TMI ทะยานต่อเนื่อง! บวกอีก 10% นิวไฮรอบ 4 ปี ลุ้นรายได้ปีนี้โต 20% มี.ค.นี้ขายไฟเพิ่ม

TMI ทะยานต่อเนื่อง! บวกอีก 10% นิวไฮรอบ 4 ปี ลุ้นรายได้ปีนี้โต 20% มี.ค.นี้ขายไฟเพิ่ม


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า บริษัท ธีระมงคล อุตสาหกรรม จำกัด (มหาชน) หรือ ณ เวลา 10.38 น.อยู่ที่ระดับ 1.36 บาท บวก 0.13 บาท หรือ 10.57% ด้วยมูลค่าซื้อขาย 50.59 ล้านบาท ราคาหุ้นวิ่งแรงในรอบ 4 ปี  โดยเทียบตั้งแต่หุ้นยืนที่ระดับ 1.38 บาท เมื่อวันที่ 24 ก.พ.2560

นายธีระชัย ประสิทธิ์รัตนพร กรรมการผู้จัดการ TMI เปิดเผยว่า กรณีที่ราคาหุ้น TMI ปรับขึ้น คาดน่าจะมาจากปัจจัยบวกเรื่องผลประกอบการที่มีแนวโน้มเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยในไตรมาส 1/2564 มีทิศทางที่ดีกว่าไตรมาสก่อน และช่วงเดียวกันของปีก่อน จากทั้งธุรกิจผลิตและจำหน่ายอุปกรณ์ส่องสว่าง และธุรกิจโรงไฟฟ้า ขณะที่ทั้งปี 2564 วางเป้ารายได้เติบโต 20% จากปีก่อน ซึ่งน่าจะทำให้มีความสามารถในการทำกำไรได้เพิ่มขึ้น

สำหรับธุรกิจโรงไฟฟ้า บริษัทมีแผนที่จะเดินเครื่องผลิตไฟฟ้าเข้าระบบเชิงพาณิชย์ (COD) โครงการโรงไฟฟ้าก๊าซชีวภาพ ที่ จ.สมุทรสาคร ขนาดกำลังการผลิต 1 เมกะวัตต์ (MW) ซึ่งเป็นโรงไฟฟ้าแห่งที่ 2 ในช่วงเดือนมีนาคม 2564 จะส่งผลให้มีกำลังการผลิตเพิ่มเป็น 2.4 เมกะวัตต์ จากเดิมที่มีการ COD โรงไฟฟ้าก๊าซชีวภาพ 1 แห่ง ที่ จ.ชุมพร ขนาดกำลังการผลิต 1.4 เมกะวัตต์ ไปแล้ว และน่าจะทำให้มีรายได้จากการขายไฟฟ้าเพิ่มเข้ามาประมาณ 20 ล้านบาท

นอกจากนี้ ในช่วงปลายปี 2564 บริษัทมีแผนที่จะ COD โรงไฟฟ้าก๊าซชีวภาพ แห่งที่ 3 ใน จ.สุพรรณบุรี ขนาดกำลังการผลิต 3 เมกะวัตต์ โดยน่าจะเป็นในช่วงไตรมาส 4/2564 ก็น่าจะช่วยทำให้ผลประกอบการมีการเติบโต เนื่องจากโรงไฟฟ้ามีรายได้ที่แน่นอนกว่าธุรกิจผลิตและจำหน่ายอุปกรณ์ส่องสว่าง ขณะเดียวกันบริษัทยังอยู่ระหว่างการศึกษาโครงการโรงไฟฟ้าชุมชนของภาครัฐ และโครงการเมกะโซลาร์ของกองทัพบก แม้ว่าจะยังไม่มีความชัดเจนในขณะนี้ แต่ก็มีการศึกษาเพื่อจะได้เตรียมความพร้อมไว้ก่อน

ด้านธุรกิจผลิตและจำหน่ายอุปกรณ์ส่องสว่าง ปัจจุบันตลาดในประเทศไทยยังทรงตัว ส่วนการส่งออกสินค้าไปต่างประเทศมากขึ้น หลังจากได้รับออเดอร์ต่อเนื่องถึงสิ้นปี 2564 จากลูกค้าในประเทศสหรัฐอเมริกา ทำให้โรงงานมีการใช้กำลังการผลิตได้ราว 70% และยังมีความสามารถที่จะเพิ่มกำลังการผลิตได้อีก แต่เรือมีตู้ในการขนส่งสินค้าจำกัด เนื่องจากสถานการณ์โควิด-19 อย่างไรก็ตามคาดว่าจะมีแนวโน้มที่ดีขึ้นเรื่อย ๆ

ก่อนหน้านี้ นายธีระชัย กล่าวว่า ผลการดำเนินงานในปี 2563 บริษัทมีกำไรสุทธิ 14.09 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 264.25% จากปี 2562 ที่มีขาดทุนสุทธิ 8.58 ล้านบาท ขณะที่มีรายได้รวม 447.86 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 14.25% จากปี 2562 ที่มีรายได้รวมอยู่ที่ 392 ล้านบาท

โดยบริษัทมีรายได้หลักจากการขายและบริการอยู่ที่ 412.27 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 18.64% จากปี 2562 ที่มีรายได้อยู่ที่ 347.49 ล้านบาท เนื่องจากมีการส่งออกสินค้าไปยังต่างประเทศเพิ่มขึ้น ประกอบกับมีผลิตภัณฑ์ใหม่ออกสู่ตลาดมากขึ้น จากการเปิดตัวสินค้าใหม่ 4 รายการ ได้แก่ หลอดไฟฆ่าเชื้อโรค, โคมไฟฆ่าเชื้อโรค, โคมไฟโซลาร์สปอร์ตไลท์ และโคมไฟโซลาร์ติดถนน ได้ผลตอบรับจากตลาดเป็นอย่างดี จึงส่งผลให้รายได้จากการขายรวมปรับเพิ่มสูงขึ้นจากปี 2562

Back to top button