SDC ซิลลิ่ง! คาดเก็งกำไรเทคนิคขาขึ้น-ลุ้นผลงานปีนี้เทิร์นอะราวด์

SDC ซิลลิ่ง! โดย ณ เวลา 16.06 น. อยู่ที่ 0.59 บาท บวก 0.13 บาท หรือ 28.26%คาดเก็งกำไรเทคนิคขาขึ้น-ลุ้นผลงานปีนี้เทิร์นอะราวด์


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้(9 ส.ค.64) ราคาหุ้นบริษัท สามารถ ดิจิตอล จำกัด (มหาชน) หรือ SDC  ณ เวลา 16.06 น. อยู่ที่ 0.59 บาท บวก 0.13 บาท หรือ 28.26% โดยราคาหุ้นพุ่งซิลลิลของวันที่ระดับ 0.59 บาท ด้วยมูลค่าซื้อขาย 95.29 ล้านบาท ราคาหุ้นนิวไฮรอบ 3 ปี 7 เดือน โดยเทียบตั้งแต่หุ้นยืนที่ระดับ 0.61 บาท เมื่อวันที่ 4 ม.ค.2561

โดยล่าสุด(29 ก.ค.64) SDC ทำสัญญาความร่วมมือพันธมิตรธุรกิจเพื่อขยายขีดความสามารถในการให้บริการวิทยุคมนาคมระบบดิจิตอล (Digital Trunked Radio System) กับ บมจ.โทรคมนาคมแห่งชาติ  (NT) ปัจจุบัน NT ได้รับแจ้งจากการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (กฟภ.) ว่ามีความประสงค์เช่าบริการวิทยุคมนาคมระบบดิจิตอลสำหรับใช้งานในพื้นที่ภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ  และภาคใต้ รวม 9 เขต เป็นระยะเวลา 48 เดือน

ส่วนแบ่งรายได้ค่าใช้บริการ (Airtime) ของบริษัทในฐานะคู่สัญญาความร่วมมือพันธมิตรธุรกิจเพื่อขยายขีดความสามารถในการให้บริการวิทยุคมนาคมระบบดิจิตอลกับ NT จะมีจำนวนไม่เกิน 186 ล้านบาท รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม โดยบริษัทจะได้รับส่วนแบ่งรายได้ค่าบริการเป็นรายเดือน ตลอดระยะเวลาการใช้งาน 48 เดือน ทั้งนี้ รายได้ค่าใช้บริการ (Airtime) จะขึ้นอยู่กับการจัดหาและติดตั้งอุปกรณ์วิทยุคมนาคมของ NT และพันธมิตรในสัญญาดังกล่าว

อนึ่งก่อนหน้านี้ บริษัท สามารถ ดิจิตอล จำกัด (มหาชน) หรือ SDC คาดว่าปี 2564 จะเทิร์นอะราวด์ จากปีก่อนที่มีผลขาดทุนสุทธิอยู่ที่ 342.94 ล้านบาท และตั้งเป้าหมายรายได้อยู่ที่กว่า 2,000 ล้านบาท จากปีก่อนที่มีรายได้อยู่ที่ 722.75 ล้านบาท

รวมทั้ง SDC มองเห็นโอกาสในการพัฒนา Mobile Security App เพื่อเฝ้าระวังและป้องกันภัยทางไซเบอร์บนสมาร์ตโฟน โดยล่าสุด บริษัท ซีเคียวอินโฟ จำกัด จับมือกับ Lookout ผู้นำด้าน Mobile Security จากสหรัฐอเมริกา เปิดตัวแอปพลิเคชัน “ปกป้อง” (PokPong) ที่จะมาช่วยเฝ้าระวังและป้องกันภัยทางไซเบอร์ให้กับผู้ใช้สมาร์ตโฟน

ซึ่งปัจจุบันได้เปิดให้ทดลองที่ Play Store มีโปรโมชั่นรายเดือนเพียง 59 บาท และ Package รายปี 599 บาท คาดว่าภายในช่วงกลางเดือน เม.ย. 2564 จะเริ่มเปิดให้บริการได้ใน App Store เบื้องต้นตั้งเป้าหมายจะมียอดผู้ใช้บริการไม่น้อยกว่า 100,000 ราย ภายใน 1 เดือนแรก จากนั้นเพิ่มเป็น 500,000 ราย ในช่วง 3 เดือน และเพิ่มเป็น 1 ล้านราย ภายใน 1 ปี

Back to top button