
Daily view (PM) – บล.กสิกรไทย
บริษัทหลักทรัพย์ กสิกรไทย สรุปทิศทางและแนวโน้มตลาดบ่ายนี้
เคาะกลยุทธ์ลงทุนบ่าย
สรุปภาวะตลาดเช้า
– SET Index ปรับตัวลงแรงกว่าตลาดภูมิภาคจากเหตุระเบิดที่ราชประสงค์เมื่อวานนี้ โดยปิดภาคเช้าที่ระดับ 1,380.66 จุด -28.08 จุด (+0.19%) ด้วยมูลค่าการซื้อขายสูงถึง 37,828.51 ลบ.
– Most Positive Impact: U (+0.59 จุด)/ DELTA (+0.20 จุด)/ SUPER (+0.10 จุด)
– Most Negative Impact: PTT (-3.02 จุด)/ AOT (-2.87 จุด)/ CPN (-1.43 จุด)
จุดสังเกต: หุ้นใหญ่ในกลุ่ม Energy, Transport และ BANK เป็นหุ้นกลุ่มหลักกดดันดัชนี ทั้งนี้หุ้น AOT มีปริมาณการซื้อขายภาคเช้าสูงถึง 7.3 พันลบ. มากที่สุดเป็นประวัติการณ์
แนวโน้มตลาดบ่าย
– “เคลื่อนไหวในกรอบ 1,375-1,390” แม้ประเด็นบวกเรื่องการปรับ ครม.ใหม่จะหนุนจิตวิทยาตลาดเป็นบวกได้บ้าง แต่ไม่สามารถหักล้างผลกระทบจากเหตุระเบิดที่แยกราชประสงค์ค่ำวานนี้ ซึ่งเป็นปัจจัยลบที่มีโอกาสกดดันให้นักลงทุนต่างชาติเทขายหุ้นไทย ทำให้ SET Index ในช่วงบ่ายน่าจะยังคงเคลื่อนไหวแดนลบในกรอบ 1,375-1,390 จุด โดยภาพตลาดระยะสั้น เรายังให้ระมัดระวังความเสี่ยงทางลง (downside 1,370 และ 1,350) จาก 1) การปรับลดคาดการณ์กำไรของบริษัทจดทะเบียน, 2) การฟื้นตัวทางเศรษฐกิจที่ล่าช้าและมีโอกาสหดตัว หลังเกิดเหตุระเบิดเมื่อวานนี้ และ 3) การเริ่มขึ้นอัตราดอกเบี้ยของสหรัฐฯ (แนวต้าน: 1,385 และ 1,390 // แนวรับ: 1,375 และ 1,370)
– หุ้นแนะนำภาคบ่าย: KTB (ราคาปัจจุบันซื้อขายที่เพียงมูลค่าทางบัญชี มีโอกาสได้ประโยชน์ในฐานะกลไกกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาล, เป้าทางกลยุทธ์ 19.50 ตัดขาดทุน 16.90), SAMART (ผลการดำเนินงานผ่านจุดต่ำสุด และมีโอกาสผลักดันโครงการ APPS ให้กับ AOT หลังเกิดวินาศกรรมที่ราชประสงค์, เป้าทางกลยุทธ์ 23.00 ตัดขาดทุน 19.20), ADVANC (เรามองราคาแถว 230+/- อยู่บริเวณ 15x PER ซึ่งสะท้อนระดับค่าเฉลี่ยของการซื้อขายระยะยาวแล้ว, เป้าทางกลยุทธ์ 240 ตัดขาดทุน 229)
– หุ้นใหญ่น่าสนใจเชิงกลยุทธ์: SAMART DTAC KTB BBL TISCO TCAP
– หุ้นเล็กเก็งกำไรเชิงกลยุทธ์: TPOLY EMC TTA CEN (ตั้งจุดตัดขาดทุน 3-5%)
คำแนะนำ
กลยุทธ์: “เลือกหุ้นเน้นจำกัด downside” SET Index ถอยลงมาทดสอบ 1,365-1,380 ซึ่งเป็นระดับที่สะท้อนปัจจัยลบระยะสั้นแล้ว และน่าจะเริ่มเห็นการตั้งหลักและฟื้นตัวจากบริเวณดังกล่าว โดยหุ้นในกลุ่มที่ได้รับผลกระทบทางตรงจากเหตุระเบิด (กลุ่มท่องเที่ยว) ยังมีความเสี่ยงทางลงที่สูงและต้องใช้เวลาในการฟื้น (ขายลดหรือไม่รีบซื้อ) โดยเฉพาะหลังทางการหลายประเทศ อาทิ ฮ่องกง ออสเตรเลีย ยกระดับคำเตือนการเดินทางมาประเทศไทย ดังนั้น กลุ่มที่น่าสนใจในการเสี่ยงซื้อลุ้นฟื้นตัวเรามองสื่อสารและธนาคารน่าสนใจจากความเสี่ยงที่จำกัด
Trading Idea
– ผลกระทบจากการที่เงินบาทอ่อนค่า: (+) หุ้นที่ได้ประโยชน์อ CFRESH, HANA, SAPPE, TUF, SVI, DELTA, KCE / (-) หุ้นที่ได้รับผลเชิงลบคือ THAI และ AAV
– Opportunity day: 18 ส.ค. WHA ADVANC THCOM INTUCH FSMART BAFS SPALI / 19 ส.ค. ROBINS BANPU KTC PYLON TK SVI IRPC
ประเด็นจับตา/ติดตาม
– (-) แรงขายของนักลงทุนต่างชาติ หลังเหตุระเบิดแยกราชประสงค์เมื่อค่ำวานนี้
– (-) ทิศทางราคาน้ำมันที่ยังอ่อนแอและมีโอกาสร่วงลงต่อ
– (+) รายชื่อ ครม.ใหม่ ช่วยฟื้นฟูความเชื่อมั่นรัฐบาลหนุนจิตวิทยาตลาดหุ้นเป็นบวกระยะสั้น