“ตู่” ทุ่ม 7.5 พันลบ. เยียวยาล็อกดาวน์ 6 จังหวัด-คนละครึ่งเฟส 3 ไม่เลื่อน พร้อมโอน 1 ก.ค.

ผู้สื่อข่าวรายงาน วันนี้ 28 มิถุนายน 2564 ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี แถลงภายหลังประชุมร่วมกับทีมเศรษฐกิจของรัฐบาลว่า  รัฐบาลได้เตรียมงบประมาณจำนวน 7,500 บาท ในการเยียวยากลุ่มที่ได้รับผลกระทบ จากประกาศ ศบค.ฉบับที่ 25 หรือฉบับล่าสุด

ซึ่งมีประชาชนเดือดร้อนในภาคแรงงาน 6 จังหวัด ประกอบด้วย กทม และปริมณฑล หรือ พื้นที่สีแดง (พื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด)  ซึ่งจะแก้ปัญหาตรงนี้ก่อน  ด้วยการจ่ายค่าแรงให้ 50% เป็นเวลา 1 เดือน จากเหตุสุดวิสัย ส่วนมาตรการอื่นๆ จะดำเนินการต่อไปเช่นกันให้ทั่วถึงในหลายกิจการ ที่อาจจะมีมาตรการใหม่ๆ เพิ่มเติมจากมาตรการใหม่ที่มี อาทิ คนละครึ่งเฟส 3 และ ยิ่งใช้ยิ่งได้

ทั้งนี้ สำหรับโครงการคนละครึ่งเฟส 3 เป็นโครงการเพื่อกระตุ้นการจับจ่ายใช้สอยภายในประเทศ บรรเทาภาระค่าใช้จ่ายให้ประชาชน และช่วยเพิ่มสภาพคล่องให้ร้านค้ารายย่อย เป็นการสนับสนุนเศรษฐกิจฐานรากและฟื้นฟูเศรษฐกิจของประเทศในองค์รวมซึ่งกระทรวงการคลังเริ่มเปิดให้ลงทะเบียนมาตั้งแต่ วันที่ 14 มิ.ย. 64 และกำลังจะเปิดให้ใช้สิทธิได้ระหว่างวันที่ 1 ก.ค. 64-31 ธ.ค. 64

โดยกระทรวงการคลัง จะโอนเงินเข้าแอพพลิเคชัน ‘เป๋าตัง’ ให้ผู้ได้สิทธิ ในวันที่ 1 ก.ค.2564 วงเงิน 1,500 บาท และ วันที่ 1 ต.ค. วงเงิน 1,500 บาท รวม 3,000 บาทตลอดโครงการ ตามกรอบเดิมที่คณะรัฐมนตรี (ครม.) ได้เห็นชอบไว้  และขณะนี้ ยังคงเหลือสิทธิกว่า 2.5 ล้านสิทธิ จากทั้งหมด 31 ล้านสิทธิ  ดังนั้น โครงการคนละครึ่งเฟส 3 ยังคงดำเนินการตามกำหนดการเดิม ไม่มีการเลื่อนแต่อย่างใด

ด้านนายดนุชา พิชยนันท์ เลขาธิการสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและ สังคมแห่งชาติ(สศช.)  ได้ชี้แจงถึงมาตรการเยียวยา 6 จังหวัด ที่ได้รับผลกระทบจากประกาศศบค.ฉบับที่ 25 ในพื้นที่ 6 จังหวัด

โดยในส่วนของประกันสังคมจะแบ่งเป็นดังนี้ 

ลูกจ้าง

* ประกันสังคมจะจ่ายในกรณีเหตุสุดวิสัย 50% ของฐานเงินเดือนให้กับลูกจ้าง แต่สูงสุดไม่เกิน 7,500 บาท เป็นเวลา 1 เดือน

* ประกันสังคมจ่ายเงินเพิ่มเติมอีก 2,000 บาท ต่อคน สำหรับลูกจ้างในระบบประกันสังคมเพื่อเป็นค่าใช้จ่าย รวมเป็นเวลา 1 เดือน

นายจ้าง

* ประกันสังคมจ่ายเงินช่วยเหลือให้กับผู้ประกอบการหรือนายจ้าง จำนวน 3000 บาท/หัวของจำนวนลูกจ้าง แต่ไม่เกิน 200 คน ซึ่งส่วนนี้ประกันสังคมจะจ่ายให้กับผู้ประกอบการ เป็นเวลา 1 เดือน

ส่วนลูกจ้างและผู้ประกอบการ นอกระบบประกันสังคม จะดำเนินการ 2 เรื่อง 

1. กรณีผู้ประกอบการที่ยังไม่ได้อยู่ในระบบประกันสังคม แต่ต้องการรับความช่วยเหลือ 3,000 บาท ขอให้รีบขึ้นทะเบียนเพื่อเข้าระบบประกันสังคม โดยจะอำนวยความสะดวกให้อย่างเต็มที่ เพื่อรับเงิน 3000 บาทเช่นกัน
2. ลูกจ้างนอกระบบประกันสังคม(เฉพาะคนไทย) เมื่อนายจ้างขึ้นทะเบียนประกันสังคม จะได้รับเงินช่วยเหลือ  2,000 บาท แต่กลุ่มนี้จะไม่ได้รับเงินช่วยเหลือกรณีสุดวิสัย 50%

อย่างไรก็ตาม เลขาสภาพัฒน์ กล่าวด้วยว่า กรณีที่ผู้ประกอบการที่เข้าประกันสังคมไม่ได้ ให้ลงทะเบียนร้านค้าผ่านแอปพลิเคชั่นถุงเงิน ตามประเภทของกิจการ เพื่อรับเงินช่วยเหลือเยียวยา 3,000 บาท ในการลงทะเบียนร้านค้า และรับสิทธิ์ในโครงการต่างๆของรัฐบาลด้วย

สำหรับมาตรการคนละครึ่งเฟส 3 จะเริ่มใช้จ่ายได้ตั้งแต่วันที่ 1 ก.ค. โดยรัฐจะสมทบค่าใช้จ่ายให้ 50 เปอร์เซ็นต์ แต่ไม่เกิน 150 บาทต่อวัน โดยวงเงินที่เหลือในแค่ละวันสามารถทบไปใช้ได้จนสิ้นสุดอายุมาตราการ