สรุปภาวะตลาดต่างประเทศ ประจำวันที่ 13 พ.ค. 2562

สรุปภาวะตลาดต่างประเทศ ประจำวันที่ 13 พ.ค. 2562


ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดร่วงลงกว่า 600 จุดเมื่อคืนนี้ (13 พ.ค.) หลังจากจีนประกาศเพิ่มการเรียกเก็บภาษีสินค้านำเข้าจากสหรัฐ เพื่อตอบโต้สหรัฐที่ได้ดำเนินการด้านภาษีต่อจีนเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว โดยความเคลื่อนไหวดังกล่าวได้สร้างความตื่นตระหนกในตลาด และทำให้เกิดความวิตกกังวลว่า สงครามการค้าที่ทวีความรุนแรงมากขึ้นอาจส่งผลให้เศรษฐกิจสหรัฐเข้าสู่ภาวะถดถอย

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 25,324.99 จุด ลดลง 617.38 จุด หรือ -2.38% ขณะที่ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,811.87 จุด ลดลง 69.53 จุด หรือ -2.41% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 7,647.02 จุด ลดลง 269.92 จุด หรือ -3.41%

 

ตลาดหุ้นยุโรปปิดร่วงลงเมื่อคืนนี้ (13 พ.ค.) เนื่องจากนักลงทุนวิตกเกี่ยวกับการทำสงครามการค้าระหว่างสหรัฐและจีน หลังจากที่จีนประกาศเพิ่มการเรียกเก็บภาษีสินค้านำเข้าจากสหรัฐ เพื่อตอบโต้สหรัฐที่ได้ดำเนินการด้านภาษีต่อจีนเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว

ดัชนี Stoxx Europe 600 ร่วง 1.21% ปิดที่ 372.57 จุด

ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 5,262.57 จุด ร่วง 64.86 จุด หรือ -1.22% และ ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดที่ 11,876.65 จุด ร่วง 183.18 จุด หรือ -1.52% ส่วนดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,163.68 จุด ลดลง 39.61 จุด หรือ -0.55%

 

ตลาดหุ้นลอนดอนปิดลดลงเมื่อคืนนี้ (13 พ.ค.) เนื่องจากนักลงทุนวิตกเกี่ยวกับการทำสงครามการค้าระหว่างสหรัฐและจีน หลังจากที่จีนประกาศเพิ่มการเรียกเก็บภาษีต่อสินค้านำเข้าจากสหรัฐ เพื่อตอบโต้สหรัฐที่ได้ดำเนินการด้านภาษีต่อจีนเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว

ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,163.68 จุด ลดลง 39.61 จุด หรือ -0.55%

 

สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นเมื่อคืนนี้ (13 พ.ค.) เนื่องจากนักลงทุนเข้าซื้อทองคำในฐานะสินทรัพย์ที่ปลอดภัย หลังจากตลาดหุ้นสหรัฐร่วงลงอย่างหนัก ท่ามกลางสงครามการค้าที่ทวีความรุนแรงมากขึ้นระหว่างสหรัฐและจีน

สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนมิ.ย. เพิ่มขึ้น 14.4 ดอลลาร์ หรือ 1.12% ปิดที่ 1,301.8 ดอลลาร์/ออนซ์

สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนก.ค. ลดลง 1.3 เซนต์ หรือ 0.09% ปิดที่ 14.777 ดอลลาร์/ออนซ์

สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนก.ค. ลดลง 10.7 ดอลลาร์ หรือ 1.24% ปิดที่ 854.9 ดอลลาร์/ออนซ์

สัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนมิ.ย. ร่วงลง 33.90 ดอลลาร์ หรือ 2.5% ปิดที่ 1316.80 ดอลลาร์/ออนซ์

 

สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดลบเมื่อคืนนี้ (13 พ.ค.) เนื่องจากความวิตกกังวลเกี่ยวกับการทำสงครามการค้าระหว่างสหรัฐและจีน หลังจากที่จีนเปิดศึกการค้าตอบโต้สหรัฐด้วยการปรับขึ้นภาษีสินค้านำเข้าจากสหรัฐ โดยปัจจัยดังกล่าวได้ฉุดราคาน้ำมันดิบปิดในแดนลบ หลังราคาพุ่งขึ้นในช่วงแรกจากรายงานข่าวที่ว่าเรือบรรทุกน้ำมันของซาอุดีอาระเบียถูกโจมตีบริเวณนอกน่านน้ำสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ (UAE)

สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนมิ.ย. ลดลง 62 เซนต์ หรือ 1% ปิดที่ 61.04 ดอลลาร์/บาร์เรล

สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ส่งมอบเดือนก.ค. ลดลง 39 เซนต์ หรือ 0.6% ปิดที่ 70.23 ดอลลาร์/บาร์เรล

 

ดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (13 พ.ค.) เนื่องจากความวิตกกังวลเกี่ยวกับผลกระทบของสงครามการค้า หลังจากที่จีนเปิดศึกตอบโต้สหรัฐด้วยการปรับขึ้นภาษีสินค้านำเข้าจากสหรัฐ ขณะเดียวกันนักลงทุนจับตาข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญของสหรัฐในสัปดาห์นี้ ซึ่งรวมถึงยอดค้าปลีกและการผลิตภาคอุตสาหกรรม

ดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเมื่อเทียบเงินเยน ที่ระดับ 109.33 เยน จากระดับ 109.90 เยน และอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับฟรังก์สวิส ที่ระดับ 1.0065 ฟรังก์ จากระดับ 1.0125 ฟรังก์ แต่ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าเมื่อเทียบกับดอลลาร์แคนาดา ที่ระดับ 1.3467 ดอลลาร์แคนาดา จากระดับ 1.3421 ดอลลาร์แคนาดา

สกุลเงินยูโรทรงตัวที่ระดับ 1.1231 ดอลลาร์ จากระดับ 1.1231 ดอลลาร์ ขณะที่เงินปอนด์อ่อนค่าลงสู่ระดับ 1.2965 ดอลลาร์ จากระดับ 1.3007 ดอลลาร์ ส่วนดอลลาร์ออสเตรเลียอ่อนค่าลงแตะที่ระดับ 0.6950 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.6997 ดอลลาร์สหรัฐ

Back to top button