UAC ผ่านเกณฑ์ “โรงไฟฟ้าชุมชน” 2 โครงการ 6 เมกะวัตต์ ลุ้นรอบตัดเชือก 2 ก.ย.

UAC ผ่านเกณฑ์ "โรงไฟฟ้าชุมชน" 2 โครงการ 6 เมกะวัตต์ ประกอบด้วย บริษัทยูเอซี แอนด์ ทีพีที เอ็นเนอร์ยี่ จำกัด และ บริษัท เอ็นเนอร์ยี่ ครอป พาวเวอร์ 4 จำกัด ลุ้นรอบตัดเชือก 2 ก.ย.นี้


นายชัชพล ประสพโชค ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการ บริษัท ยูเอซี โกลบอล จำกัด (มหาชน) หรือ UAC เปิดเผยว่า บริษัทย่อยของบริษัทฯ ทั้ง 2 บริษัท ผ่านการพิจารณาคุณสมบัติและคำเสนอขอขายไฟฟ้าทางเทคนิค จากการผลิตโรงไฟฟ้าประเภทชีวภาพ จำนวน 2 โครงการ ประกอบด้วย บริษัทยูเอซี แอนด์ ทีพีที เอ็นเนอร์ยี่ จำกัด ที่ตั้ง ตำบล นาฝาย อำเภอภูผาม่าน จังหวัดขอนแก่น และ บริษัท เอ็นเนอร์ยี่ ครอป พาวเวอร์ 4 จำกัด ที่ตั้ง ตำบลหนองโก อำเภอบรบือ จังหวัดมหาสารคาม ซึ่งมีกำลังการผลิตไฟฟ้ารวมราว 6 เมกะวัตต์

“UAC ยื่นประมูลไปทั้งสิ้น 6 โครงการ กำลังการผลิตไฟฟ้ารวม 18 เมกะวัตต์ เฉลี่ยโครงการละ 3 เมกะวัตต์ และผ่านคุณสมบัติ 2 โครงการ ส่วนอีก 4 โครงการที่ไม่ผ่านเกณฑ์ บริษัทฯ อยู่ระหว่างการตรวจสอบสาเหตุ และจะยื่นอุทธรณ์ในลำดับต่อไป ซึ่งคาดว่ากระบวนการพิจารณาจะเกิดขึ้นอีกครั้งในช่วง 1 เดือนถึงเดือนครึ่ง ก่อนจะแข่งขันในเชิงพาณิชย์ได้จริงช่วงประมาณเดือนก.ย.นี้” นายชัชพล กล่าว

ทั้งนี้ภายหลังการพิจารณาจากยื่นอุทธรณ์แล้วเสร็จทาง กฟภ. จะประกาศรายชื่อผู้ผ่านการคัดเลือกเข้าร่วมโครงการภายในวันที่ 9 ก.ย.64 และกำหนดลงนามสัญญาซื้อขายไฟฟ้าภายใน 120 วัน นับจากวันประกาศรายชื่อผู้ผ่านการคัดเลือก หรือภายในวันที่ 31 ธ.ค.64 และกำหนดจ่ายไฟฟ้าเข้าระบบเชิงพาณิชย์ (COD) ภายในวันที่ 31 ธ.ค.67

อย่างไรก็ตาม บริษัทฯ มีความพร้อมด้านนวัตกรรมเทคโนโลยี รวมถึงประสบการณ์ความเชี่ยวชาญในธุรกิจพลังงานจากก๊าซชีวภาพมากว่า 10 ปี และยังมีโรงไฟฟ้าต้นแบบอยู่ที่ อ.แม่แตง จ.เชียงใหม่ ซึ่งถือเป็นโครงการนำร่อง พร้อมทั้งยังได้ร่วมมือกับทางวิสาหกิจชุมชนในพื้นที่ในการจัดหาเชื้อเพลิงจะต้องมีสัญญารับซื้อเชื้อเพลิงในราคาประกันกับวิสาหกิจชุมชน หรือเครือข่ายวิสาหกิจชุมชนตามเงื่อนไขที่ภาครัฐกำหนดไว้ ซึ่งจากศักยภาพดังกล่าวเป็นการการันตีได้กว่า UAC เป็นกำลังสำคัญในการส่งเสริมและสนับสนุนเศรษฐกิจในระดับฐานรากเติบโตอย่างแข็งแกร่งและยั่งยืนในอนาคตต่อไป

“UAC มีศักยภาพและความพร้อม ทั้งเทคโนโลยี แหล่งเงินทุน รวมถึงด้านเชื้อเพลิง ที่สำคัญยังมีประสบการณ์ในอุตสาหกรรมพลังงานทดแทนและพลังงานทางเลือก และยังมีเครือข่ายความร่วมมือจากกลุ่มวิสาหกิจชุมชน ดังนั้นจึงเชื่อว่าจากปัจจัยดังกล่าว UAC พร้อมที่จะเป็นที่ปรึกษาช่วยต่อยอดและผลักดันภาพรวมธุรกิจโรงไฟฟ้าชุมชนก๊าซชีวภาพพืชพลังงานของพันธมิตรทุกราย ให้เติบโตอย่างยั่งยืนมีนัยสำคัญในอนาคต” นายชัชพล กล่าว

Back to top button