DRT โบรกฯอัพกำไรปีนี้แตะ 500 ลบ. ปีหน้าโตต่อเนื่อง แถมปันผลเด่นยีลด์สูงเกิน 6%

DRT โบรกฯอัพกำไรปีนี้แตะ 500 ลบ. ปีหน้าโตต่อเนื่อง แถมปันผลเด่นยีลด์สูงเกิน 6% แนะซื้อเป้า 8.50 บาท   


บล.ฟินันเซีย ไซรัส ระบุในบทวิเคราะห์วันนี้(18 ต.ค.64) ว่า บริษัท ผลิตภัณฑ์ตราเพชร จำกัด (มหาชน)  หรือ DRT ภาพรวม ไตรมาส 3/2564 ความต้องการวัสดุก่อสร้างอ่อนลง จากปัจจัยฤดูกาลที่เป็นช่วง เพาะปลูก, เข้าสู่ฤดูฝนเต็มตัว, ซ่อมบำรุงเครื่องจักรประจำปี และการแพร่ระบาดรอบ ใหม่ที่รุนแรง ส่งผลให้อัตราการใช้กำลังการผลิตปรับลดเป็นต่ำกว่า 80% จาก 90% ในไตรมาส 2/2564

อย่างไรก็ดี เทียบกับไตรมาส 3/2562 มองว่าเห็นการเติบโตในทุกช่องทางการจัด จำหน่าย โดยเฉพาะ Modern Trade และโครงการอสังหาริมทรัพย์จากฐานทำให้คาดยอดขายที่ 1.1 พันล้านบาท (ลดลง 17% เทียบไตรมาสก่อนหน้า,โต 8% เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อน) ขณะที่เห็นผลกระทบของต้นทุน วัตถุดิบที่สูงขึ้นหลังสต็อกเก่าทยอยหมด ทั้งต้นทุนเยื่อกระดาษ (คิดเป็น 11% ของต้นทุนรวม) และต้นทุนพลังงาน (คิดเป็น 7-8% ของต้นทุนรวม) คาดกดดันให้อัตรากำไรขั้นต้นปรับลดเป็น 27.5% จาก 31.1% ในไตรมาส 2/2564 และ 28.7% ในไตรมาส 3/2563 ส่งผลให้ประเมินกำไรไตรมาส 3/2564 หดตัว 34% เทียบไตรมาสก่อนหน้า แต่ขยายตัวได้ 5% เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อน เป็น 117 ล้านบาท

อีกทั้งปรับประมาณการปี 2564-2565 ขึ้น 7% และ 6% เป็น 500 ล้านบาท (โต 8% เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อน) และ 602 ล้านบาท (+2% เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อน) ตามลำดับ โดยปรับสมมติฐานหลัก ไดแก่ 1.) ปรับอัตรา กำไรขั้นต้นปี 2564 ขึ้นจากเดิม 28% เป็น 29% สะท้อนครึ่งหลังแรกปี 2564 ดีกว่าคาด แต่ยังคาดปี 2565 ที่ 28% ด้วยมุมมองระมัดระวัง จากราคาวัตถุดิบขาขึ้น โดยเฉพาะปูนซีเมนต์ (คิดเป็น 10-13% ของต้นทุนรวม) และ2.) ยอดขายปี 2564 คงคาดที่ 4.7 พันล้านบาท (+8% เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อน) แต่ปี 2565 ปรับขึ้นเล็กน้อย 2% เป็น 5 พันล้านบาท (+5% เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อน) จาก ความต้องการใช้วัสดุก่อสร้างเร่งตัวขึ้นตามเศรษฐกิจที่ฟื้นตัวหลัง COVID คลายตัว

ทั้งนี้หากงบไตรมาส 3/2564 ตามคาด จะคิดเป็น 83% ของประมาณการทั้งปี เบื้องต้นคาดผลประกอบการไตรมาส 4/2564 ลดลง เทียบไตรมาสก่อนหน้า ตามปัจจัยฤดูกาล แต่ขยายตัวได้เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อนสำหรับ ยอดขายระยะสั้นอาจได้รับผลกระทบบ้างจากสถานการณ์น้ำท่วม แต่เดือนพ.ย.-ธ.ค. คาดรับ Sentiment บวกจากอุปสงส์ซ่อมแซมบ้านหลังน้ำลด อาทิ ผลิตภัณฑ์ไม้ สังเคราะห์ รวมถึงสถานการณ์ COVID-19 ในประเทศดีขึ้น และการคลายมาตรการ ล็อกดาวน์ต่างๆ

อย่างไรก็ดี มองว่าอัตรากำไรขั้นต้นยังถูกกดดันจากราคาวัตถุดิบที่ สูงขึ้นตามราคาน้ำมัน ซึ่งมองว่ามีโอกาสที่บริษัทปรับราคาขายขึ้นเพื่อบรรเทา ผลกระทบดังกล่าว ขณะที่ล่าสุดเพิ่มช่องทางขายสินค้าผ่านสาขาของ DCC จังหวัด อ่างทองเป็นแห่งแรก เช่าพื้นที่ 120 ตร.ม. ตั้งแต่วันที่ 15 ต.ค ซึ่งเป็นสัญญารายปี โดยตั้งเป้ายอดขายปีละ 1-3 แสนบาทต่อเดือน แม้คิดเป็นเพียง 0.1% ของยอดขาย ของ DRT ต่อปี แต่มองเป็นบวกในแง่เพิ่มศักยภาพขยายฐานลูกค้าใหม่ผ่านเครือข่าย สาขาที่แข็งแกร่งของ DCC รวมถึงมีโอกาสต่อยอดธุรกิจด้านอื่นๆร่วมกันในอนาคต

โดยปรับเพิ่มราคาเหมาะสมปี 2565 เป็น 8.50 บาท จากเดิม 8.30 บาท (ถึง PER 12x หรือค่าเฉลี่ยย้อนหลัง 5 ปี) สะท้อนการปรับประมาณการขึ้น คงคำแนะนำซื้อ จาก Upside มากกว่า 10% และมองว่าเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจสำหรับนักลงทุนที่ชอบปันผล จากผลตอบแทนเงินปันผลดี คาดปี 2564-2565 ที่ 6.7-6.9% ต่อปี โดยครึ่งหลังปี 2564 แม้ผลประกอบการจะอ่อนลง เทียบครึ่งแรก แต่เชื่อว่าจะจ่ายปันผลระดับใกล้เคียงกับครึ่งแรกปี 2564  ที่ 0.22 บาท/หุ้น ซึ่งคิดเป็น Yield 3% ขณะที่มี Upside จากการขายที่ดินจังหวัดลำปาง 55 ไร่ ส่วน Key Risk คือต้นทุนวัตถุดิบสูงขึ้น ซึ่งคิดเป็น 52% ของต้นทุนรวม

Back to top button