SINGER วิ่ง 3% โบรกฯมองกำไรปีนี้ทะลุ 600 ลบ. รับสินเชื่อขยาย-รายได้เพิ่ม

SINGER วิ่ง 3% โบรกฯมองกำไรปีนี้ทะลุ 600 ล้านบาท รับสินเชื่อขยาย-รายได้เพิ่ม ชูเป้า 47 บาท จากผลการดำเนินงานที่ขยายตัวอย่างต่อเนื่อง และไม่ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 โดยเฉพาะในปี 2565 ตามความต้องการสินเชื่อเพิ่มขึ้นจากรถบรรทุกที่ได้ผลบวกจากการลงทุน ก่อสร้าง และโลจิสติกส์ ทำให้บริษัทสามารถขยายธุรกิจเพิ่มขึ้น


ผู้สื่อข่าวรายงานว่าวันนี้ (17 พ.ย. 64) ราคาหุ้นของบริษัท ซิงเกอร์ประเทศไทย จำกัด (มหาชน) หรือ SINGER โดย ณ เวลา 15:12 น. อยู่ที่ระดับ 49.00 บาท บวก 1.50 บาท หรือ 3.60% โดยทำจุดสูงสุดอยู่ที่ 49.75 บาท และต่ำสุดที่ 47.75 บาท ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 583.51 ล้านบาท

บริษัทหลักทรัพย์ เคทีบีเอสที จำกัด (มหาชน) ระบุในบทวิเคราะห์เมื่อวันที่ (11 พ.ย. 64) ว่าขณะนี้บริษัทรายงานกำไรสุทธิไตรมาส 3/2564 ที่ 165 ล้านบาท (เพิ่มขึ้น 41% เมื่อเทียบจากปีก่อน และลดลง 10% เมื่อเทียบจากไตรมาสก่อน) ใกล้เคียงกับที่ตลาดคาด แต่ต่ำกว่าที่ฝ่ายวิจัยคาดที่ 187 ล้านบาทจากยอดขายที่ต่ำกว่าคาด

โดยกำไรสุทธิเพิ่มเมื่อเทียบจากปีก่อน จาก 1) GPM ปรับตัวขึ้นเป็น 51% (ไตรมาส 3/2563 และไตรมาส 2/2564 อยู่ที่ 43% และ48% ตามลำดับ) จาก product mix ของสินค้าขาย, 2) รายได้ดอกเบี้ยขยายตัวเพิ่มขึ้น 40% เมื่อเทียบจากปีก่อน หนุนโดยสินเชื่อที่เพิ่มขึ้นเป็น 9.67 พันล้านบาท (เพิ่มขึ้น 77% เมื่อเทียบจากปีก่อน) โดยเฉพาะสินเชื่อ C4C ที่ปรับตัวขึ้นมากกว่า เพิ่มขึ้น 102% เมื่อเทียบจากปีก่อน และทำให้มีสัดส่วนเพิ่มขึ้นต่อเนื่องเป็น 56% ของสินเชื่อรวม (ไตรมาส 3/2563 และไตรมาส 2/2564 อยู่ที่ 49% และ 54% ตามลำดับ) และ 3) NPL ปรับตัวลงต่อเนื่องอยู่ที่ 3.7% ขณะที่กำไรสุทธิหดตัว เมื่อเทียบจากไตรมาสก่อน จาก 1) ยอดขายที่ปรับตัวลง ลดลง 33% เมื่อเทียบจากไตรมาสก่อน ตามปัจจัยฤดูกาล และ 2) ค่าใช้จ่ายสารองที่เพิ่มขึ้นตามพอร์ตสินเชื่อที่ขยายตัว เพิ่มขึ้น 13% เมื่อเทียบจากไตรมาสก่อน

ทั้งนี้ ฝ่ายวิจัยคงประมาณการกำไรสุทธิปี 2564 ที่ 664 ล้านบาท (เพิ่มขึ้น 50% เมื่อเทียบจากปีก่อน) และปี 2565 ที่ 1.07 พันล้านบาท (เพิ่มขึ้น 61% เมื่อเทียบจากปีก่อน) หนุนโดย 1) สินเชื่อที่จะขยายตัวปีละ เพิ่มขึ้น 60% และเพิ่มขึ้น 56% เมื่อเทียบจากปีก่อน จากฐานะทางการเงินที่แข็งแกร่ง (D/E ต่ำเพียง 0.5 เท่า) มีแหล่งเงินทุนที่สูงเพื่อรองรับการขยายตัว ภายหลังที่มีการเพิ่มทุน PP และ RO ที่คาดว่าจะแล้วเสร็จในเดือน ธ.ค. 2564, 2) รายได้จากการขายเพิ่มขึ้นปีละ ซึ่งเพิ่มขึ้น 25% และเพิ่มขึ้น 8% จากการขยายสาขาที่เพิ่มขึ้น และมีสินค้าที่ขายเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะสินค้า IT ของ Fanslink ที่เราคาดว่าจะรับรู้รายได้ในรูปแบบ commission fee ที่เพิ่มขึ้น และ 3) NPL จะลดลงเป็น 3.2% และ2.5% จากสัดส่วนสินเชื่อ C4C ที่มี NPL ต่ำเพิ่มขึ้นเป็น 67% และ 77% ของสินเชื่อรวม (ปี 2563 อยู่ที่ 52%)

โดยฝ่ายวิจัยคงคำแนะนำซื้อ ราคาเป้าหมาย 47.00 บาท อิงปี 2565 โดยค่า PER ที่ 35 เท่า เทียบเท่า ปี 2565 ค่า PEG ที่ 0.7 เท่า (ขณะที่ปี 2564-2566 ค่า EPS เฉลี่ยที่ 51%) โดยฝ่ายวิจัยประเมินว่า SINGER ควรที่จะเทรด premium มากขึ้น จากสินเชื่อที่จะขยายตัวอยู่ในระดับสูง, ลดความกังวลต่อปัญหา NPL ที่สูงในอดีต และได้ Synergy กับกลุ่ม JMART และ BTS เช่น การให้บริการสินเชื่อสมาร์ทโฟนกับ J-mobile, การติดตามหนี้ที่มีคุณภาพมากขึ้นผ่าน JMT และรายได้ส่วนแบ่งที่เพิ่มขึ้นจากการขายสินค้า Fanslink

Back to top button