FLOYD มั่นใจผลงานปี 63 โตต่อ รับรู้แบ็กล็อก 232 ลบ.-รุกหาพันธมิตรเสริมแกร่ง

FLOYD มั่นใจผลงานปี 63 โตต่อ รับรู้แบ็กล็อก 232 ลบ.-รุกหาพันธมิตรเสริมแกร่ง


นายทศพร จิตตวีระ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ฟลอยด์ จำกัด (มหาชน) หรือ FLOYD เปิดเผยถึง ภาพรวมธุรกิจในช่วงไตรมาส 2/2563 มีแนวโน้มเติบโตกว่าไตรมาสแรก โดยคาดว่ายังมีธุรกิจที่เตรียมขยายงานโครงการต่าง ๆ พร้อมรับโอกาสหลังการแพร่ระบาดของไวรัสคลี่คลายอย่างต่อเนื่อง ส่งผลดีต่อบริษัทฯ ซึ่งเป็นหนึ่งในผู้รับเหมาติดตั้งงานวางระบบครบวงจร ที่ได้รับการยอมรับทั้งในเรื่องคุณภาพงานและการบริการที่รวดเร็ว

อีกทั้งบริษัทฯ มุ่งเน้นการควบคุมต้นทุนบริการและค่าใช้จ่ายในการบริหาร ให้ความสำคัญในการพัฒนาบุคลากร เพื่อพร้อมรับการเติบโตหลังสถานการณ์โควิด-19 คลี่คลาย และการขยายไปยังฐานลูกค้ากลุ่มใหม่ ๆ

ทั้งนี้ แม้ในช่วงไตรมาสแรกของปีนี้ ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์วิกฤตในประเทศ ทำให้ผลประกอบการ  ไตรมาส 1/2563 บริษัทฯ มีรายได้จากการให้บริการ 39.06 ล้านบาท ลดลง 95.06 ล้านบาท หรือลดลง 70.88% จากงวดเดียวกันของปีก่อนอยู่ที่ 134.12 ล้านบาท บริษัทฯขาดทุนสุทธิ 5.12 ล้านบาท สาเหตุสำคัญมาจาก การเปลี่ยนแปลงของรายได้จากโครงการแนวราบและภาวะเศรษฐกิจในประเทศชะลอตัวต่อเนื่องจากปี 2562 ประกอบกับสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ทำให้ผู้ประกอบการทั้งแนวสูงและแนวราบชะลอการเปิดโครงการและรอจังหวะที่เหมาะสมในการเปิดโครงการใหม่

โดยในช่วงต้นเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา บริษัทฯ ประกาศได้รับงานใหม่ รวมมูลค่าราว 164 ล้านบาท เป็นงานระบบวิศวกรรมระบบประกอบอาคารทั้งหมด 2 โครงการ ได้แก่ งานโครงการก่อสร้างศูนย์การค้า โฮมโปร สาขาสุขสวัสดิ์ และโครงการก่อสร้างของบริษัท เบอร์ลี่ ยุคเกอร์ จำกัด (มหาชน) ซึ่งจะทยอยรับรู้รายได้ภายในปีนี้ นับเป็นสัญญาณบวกที่ดี และสนับสนุนให้ปัจจุบัน บริษัทฯ มีงานในมือ (Backlog) รวมอยู่ที่ 231.55 ล้านบาท และจะทยอยรับรู้รายได้ส่วนใหญ่ในปีนี้

ด้านทีมผู้บริหารพร้อมเดินหน้าประมูลงานใหม่อย่างต่อเนื่อง ชูจุดเด่นการเป็นผู้ให้บริการรับเหมางานด้านวิศวกรรมระบบสาธารณูปโภค และเครื่องกลแบบครบวงจร ที่ได้รับความไว้วางใจจากลูกค้าและพันธมิตรมายาวนาน อีกทั้ง บริษัทมีเงินสดและสภาพคล่องค่อนข้างดี มีโอกาสและความพร้อมรับการขยายงานก่อสร้างในโครงการและสาขาใหม่ที่คาดว่าจะทยอยออกมามากขึ้นในช่วงครึ่งปีหลัง และมองว่าหลายธุรกิจจะเริ่มกลับมาทยอยการลงทุน ขณะที่ความคืบหน้าการเจรจาหาพันธมิตรเพื่อแตกไลน์ธุรกิจ  คาดได้ความชัดเจนภายในเร็วๆ นี้ ซึ่งจะสนับสนุนภาพรวมธุรกิจทั้งปีเติบโตต่อเนื่องจากปีที่ผ่านมา

อย่างไรก็ดี แผนการก่อสร้างอาคารสำนักงานและศูนย์ฝึกอบรม คาดจะแล้วเสร็จภายในไตรมาส 3/2563 เพื่อเตรียมความพร้อมรับโอกาสในการเติบโต

Back to top button