หุ้นเหล็กขึ้นยกแผง! SAM นำทีมวิ่ง 8% ตอบรับราคาโลหะพุ่ง หลังรัสเซียโจมตียูเครน

หุ้นเหล็กขึ้นยกแผง! SAM นำทีมวิ่ง 8% ตอบรับราคาโลหะพุ่ง ด้วยต้นทุนพลังงานสูงขึ้น หลังรัสเซียโจมตียูเครน


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ (19 พ.ค. 2564) ราคาหุ้นกลุ่มเหล็กปรับตัวขึ้นแรง นำโดย  SAM, THE, BSBM,PERM, CITY,AMC, TMT,TSTH, TYCN, NOVA, PAP,CSP และ TWP เนื่องจากได้รับประโยชน์ราคาโลหะปรับตัวเพิ่มขึ้น หลังรัสเซียโจมตียูเครน ดังตารางประกอบ

บล.เคทีบีเอสทีระบุในบทวิเคราะห์วันนี้(4 มี.ค.2565) ว่า รัสเซียกำลังรับผลกระทบจากการถูกคว่ำบาตร 1 สัปดาห์หลังจากเริ่มทำสงครามกับยูเครน รัสเซียได้ถูกคว่ำบาตร (sanction) จากนานาประเทศมาอย่างต่อเนื่อง ซึ่งระดับของการ  sanction มี ตั้งแต่การติดธนาคารของรัสเซียออกจากระบบการชำระเงินระหว่างประเทศ (SWIFT) การระงับ โครงการก่อส่งก๊าซฯ Nord Stream 2 การควบคุมการส่งออกสินค้าโภคภัณฑ์ที่สำคัญไปรัสเซีย (เช่น semiconductor chip) ไปจนถึงการอายัดทรัพย์สินและจำกัดการเดินทางของบุคคลที่เกี่ยวข้องกับ ประธานาธิบดีของรัสเซีย ทั้งนี้ หลังมาตรการ sanction ต่างๆ ทำให้เงินรูเบิ้ลอ่อนค่าเทียบกับเหรียญ สหรัฐไป 18% ตั้งแต่วันที่สงครามเริ่มแล้ว อีกทั้งธนาคารใหญ่ที่สุดของรัสเซียก็ถูกห้ามซื้อขายในตลาด หลักทรัพย์หลังจากที่ราคาหุ้นลดลงอย่างมาก

อีกทั้งภาคธุรกิจยังได้รับแรงกระทบด้วย แม้ EU จะมีการห้ามการซื้อขายบางผลิตภัณฑ์ น้ำมันสำหรับธุรกิจโรงกลั่นในรัสเซีย แต่ก็ไม่มีการ sanction ในส่วนของการส่งออกน้ำมันดิบหรือก๊าซฯ ของรัสเซีย อย่างไรก็ดี จากการถูกถอดออกจาก SWIFT ทำให้บริษัทคู่ค้าของบริษัทพลังงานรัสเซียทำ การชะลอการซื้อขายออกไปหรือหันไปทำธุรกรรมกับชาติอื่นแทน นอกจากนี้ บริษัทพลังงานข้ามชาติ ก็ ได้ประกาศถอนตัวจากการลงทุนในรัสเซีย ส่วนบริษัทรถยนต์ชั้นนำก็แสดงมาตรการคว่ำบาตรโดยการ หยุดการผลิตและส่งออกไปรัสเซีย และ IKEA บริษัทขายของใช้ในบ้านระดับโลกก็ประกาศหยุดการ ให้บริการชั่วคราวในรัสเซียและเบลารุส

ด้านราคาพลังงาน โลหะ สินค้าโภคภัณฑ์ปรับตัวเพิ่มขึ้น หลังรัสเซียโจมตียูเครน ราคาน้ำมันดิบ Brent ปรับตัวเหนือระดับ 110 ดอลลาร์/บาร์เรล เป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ปี 2557 ราคาถ่านหินทำสถิติสูงสุดใหม่ที่ ระดับ 440 ดอลลาร์/ตัน ขณะเดียวกัน ดัชนี Baltic Dirty Tanker ปรับตัวขึ้นเท่าตัวใน 1 สัปดาห์ ส่วนราคา ผลิตภัณฑ์เกษตร เช่น ข้าวสาลีและน้ำมันปาล์มก็ปรับตัวสูงขึ้น 35%-40% YTD ทั้งนี้เราคาดว่าโลหะ สินค้าโภคภัณฑ์ อื่นๆ อาจจะมีการปรับตัวขึ้นจากต้นทุนพลังงานที่สูงขึ้น

Implication แนะนำให้เทรดหุ้นที่ยังไม่ได้สะท้อนปัจจัยราคา commodity ที่สูงขึ้นโดยเชื่อว่าหุ้นใน กลุ่ม Commerce และ Tanker จะ outperform ขณะที่หุ้นในกลุ่ม Food และ Utilities จะunderperform ทั้งนี้ตั้งแต่ที่แนะนำไปในบทวิเคราะห์ครั้งก่อน SET Index ได้ปรับตัวสูงขึ้นไป 2% จากแรงหนุนจากหุ้นในกลุ่มพลังงาน

ขณะที่หุ้นในกลุ่ม Electronic ปรับตัวลงมากที่สุด ตามที่วิเคราะห์ไว้ตอนนี้เชื่อว่ายังมีโอกาสในการเข้าเทรดหุ้นที่ยังไม่ได้สะท้อนปัจจัยราคาสินค้าโภค ภัณฑ์ (Commodity) ที่สูงขึ้น

โดยชอบหุ้นในกลุ่ม Commerce (DOHOME, GLOBAL) ซึ่งน่าจะ ได้ประโยชน์จากราคาเหล็กที่สูงขึ้น และ Tanker index ที่เพิ่มขึ้นจะส่งผลดีต่อ PRM ขณะที่เชื่อว่า หุ้นในกลุ่ม Food (TU, CBG) น่าจะมีโอกาสปรับตัวลงจากต้นทุน packaging (โดยเฉพาะ อะลูมิเนียม) ที่ปรับตัวสูงขึ้น ขณะที่หุ้นบางตัวในกลุ่มโรงไฟฟ้า คือ BGRIM และ GPSC ได้รับผลลบจากต้นทุนก๊าซฯที่สูงขึ้น

สำหรับโลหะ (เหล็ก, ทองแดง, อะลูมิเนียม) : Sector/หุ้น ที่คาดว่าจะได้รับผลกระทบเชิง +/- เรียง ตามลำดับ ได้แก่ 1.Commerce: DOHOME, GLOBAL ได้ประโยชน์จากราคาเหล็กที่สูงขึ้น,2.Electronic: KCE, HANA, HTECH จากต้นทุนวัตถุดิบที่สูง,3.Food: ASIAN, TU, CBG จากต้นทุน packaging ที่สูงขึ้น โดยเฉพาะอะลูมิเนียม,4.Construction Services: CK, STEC, RT, PYLON, SEAFCO เนื่องจากต้นทุนเหล็กคิดเป็นราว5% ของต้นทุนรวม

Back to top button