดบวกเมื่อคืนนี้ โดยได้ปัจจัยหนุนจากผลประกอบการที่แข็งแกร่งของบริษัทจดทะเบียนรายใหญ่ของสหรัฐ

โดยดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่นเปิดวันนี้ที่ 20,506.24 จุด ลดลง 87.48 จุด, -0.42% ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีนเปิดวันนี้ที่ 2,584.65 จุด เพิ่มขึ้น 3.65 จุด, +0.14% ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกงเปิดวันนี้ที่ 27,075.37 จุด เพิ่มขึ้น 67.17 จุด, +0.25% ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวันเปิดวันนี้ที่ 9,865.00 จุด เพิ่มขึ้น 18.60 จุด, +0.19% ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้เปิดวันนี้ที่ 2,127.88 จุด เพิ่มขึ้น 0.10 จุด, +0.00% ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์เปิดวันนี้ที่ 3,174.59 จุด เพิ่มขึ้น 3.48 จุด, +0.11% ดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซียเปิดวันนี้ที่ 1,689.30 จุด เพิ่มขึ้น 1.16 จุด, +0.07%

อย่างไรก็ดี นักลงทุนยังคงวิตกกังวลเกี่ยวกับข้อพิพาทการค้าระหว่างสหรัฐกับจีน โดยหากจีนและสหรัฐไม่สามารถตกลงกันได้เกี่ยวกับแนวทางแก้ไขปัญหาที่ถาวร ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ก็จะเพิ่มการเรียกเก็บภาษีนำเข้าสินค้าจีนมูลค่า 2 แสนล้านดอลลาร์ สู่ระดับ 25% จากเดิม 10% ในขณะนี้

นอกจากนี้ นักลงทุนยังจับตาสถานการณ์ชัตดาวน์หน่วยงานของรัฐบาลสหรัฐที่ย่างเข้าสู่วันที่ 34 ขณะที่นายเควิน แฮสเซทท์ ประธานสภาที่ปรึกษาเศรษฐกิจของปธน.ทรัมป์ กล่าวว่า เศรษฐกิจสหรัฐอาจขยายตัวที่ระดับ 0% ในไตรมาสแรกปีนี้ หากภาวะชัตดาวน์ยังคงยืดเยื้อต่อไป

ทั้งนี้ วุฒิสภาสหรัฐเตรียมโหวตร่างกฎหมายงบประมาณ 2 ฉบับในวันนี้ ซึ่งมีเป้าหมายที่จะยุติปัญหาชัตดาวน์ โดยร่างกฎหมายฉบับหนึ่งจะรวมงบประมาณสำหรับสร้างกำแพงกั้นชายแดนเม็กซิโกวงเงิน 5.7 พันล้านดอลลาร์ ส่วนอีกฉบับหนึ่งจะเป็นร่างกฎหมายที่มีวัตถุประสงค์เพื่อให้หน่วยงานของรัฐบาลมีงบประมาณใช้จ่ายไปจนถึงวันที่ 8 ก.พ. อย่างไรก็ตาม คาดว่าร่างกฎหมายทั้ง 2 ฉบับอาจเผชิญกับความไม่แน่นอนในวุฒิสภา โดยร่างกฎหมายแต่ละฉบับจำเป็นจะต้องได้รับการโหวต 60 เสียง จึงจะสามารถผ่านการพิจารณาได้

ด้าน บริษัทหลักทรัพย์ ฟินันเซีย ไซรัส จำกัด (มหาชน) ระบุถึงแนวโน้มตลาดวันนี้ว่า SET Index จะแกว่งตัว Sideways to Sideways Up ได้ต่อเนื่องโดยคาดว่ากลุ่ม Domestic Play ยังคงนำตลาดหลังจากการเลือกตั้งชัดเจนว่าจะเกิดขึ้นในวันที่ 24 มี.ค. นี้ ทำให้จะเริ่มเห็นการหาเสียงอย่างจริงจังและกระตุ้นให้การจับจ่ายใช้สอยในประเทศให้มีความคึกคักมากขึ้น ขณะที่ปัจจัยต่างประเทศยังต้องติดตามทั้งการเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐฯ-จีน การชัตดาวน์ที่ลากยาวกว่า 1 เดือน รวมถึงการโหวต Brexit รอบสอบในช่วงปลายเดือนนี้

ขณะเดียวกัน นายเทิดศักดิ์ ทวีธีระธรรม ผู้ช่วยกรรมการผู้อำนวยการสายงานวิจัย บล.เอเซีย พลัส กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้คาดว่าจะปรับตัวขึ้นต่อเนื่อง หลังการเลือกตั้งมีความชัดเจน โดยได้กำหนดวันเลือกตั้งเป็นวันที่ 24 มี.ค. ทำให้โมเมนตัมตลาดฯน่าจะดีจาก Fund Flow ที่จะเริ่มเข้ามาในบ้านเรามากขึ้น

ขณะที่ ตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชียเช้านี้ส่วนใหญ่จะเคลื่อนไหวในแดนบวก โดยปัจจัยที่จะต้องติดตามยังเป็นเรื่องร่างข้อตกลงการถอนตัวของอังกฤษจากการเป็นสมาชิกของสหภาพยุโรป (Brexit) และการปิดหน่วยงานภาครัฐฯของสหรัฐฯ เนื่องจากมีผลต่อเศรษฐกิจโดยรวม

อย่างไรก็ดี ตลาดฯคงจะสนองตอบแต่ก็มีจุดพักแรกแถวแนวต้าน 1,625-1,630 จุด ส่วนแนวรับให้ไว้ที่ 1,610 จุด

 

Back to top button