“โนมูระฯ”เชียร์ซื้อ CHAYO ชูหุ้น Growth stock มองกำไรปีนี้โตทะลัก 44% เคาะเป้าสูง 6.20 บ.

“โนมูระฯ” เชียร์ซื้อ CHAYO ชูหุ้น Growth stock มองกำไรปีนี้โตทะลัก 44% เคาะเป้าสูง 6.20 บ.


บล.โนมูระ พัฒนสิน ระบุในบทวิเคราะห์ว่า บริษัท ชโย กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ CHAYO แนะนำซื้อลงทุนด้วยมูลค่าเหมาะสม 6.20 บาท/หุ้น ในฐานะหุ้น Growth stock ที่กำไรมีแนวโน้มเติบโต + 29.3% p.a. CAGR ในช่วง 3 ปีข้างหน้า จากการเข้าสู่ช่วงเก็บเกี่ยวผลกำไร หลังซื้อ NPL เข้าพอร์ตสม่ำเสมอในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา และอยู่ในอุตสาหกรรมที่ได้ประโยชน์จากการเพิ่มขึ้นของหนี้ภาคครัวเรือนเปิดโอกาสดูดซับ NPL เข้าพอร์ตในราคาที่เหมาะสม เพื่อบริหารและนาออกขายในภาวะเศรษฐกิจฟื้นตัว

ปัจจุบัน CHAYO มี D/E Ratio สิ้นงวดไตรมาส 2/62 ต่ำเพียง 0.07x มีศักยภาพในการเติบโตไปกับวัฏจักรขาขึ้นของอุตสาหกรรมได้อีกมาก จึงเริ่มต้นคาแนะนำซื้อด้วย TP20F (Fully diluted) 6.20 บาท/หุ้น

โดย CHAYO ดำเนินธุรกิจหลักเกี่ยวข้องกับการบริหารหนี้เสีย โดย 79% ของรายได้ มาจากธุรกิจซื้อหนี้ ในอดีตบริษัทฯเน้นซื้อหนี้ที่ไม่มีหลักประกัน (Un-secured loan) แต่ด้วยปริมาณ NPL ที่ เพิ่มขึ้นในกลุ่มสินเชื่อที่มีหลักประกัน ทำให้เป็นโอกาสของบริษัทฯ ผนวกกับความชำนาญ ทางด้านอสังหาฯของทีมบริหาร จึงเริ่มรุกตลาดหนี้ที่มีหลักประกัน (Secured loan) ด้วยเงินลงทุนใน Secured loan เพิ่มสูงถึง 80% ของเงินลงทุน 2018 ทั้งหมด โดยหลักประกันส่วนใหญ่ คือบ้านและที่ดิน ถือเป็นตลาดใหญ่สุด 60.6% ของปริมาณ NPL เพื่อการอุปโภค-บริโภคทั้งหมด

คาดกำไรสุทธิปี 2562 เติบโตก้าวกระโดด +44.5% เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อนสู่ระดับ 123.5 ล้านบาท จากรายได้ธุรกิจซื้อหนี้(79% ของรายได้รวม) เข้าสู่ช่วงเก็บเกี่ยวผลกำไร หลังทยอยซื้อหนี้ เสียเข้ามาอย่างต่อเนื่องในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา และแนวโน้มรายได้จากธุรกิจรับบริหารหนี้ (21%ของรายได้รวม) เติบโต +22.4% เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อนที่ 50.7 ล้านบาท

นอกจากนี้บริษัทฯยังเดินหน้าซื้อหนี้เข้าพอร์ตในปี 2562 ส่วนใหญ่เป็นการซื้อหนี้ที่มีหลักประกันด้วยเม็ดเงินอีก 600 ล้านบาท (Conservative จาก company target ที่ 1,000 ล้านบาท) ส่งผลให้มูลหนี้ภายใต้การบริหารเร่งตัวขึ้นเป็น 4.23 หมื่นล้านบาท เติบโตจากปีก่อน ที่ 3.9 หมื่นล้านบาท หนุนกำไรปี 2563โตต่อ + 16.3% เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อนสู่ระดับ 143.6 ล้านบาท

ประเมินมูลค่าเหมาะสมปี 2020F ที่ 6.20 บาท/หุ้น (Fully diluted) ด้วยวิธี PBV อิง PBV Target ที่ 3.7x ซึ่งเป็นระดับ Mean + 1 SD โดยสาเหตุที่ให้ Premium +1SD มาจากแนวโน้มกาไรที่ เติบโตต่อเนื่องขึ้นจากแผนการขายหลักประกันที่อยู่ในพอร์ตที่มีความชัดเจนต่อเนื่องถึงปี 2563

ขณะที่บริษัทฯ ยังเดินหน้าเพิ่ม Secured loan ซึ่งเป็นกลุ่ม NPL ที่มี Market share สูงสุดถึง 60.6% ของปริมาณ NPL เพื่อการอุปโภค-บริโภคทั้งหมด หนุนกำไรเร่งตัวอย่างมีนัยสำคัญในช่วง 3 ปีข้างหน้า + 29.3% ต่อปี CAGR (2019F-2021F)  ขณะที่ Consensus: คาดกำไรปี 2562-2563 มากกว่า Consensus 8% และ 4% จากการให้น้าหนักทิศทาง รายได้จากพอร์ต Secured loan โดยเฉพาะการขายหลักประกันจะมีบทบาทมากในช่วง 2-3 ปีนี้

Back to top button