SCB มองลงทุนหุ้นจีน 1 ปีขึ้น ผลตอบแทนสูง ชูกลุ่ม EV-Tech เด่นสุด

SCB มองลงทุนหุ้นจีน 1 ปีขึ้น ผลตอบแทนสูง ชูกลุ่ม Green Energy,EV,Tech Hardware และ Semiconductor น่าสนใจสุด


SCB Chief Investment Office ( SCB CIO ) ธนาคารไทยพาณิชย์ มองว่า การออกกฎระเบียบที่เข้มงวดขึ้นบนกลุ่มธุรกิจ Internet และ Non-Interne ของทางการจีน ในช่วง 1-3 เดือนที่ผ่านมา เริ่มทวีความรุนแรงและครอบคลุมหลายบริษัทมากขึ้น

โดยประเมินว่าทิศทางการออกกฎระเบียบและการคุมเข้มบริษัทจากทางการจีนในอนาคต โดยเฉพาะบนกลุ่มบริษัท platform ขนาดใหญ่ ยังมีแนวโน้มที่จะเข้มงวดต่อเนื่องอย่างน้อยในช่วงที่เหลือของปี 2564

ภาพรวมของการคุมเข้มบริษัทของทางการจีน อยู่ใน 3 ประเด็นหลัก ได้แก่ 1) การเพิ่มเสถียรภาพและลดความเสี่ยงในภาคการเงินโดยเฉพาะกลุ่ม fintech  (Financial de-risking มีความคืบหน้าค่อนข้างมาก) 2) การตรวจสอบการผูกขาดทางธุรกิจ (Anti-trust investigation มีความคืบหน้าปานกลาง) และ 3) การปกป้องความปลอดภัยของข้อมูลและผู้บริโภค (Data Security & Consumer Protection อยู่ในช่วงเริ่มต้น)

นอกจากนี้ ยังมีการออกกฎระเบียบด้านอื่นๆ ที่เกี่ยวเนื่องกับประเด็นการลดภาระทางการเงินของครัวเรือน ได้แก่ ด้านการศึกษา ด้านอสังหาริมทรัพย์ และ ด้านอื่นๆ เช่น การออกแนวทางและกฎระเบียบกับกลุ่ม Internet platform ที่มีโมเดลธุรกิจเกี่ยวกับ food delivery, on-demand delivery และบริการเรียกรถ

ทั้งนี้ SCB CIO ประเมินว่า กลุ่มที่อาจเผชิญแรงกดดันประเด็นการลดภาระทางการเงินของครัวเรือนในระยะถัดไป คือ กลุ่ม online gaming ที่ดำเนินธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับ online digital entertainment ขณะที่ ยังมีโอกาสค่อนข้างต่ำที่ทางการจีนจะห้ามระดมทุนผ่าน VIE (Variable Interest Enterprise) กับกลุ่มอื่นๆ

ทั้งนี้  SCB CIO มองว่า มีโอกาสค่อนข้างต่ำที่ดัชนี MSCI China จะปรับฐานลงอย่างมากต่อจากระดับปัจจุบัน แม้ดัชนี MSCI China ปรับฐานราว -13.5% ขณะที่ CSI300 -7.8% นับตั้งแต่ทางการจีนได้ออกมาตรการคุมเข้มกับธุรกิจกลุ่มโรงเรียนกวดวิชา แต่ความเสี่ยงเกี่ยวกับการออกกฎระเบียบที่เข้มงวดขึ้น (Regulatory risk) กับกลุ่ม internet platform โดยเฉพาะหุ้นจีนฝั่ง Offshore ยังคงมีอยู่ จะส่งผลให้ดัชนี MSCI China ซึ่งมีสัดส่วนของกลุ่ม internet platform ค่อนข้างสูง ยังมีแนวโน้มผันผวนสูง และ underperform

ดัชนีหุ้นจีนฝั่ง Onshore ในช่วงที่เหลือของปี 2564 นอกจากนี้ ตลาดหุ้นจีนฝั่ง Onshore ยังมีแนวโน้มได้รับแรงหนุนจากแนวโน้มการปรับลดสัดส่วนกันสำรองของธนาคารพาณิชย์ ( RRR ) และอัตราดอกเบี้ยในตลาดเงินเพิ่มเติม ในช่วงที่เหลือของปี และ หุ้นกลุ่มที่สอดรับกับมาตรการสนับสนุนของทางการจีน เช่น Green Energy, EV, Tech Hardware และ Semiconductor จะยังสามารถสร้างผลตอบแทนได้ดี

อย่างไรก็ตามแม้ว่า Valuation ของหุ้นกลุ่ม internet platform ของจีนจะมีความน่าสนใจมากขึ้น เมื่อเทียบกับหุ้นกลุ่ม internet platform ของสหรัฐฯ แต่ความเสี่ยงในการออกกฎระเบียบที่เข้มงวดจากทางการจีน โดยเฉพาะนัยต่อหุ้นจีนฝั่ง Offshore ที่ยังมีแนวโน้มดำเนินต่อเนื่องจะสามารถกดดันให้ Valuation ของกลุ่มฯ ยังปรับลดลงได้อีก

ด้านการลงทุนยังคงแนะนำ Neutral สำหรับการลงทุนในหุ้นจีน สถานการณ์การลงทุนหุ้นจีนในปัจจุบัน เหมาะสำหรับการลงทุนระยะยาว (ถือครอง 1 ปี ขึ้นไป) เท่านั้น และไม่เหมาะสำหรับกรอบการลงทุนระยะสั้น โดยแนะนำ “ถือ” (ไม่ซื้อ ไม่ขาย) โดยเฉพาะกรอบการลงทุนระยะสั้น (น้อยกว่า 1 ปี) หากมีการลงทุนอยู่แล้วยังสามารถถือลงทุนต่อไปได้ แต่หากยังไม่มีสถานะการลงทุนและเป็นกรอบการลงทุนระยะยาว (มากกว่า 1 ปี) สามารถทยอยสะสมสำหรับหุ้นจีน A-shares เท่านั้น เนื่องจาก ได้รับผลกระทบจากกฎเกณฑ์และการตรวจสอบของทางการจีนที่น้อยกว่าหุ้นจีน H-Shares / ADR

Back to top button