OSP จ่อออกผลิตภัณฑ์ใหม่-ขยายกำลังการผลิตรองรับตลาด พร้อมเปิดโรงงานใหม่ในเมียนมาปลายปีนี้

OSP จ่อออกผลิตภัณฑ์ใหม่-เร่งขยายกำลังการผลิตรองรับตลาด พร้อมเปิดโรงงานแห่งใหม่ในเมียนมาปลายปีนี้


นายเพชร โอสถานุเคราะห์ ประธานคณะกรรมการบริหาร บริษัท โอสถสภา จำกัด (มหาชน) หรือ OSP เปิดเผยว่า บริษัทฯ ดำเนินแผนการตลาดแบบ Multi-brand Portfolio ควบคู่กับการดำเนินโครงการ Fitness First ที่มุ่งบริหารจัดการด้านต้นทุนการผลิตอย่างต่อเนื่อง ทำให้ประสบความสำเร็จในการผลักดันผลการดำเนินงานในไตรมาส 1/2562 มีกำไรสุทธิ 888 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 13.4% เทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน หรือคิดเป็นอัตรากำไรสุทธิ 14.0%

“บริษัทฯ พอใจกับผลการดำเนินงานในไตรมาส 1/2562 ที่สร้างการเติบโตได้ดีทั้งรายได้และกำไรสุทธิ สะท้อนถึงศักยภาพการดำเนินธุรกิจที่มีขีดความสามารถการแข่งขันที่ดีทั้งในประเทศและภูมิภาคอาเซียน โดยตลาดกัมพูชา ลาว เมียนมา และอินโดนีเซีย มีสัญญาณการเติบโตที่ดีต่อเนื่อง (ณ อัตราแลกเปลี่ยนคงที่) ในไตรมาส 2/2562 บริษัทฯ ยังคงมุ่งเน้นด้านการบริหารต้นทุน ควบคู่ไปกับการผลักดันการเติบโตผ่านกิจกรรมการตลาด การออกผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ รวมถึงการขยายกำลังการผลิตเพื่อรองรับการเติบโตที่เพิ่มขึ้นทั้งในประเทศและต่างประเทศ”นายเพชร กล่าว

สำหรับในไตรมาส 2/2562 บริษัทฯ จะยังคงให้ความสำคัญกับการสร้างแคมเปญการตลาดที่ตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภค อาทิ แคมเปญแต้มเอ็ม (การสะสมคะแนนเพื่อลุ้นรางวัล หรือแลกรับของพรีเมี่ยมผ่านช่องทางไลน์)  และการออกผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ เช่น การออกผลิตภัณฑ์ซีวิตแบบกล่อง เพื่อขยายตลาดและกลุ่มลูกค้าเป้าหมาย โดยเป็นผลิตภัณฑ์ที่สามารถดื่มได้ทุกเพศทุกวัย

โดยเมื่อเร็วๆ นี้ บริษัทฯ ยังได้เตรียมขยายการผลิตรองรับการเติบโตของธุรกิจ โดยทำพิธีก่ออิฐก้อนแรกของโรงงานหลอมแก้วใหม่ที่นิคมอุตสาหกรรมโรจนะ จังหวัดพระนครศรีอยุธยา เพื่อใช้เป็นฐานการผลิตขวดแก้วในอนาคต โรงงานแห่งนี้ใช้เทคโนโลยีการผลิตที่ทันสมัย เป็นโรงงานผลิตขวดแก้วที่มีประสิทธิภาพสูงในระดับโลก สามารถผลิตขวดแก้วที่บางและมีน้ำหนักเบา เอื้อต่อการบริหารจัดการต้นทุน โดยจะดำเนินการก่อสร้างแล้วเสร็จในครึ่งปีหลังของปี 2562 ในขณะที่โรงงานผลิตเครื่องดื่มแห่งใหม่ที่นิคมอุตสาหกรรมติละวา กรุงย่างกุ้ง เมียนมา ได้เริ่มดำเนินการตอกเสาเข็มเป็นที่เรียบร้อยแล้ว  และมีความคืบหน้าในการก่อสร้างเป็นไปตามแผนที่วางไว้ คาดว่าจะเปิดดำเนินการได้ภายในปลายปีนี้

 

Back to top button