STI ทุ่มเงินเฉียด 300 ลบ. ซื้อหุ้น “เอเชี่ยน เอ็นจิเนียริ่งฯ” 63.75% เสริมแกร่งธุรกิจ

STI ทุ่มเงินเฉียด 300 ลบ. ซื้อหุ้น "เอเชี่ยน เอ็นจิเนียริ่ง คอนซัลแต้" ผู้นำธุรกิจวิศวกรที่ปรึกษา ในสัดส่วน 63.75% เสริมแกร่งธุรกิจ


นายสมเกียรติ ศิลวัฒนาวงศ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท สโตนเฮ้นจ์ อินเตอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ STI เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทฯ อนุมัติให้ บริษัท สโตนเฮ้นจ์ อินเตอร์ เวนเจอร์ จำกัด หรือ STV ซึ่งเป็นบริษัทย่อยที่จัดตั้งขึ้นใหม่ ซึ่ง STI ถือหุ้นทั้งหมด เข้าลงนามซื้อหุ้นสามัญของ บริษัท เอเชี่ยน เอ็นจิเนียริ่ง คอนซัลแต้นส์ จำกัด (AEC) จำนวน 344,250 หุ้น หรือ 63.75% ของหุ้นที่ออกและจำหน่ายแล้วทั้งหมดของบริษัท เอเชี่ยน เอ็นจิเนียริ่ง คอนซัลแต้นส์ ในราคาหุ้นละ 799 บาท คิดเป็นมูลค่าลงทุนทั้งสิ้น 275.06 ล้านบาท จากผู้ถือหุ้นเดิม

โดยกำหนดเข้าลงนามในสัญญาซื้อขายหุ้นแบบมีเงื่อนไขภายในมีนาคม 2563 นี้ และดำเนินการชำระราคา พร้อมทั้งโอนหุ้นแล้วเสร็จภายในไตรมาส 2/63 แหล่งเงินที่ใช้ในการลงทุนครั้งนี้ มาจากเงินที่ได้จากการเพิ่มทุน (IPO) ในช่วงที่ผ่านมา จำนวน 135.06 ล้านบาท และเงินกู้ยืมจากสถาบันการเงินราว 140 ล้านบาท

“STI เล็งเห็นถึงโอกาสที่เพิ่มขึ้นจากการเข้าลงทุนในครั้งนี้ นับเป็นอีกบิ๊กดีลที่เข้ามาขยายการเติบโต และเพิ่มศักยภาพการขยายงานของ STI ไปยังธุรกิจที่ปรึกษาโครงสร้างพื้นฐาน (Infrastructure) ของภาครัฐบาล ลดความเสี่ยงจากการพึ่งพิงรายได้หลักในงานอสังหาริมทรัพย์ของภาคเอกชน สอดรับกับกลยุทธ์ในช่วงที่ผ่านมา และสนับสนุนผลการดำเนินงานให้เติบโตก้าวกระโดดได้ ขณะเดียวกัน AEC มีฐานลูกค้าเป็นหน่วยงานภาครัฐจำนวนมาก จึงคาดว่า ในปีนี้ภาพการขยายงานของเราจะยิ่งชัดเจน และจะเห็นสัดส่วนงานของ STI ในกลุ่มภาครัฐเพิ่มขึ้น จากปัจจุบัน STI มีสัดส่วนงานภาคเอกชน 76% ภาครัฐบาล24%” 

อนึ่ง บริษัท เอเชี่ยน เอ็นจิเนียริ่ง คอนซัลแต้นส์ จำกัด ประกอบธุรกิจวิศวกรที่ปรึกษา มีทุนจดทะเบียนและเรียกชำระแล้วเท่ากับ 54 ล้านบาท โดยปัจจุบันมีบุคลากรผู้มีความเชี่ยวชาญ มีพนักงานราว 567 คน ซึ่งเป็นวิศวกรที่มีใบอนุญาต 217 คน แบ่งขอบเขตงานที่ให้บริการหลัก ได้แก่ งานศึกษาและออกแบบแผนงาน งานควบคุมงานก่อสร้าง งานบริหารโครงการ และ งานศึกษาและวิเคราะห์โครงการ โดยมีธุรกิจหลักมาจากงานบริหารโครงการและควบคุมงานก่อสร้างของภาครัฐเป็นหลัก โดยผลงานที่โดดเด่นในช่วงที่ผ่านมา  ได้แก่ งานที่ปรึกษาโครงการสะพานภูมิพล (หรือสะพานวงแหวนอุตสาหกรรม), โครงการรถไฟฟ้าสายสีม่วง, โครงการท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ เป็นต้น

นอกจากนี้ เอเชี่ยน เอ็นจิเนียริ่ง คอนซัลแต้นส์ มีความแข็งแกร่งในธุรกิจมามากกว่า 40 ปี ทำให้ผลประกอบการในช่วงที่ผ่านมามีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง ล่าสุด ณ 30 มิถุนายน 2562 มีรายได้ค่าธรรมเนียมให้คำปรึกษา เกือบ 800 ล้านบาท กำไรสุทธิอยู่ที่ 51.09 ล้านบาท ทำให้ STI จะสามารถรับรู้รายได้และผลการดำเนินงานของบริษัท เอเชี่ยน เอ็นจิเนียริ่ง คอนซัลแต้นส์ ภายหลังการเข้าลงทุน รวมถึงการประหยัดต่อขนาด (Economy of Scale) ในการควบคุมต้นทุนและค่าใช้จ่ายของทั้งสองบริษัท ที่สำคัญ สามารถต่อยอดธุรกิจให้กลุ่ม STI พร้อมที่จะขยายงานไปในส่วนงานที่เป็นโอกาสมากขึ้น พร้อมรับเม็ดเงินการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานของภาครัฐ

อย่างไรก็ดี ภาพรวมธุรกิจปี 2562 ของ STI มีรายได้จากการให้บริการ 712.3 ล้านบาท  มีกำไรสุทธิอยู่ที่ 85.5 ล้านบาท ในปี 2563 ตั้งเป้ารายได้เติบโตไม่ต่ำกว่า 10% ปัจจุบัน STI มีงานในมือที่รอรับรู้เป็นรายได้ (Backlog) กว่า 2,000 ล้านบาท แบ่งเป็นสัดส่วนงานในมือจากภาคเอกชน 76% และงานภาครัฐ 24% ทั้งนี้ตัวเลขเป้าการเติบโตของรายได้ดังกล่าวเป็นตัวเลขที่ยังไม่รวมการรับรู้รายได้ของบริษัท เอเชี่ยน เอ็นจิเนียริ่ง คอนซัลแต้นส์ จำกัด ที่จะมีขึ้นภายหลังการเข้าลงทุนสำเร็จ

Back to top button