“มอร์แกน สแตนลีย์” หั่นโหด AOT เหลือ 40 บาท ชี้อุ้ม “คิงเพาเวอร์” ทำกำไรหดถึงปี 75

"มอร์แกน สแตนลีย์" หั่นโหด AOT เหลือ 40 บาท ชี้อุ้ม "คิงเพาเวอร์" ทำกำไรหดถึงปี 75


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า Morgan Stanley (มอร์แกน สแตนลีย์) บริษัทหลักทรัพย์เพื่อการลงทุน และที่ปรึกษาทางการเงิน ได้ปรับลดราคาเป้าหมายของบริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) หรือ AOT เหลือ 40 บาท/หุ้น  จากเดิม 59 บาท/หุ้น และยังคงคำแนะนำ “ขาย”

โดยกรณีแย่ที่สุดให้ราคาเป้าหมายของ AOT ที่ 25 บาท หากจำนวนผู้โดยสารต่างชาติลดลงกว่าที่คาด 2% จากเป้าหมายที่ 66 ล้านคนในปี 2569-2570 และมีการลดต้นทุนที่จำกัด ประกอบกับค่าใช้จ่ายในการลงทุนซื้อสินทรัพย์ (CAPEX ที่อยู่ในระดับสูง

ส่วนกรณีดีที่สุดให้ราคาเป้าหมายหุ้นของ AOT ที่ 66 บาท จากจำนวนผู้โดยสารระหว่างประเทศเพิ่มขึ้นเร็วกว่าคาดราว 5% และมีต้นทุนการดำเนินงานที่น้อยลง ประกอบกับ CAPEX ที่ล่าช้าออกไป

ทั้งนี้ การปรับลดราคาเป้าหมายลงในครั้งนี้เป็นผลจากสัญญาประกอบกิจการจำหน่ายสินค้าปลอดอากร ณ ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ,ท่าอากาศยานภูเก็ต,ท่าอากาศยานเชียงใหม่ ,ท่าอากาศยานหาดใหญ่ ฉบับใหม่ ซึ่ง AOT อนุมัติตามมาตรการช่วยเหลือผู้ประกอบการในสนามบินจากผลกระทบจากสถานการณ์โควิด-19 โดยมีการเปลี่ยนวิธีการเก็บเงินการันตีขั้นต่ำจากกลุ่ม “คิงพาวเวอร์” ผู้รับสัมปทานดิวตี้ฟรี และสัมปทานบริหารจัดการพื้นที่ในสนามบิน นั้น จะส่งผลกระทบต่อกำไรระยะสั้นและระยะยาวของ AOT รวมถึงกระแสเงินสดที่จะลดลงไปจนถึงปี 2575

โดยคาดว่า AOT จะขาดรายได้ 8 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 2.48 แสนล้านบาท ตลอดช่วงระยะเวลาสัมปทาน 12 ปี เนื่องจากการที่จะทำให้รายได้ของ AOT ในสัญญาใหม่ ซึ่งนับจากจำนวนผู้โดยสารระหว่างประเทศ กลับมาเทียบเท่ารายได้เดิมจากเงินการันตีขั้นต่ำ ผู้โดยสารระหว่างประเทศจะต้องมีจำนวนสูงถึง 66 ล้านคน หรือ 27% หรือสูงกว่าตัวเลขผู้โดยสารในปี 2562 ซึ่งคาดว่าจะเกิดขึ้นราวปี 2569-2570

ทั้งนี้คาดว่าตัวเลขผู้โดยสารระหว่างประเทศจะกลับมาเท่ากับช่วงก่อนเกิดสถานการณ์เชื้อไวรัสโควิด-19 แพร่ระบาด มีจำนวนผู้โดยสารระหว่างประเทศได้ปลายปี 2564 (โดยในช่วงปี 2562 มีจำนวน 52 ล้านคน) ดังนั้น หากต้องการให้รายได้กลับมาเหมือนเดิมภายในปี 2569 อัตราการเติบโตเฉลี่ย (CAGR) ด้านการจราจร (Traffic) ของ AOT จะต้องเพิ่มขึ้น 5%

อีกทั้ง มองว่าสัญญาใหม่จะกระทบต่อมูลค่าต่อนักท่องเที่ยวต่างชาติขาเข้าลดลง 35% มาอยู่ที่ประมาณ 1,500 บาท/คน ซึ่งจะส่งผลให้กระแสเงินสดสุทธิของ AOT ลดลงราว 40% และคาดว่า AOT จะมีรายได้ที่ต่ำกว่าที่ตลาดคาดการณ์ไว้ อีกทั้งยังเกิดความไม่แน่นอนของรายได้ เนื่องจากขึ้นอยู่กับจำนวนผู้โดยสารระหว่างประเทศ ประกอบกับ CAGR การเติบโตของรายได้ในปี 2564-2569 ตกลงมาอยู่ที่ 9% จาก 14% ในช่วงปี 2557-2562

Back to top button